หม่ำ จ๊กมก เปลือยความรู้สึกถึงลูก “เอ็ม-มิกซ์” ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
วันที่ 5 ธ.ค. ตลกชื่อดังหม่ำ จ๊กมก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ได้ทำพิธีบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “คุณชายใหญ่” ที่ บริษัท บั้งไฟฟิล์ม บางใหญ่ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการดูแลลูกๆ ทั้ง 2 คน “เอ็ม บุษราคัม” ลูกสาว และมิกซ์ เพทาย วงษ์คำเหลา ให้คำแนะนำ หรือสอนลูกอย่างไรให้ผ่านเรื่องดราม่าต่างๆไปได้
ดูแลลูกๆ ยังไงเพราะแต่ละคนก็มีดราม่ากระแสสังคม บางทีทำอะไรนิดหน่อยก็ตีกลับมา ?
“ผมก็ห่วงนะ เหมือนเอ็มก็จะชอบไปต่อปากต่อคำ ผมจะไม่ชอบไปต่อปากต่อคำ เราคนกลางแจ้งเราเสียเปรียบแล้วผมไม่ชอบคนขอโทษทีหลัง ผมว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย ก็อย่าไปทำสิ จะได้ไม่ต้องไปขอโทษ ผมคิดอย่างนั้น ขอโทษไปเพื่ออะไร ผมผิดไปแล้วรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถุ้ย! มึงก็อย่างไปพูดสิ มึงก็อย่าไปทำสิ แล้วก็แต่งใส่สร้อย ใส่เพชรเต็มหูเลย ไม่ใช่เรื่องของพ่อมึง เรื่องของเขา เขาจะใส่อะไรก็เรื่องของเขา เขาจะนั่งโรลส์-รอยซ์ก็เรื่องของเขา เขาจะนั่งเบนท์ลี่ย์ก็เรื่องของเขา มึงไม่มีตังค์มึงอย่าพูดมันเรื่องของเขา อุ้ย ดีใจด้วยนะ อยากมีโอกาสเหมือนเขาเขามากเลย มันดีกว่าอวดร่ำอวดรวย เอาอีกละ ก็กูมีตังค์มันผิดอะไรวะ มันก็พูดได้ทุกคนก็พูดได้ แล้วสุดท้ายคืออะไร มันต้องมานั่งขอโทษขอโพยกัน”
ได้เตือนบ้างไหม ?
“เตือน ก็บอกลูกประจำว่าอย่าไปทำ แต่ว่าถ้าบอกไม่ฟังแล้ว มันก็จะเป็นผลกับครอบครัว ความศรัทธา แล้วเขาก็จะแบ่งแยก ต่างกับพ่อมันมากเลย เอ้ย..กูว่าจะซื้อข้าวแกงร้านมึงกิน กูไม่กินละ คงจะเป็นเหมือนนิสัยมึงอ่ะ มันเป็นผลกระกอบกับสิ่งที่ทำอยู่ด้วย ถูกไหม หนังคนนั้นผมดูแล้วไม่ดีเลย มึงกล้าพูดแบบนี้หรอมึงคนทำหนัง ถูกหรือเปล่า ผมจะพูดเพื่ออะไร ผมก็ไม่พูด พูดทำไม นี่คือทักษะง่ายๆ มันแค่นั้นเอง มันจะมีอะไร ทำงานแล้วไปนินทาเจ้านายกับเลขาเขามึงบ้าหรือเปล่า มันก็แค่นี้แหละ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย”
ลูก 2 คนห่วงใครมากกว่ากัน ?
“ผมเป็นห่วงความเป็นอยู่ของน้องมิกซ์ ว่าเขาจะไปในทิศทางไหนในวันข้างหน้า แล้วผมเป็นห่วงเอ็มเวลาที่เขาชอบไปต่อปากต่อคำกับคน ถึงบอกไปว่ามันจะเป็นผลส่งไปกับครอบครัว อันดับแรก ทำไมมึงไม่เหมือนพ่อมึงวะ เปรียบเทียบละ พ่อมึงเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ นะ ไม่ค่อยเห็นไปตอบคอมเมนต์อะไร อันนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ นะ
แต่ว่าผมไม่ได้ไปบอกลูกเท่าไหร่นะ แล้วก็เป็นผลกับกิจการ มึงขายอะไรก็เป็นอันนั้นแหละ เพชรมึงน้ำไม่งามถ้ามึงขายเพชร เพราะปากมันเป็นแบบนี้ นี่มันเป็นผลทั้งๆ ที่ของเราดี เพราะเราไปทำตัวแบบนั้นมันก็มีส่วน หลายเรื่อง แต่บอกได้แค่บอก คนพวกนี้แม้กระทั่งลูก ถ้าบอกแล้วมันไม่จำมันไม่ฟัง ก็ต้องรู้ด้วยตัวเองว่ามันจะถดถอยลงไปเรื่อยๆ ก็ได้แค่ประคอง มันมีได้เท่านี้แหละ
แต่บางทีคือผมไม่ใช่คนเก่งเรื่องโซเชียลเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ชอบดูด้วย มีแต่คนเล่าให้ฟังเล่าให้ฟังผมก็ไม่อยากฟัง เพราะเป็นเรื่องของมึงด้วยวัยของมึงแล้วลูก อายุจะ 35 แล้ว ไม่ใช่ยังไม่บรรลุนินมันเลยนิติภาวะไปเยอะมากแล้ว ต้องคิดเองได้ต้องคิดเป็นได้ ถ้าคิดไม่เป็นก็เป็นแบบนี้ไง
เออ..ลูกหม่ำใจร้อนเนอะไม่เหมือนพ่อเนอะ ทำไมลูกหม่ำลงแบบนี้วะ ทำไมหม่ำเขาลงทำกับข้าวมัน ก็จะต่างกันไปอีกแบบนึง ลงเมียเต้นไปสนุกสนานไป บางทีก็ไม่อยากจะเป็นห่วงแต่คนรอบๆ เล่าให้ฟังผมก็ มึงอายุ 35 แล้วอ่ะ มึงต้องคิดเป็น ท้ายสุดคือมันจะถูกเปรียบเทียบว่าต่างจากพ่อมึงมาก แล้วก็เป็นผลกับธุรกิจ คนเขาไม่เชื่อใจมึงหรอก”
แล้วน้องมิกซ์ล่ะ?
“ยังอีกไกลเลย ยังมองไม่เห็นเลยว่าจะไปทางไหน 24 ยังคิดไม่ได้เลย สำหรับผมนะ สำหรับพ่อยังคิดไม่เป็นเลย แต่ว่าเขาอาจจะมีวิธีคิดอีกแบบก็ได้ เขายังไม่รู้ว่าการจ่ายค่าไฟ จ่ายค่าน้ำ จ่ายค่าภาษีบ้าน ภาษีที่ดิน เขายังไม่รู้เขายังไม่เคยจ่าย เขายังไม่เคยซื้อรถมีแต่ของพ่อ”
ดูพี่หม่ำก็หนุนเขาทุกอย่าง ?
“มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของพ่ออยู่แล้ว ถามว่าที่เราพูดไปทั้งหลายแหล่ก็พูดไปงั้นแหละเราทิ้งลูกไม่ได้หรอก เพราะเขาคือลูกถ้าบอกแล้วไม่ฟัง บางทีโลงศพก็มีไว้ให้หลั่งน้ำตานะ”
ขอบคุณรูปจากไอจี : emmeemm
