โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มใหญ่เชียงใหม่กินลาบหมูดิบ สุดท้ายติดเชื้อหูดับ อีก 3 รายรอดูอาการ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 18 ส.ค. 2562 เวลา 00.17 น. • เผยแพร่ 17 ส.ค. 2562 เวลา 17.59 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

หนุ่มใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมวงกินลาบหมูดิบ จนสุดท้ายติดเชื้อหูดับ ขณะที่ต้องรอดูอาการเพื่อนๆ ที่กินด้วยอีก 3 คน ว่าจะติดเชื้อหรือไม่

เมื่อ 17 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามกลุ่มคนที่ได้กินลาบหมูสดร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อโรคหูดับ หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทีมควบคุมโรค อ.ไชยปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่บ้านท่า ต.ปงตำ เพราะได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยด้วยอาการไข้สูงและอาเจียน และตามมาด้วยอาการชักเกร็ง ทางญาติได้นำตัวส่ง รพ.ไชยปราการ เบื่องต้นทาง รพ.ไชยปราการได้ส่งตัวต่อไปยัง รพ.นครพิงค์ ในวันที่ 13 ส.ค. ผลการเจาะเลือดพบเชื้อ “streptococcus suis” หลังจากสอบสวนทราบว่าได้ไปรับประทานลาบหมูดิบและหลู้หมูดิบพร้อมดื่มสุรา 35 ดีกรีในช่วงวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามผู้ที่ได้ร่วมรับประทานกับผู้ป่วยอีก 4 ราย และให้ดูอาการกับเฝ้าระวัง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านท่า ม.2 ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เพื่อสอบถามหลังทราบมีผู้เป็นโรคหูดับ (สเตรปโตคอคคัส ซูอิส) หลังกินลาบหมูดิบใส่เลือด หรือที่คนทางภาคเหนือเรียกว่า "กุ๊ยลูด" จากการสอบถาม คุณตาสว่าง ดวงสมบัติ อายุ 80 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ตอนประมาณ 9 โมงเช้า ตนเองขายลำไยได้จึงไปซื้อเนื้อหมูมาทำลาบเพื่อเลี้ยงเจ้าที่และชักชวนพรรคพวกอีก 3 คนมากินลาบกันที่บ้าน ได้แก่ นายสุนทร แสงมูล (ปั๋น) อายุ 56 ปี, นายยนต์ ยองจา (บอย) อายุ 49 ปี และนายศรีนวล โพทัง (แดง) อายุ 54 ปี เป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโรคหูดับ ซึ่งตอนกินลาบทั้ง 4 คน ก็ยังได้ดื่มสุรา 35 ดีกรีด้วย โดยหลังจากกินเสร็จก็ได้แยกย้ายกันไปทำงาน แต่ตนมาทราบภายหลังว่านายแดงเป็นโรคหูดับต้องไปรีบรักษาตัวที่ รพ.นครพิงค์

ด้านภรรยาของนายแดงโทรหานายบอย ได้เล่าให้กับนายบอยฟังว่าหลังจาการกินลาบตอนเช้า ตกเย็นได้ไปกินเหล้าต่อ พอตกกลางคืนเวลาประมาณ 02.00 น. นายแดง มีอาการไข้สูงและอาเจียน ชักเกร็ง ทางแพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจและส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.นครพิงค์ ตอนแรกคิดว่าเป็นโรคประจำตัวของนายแดง แต่แพทย์ได้เจาะเลือดพบว่ามีเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส (โรคหูดับ) ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ใกล้ชิด และให้ถามพวกกินลาบดิบว่ามีอาการด้วยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 คนยังอยู่ในช่วงเฝ้าดูอาการและรู้สึกตกใจที่นายแดงต้องเข้ารพ. โดยทั้งหมดบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่กินลาบดิบอีกต่อไป

ทางด้าน นางสาวสายอรุณ บุญคำแสง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ผอ.รพ.สต.บ้านปงตำ ให้สัมภาษณ์ว่า จาการลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชน เพื่อตรวจติดตามเฝ้าระวังพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหูดับให้กับกลุ่มเสี่ยง โดยกระจายเสียงตามหมู่บ้าน ทั้ง 3 คนที่กินลาบดิบยังต้องติดตามอาการต่อเนื่อง 14 วัน นางสาวสายอรุณยังฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนให้ระวังการบริโภคหมูดิบซึ่งเสี่ยงเป็นโรคหูดับ ควรจะรับประทานที่ปรุงสุกอยู่เสมอ เนื่องจากโรคนี้อันตรายถึงชีวิตได้.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0