หนุ่มใหญ่ทุบรถ เหตุพบจอดบนที่คนพิการ กลางลานจอดรถห้าง ยินดีจ่ายค่าเสียหาย…
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Peerapong Amornpich ได้โพสต์คลิป พร้อมข้อความ “ผมทุบรถ คนไม่พิการ มาจอดรถที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ขอยินยอมปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดในสังคมไทย โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร ลำดับเหตุการณ์
- ผมเห็นรถคู่กรณีมาจอดในที่คนพิการ ห้าง Big C แล้วเดินออกไป 2 คน มองจากด้านหลัง สูงยาว เข่าดี ไม่ได้พิการ หรือ ท้อง
- ผมมากับครอบครัว อุ้มลูกอยู่ ไม่สามารถตามไปทันได้ จึงจำหมายเลขทะเบียนรถแล้วเดินไปแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประกาศ ตามเจ้าของรถมาเลื่อนรถ โดยรออยู่นานก็ไม่มาสักที ผมจึงฝากประชาสัมพันธ์จัดการและกลับไปหาครอบครัวที่รออยู่ที่สุกี้ MK
- หลังจากนั่งทานไปสักพัก ผมก็เดินไปดูรถก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ไปที่ประชาสัมพันธ์อีกครั้งถามว่าเป็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มาเลย ผมเลยแจ้งว่าให้ประกาศอีกครั้งและทำอย่างไรก็ได้ให้เขามาเลื่อนรถภายใน 10 นาที ถ้าไม่มาผมจะทุบรถ
- ครบกำหนด ผมเดินไปที่รถเพื่อทุบ ขณะกำลังจะทุบ ผู้จัดการ big c ก็มาขอร้องว่า อย่าทุบเลย เดี๋ยวเธอโดนไล่ออก ผมก็เลยหยุดและบอกว่าให้อีก 10 นาที ถ้าไม่มาเลื่อนรถ คราวนี้ทุบจริง
- ผมกลับไปทานสุกี้กับครอบครัว ให้เวลาเขานานๆ เลย มากกว่า 10 นาทีมากๆ ทานจนเสร็จ เช็คบิล ผมก็เอาลูกให้ภรรยาอุ้ม และ ผมขอตัวแปป
- กลับมาที่รถคันดังกล่าว ก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ทุบเลย
- หลังจากนั้น ผมก็จะเอากุญแจรถให้ภรรยาขับกลับบ้านไปก่อน ส่วนผมรอคุยกับคู่กรณีที่เกิดเหตุ แต่ภรรยาแจ้งว่าให้พี่น้องที่โบสถ์มารับกลับบ้านแล้ว
- คุยกับตำรวจ รออยู่สักพัก ก็ตัดสินใน live ลง facebook ว่าผมได้ตัดสินใจทุบรถ และ ทุบรถแล้ว โดยผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ยินดีปล่อยให้เมืองไทยเป็นแบบนี้ โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร
- ระหว่างนั้น คู่กรณีก็มาถึง ถามว่าใครเป็นคนทำ ผมได้ยินหันกลับไปแล้วก็เป็นอย่างในวีดีโอ ซึ่งผมแจ้งว่าน้องจอดรถในที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหายที่ผมทุบ น้องเขาบอกว่าไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามต่อมาที่โรงพักน้องเรียกร้องเงิน 70,000 บาท โดยเป็นค่าซ่อม 20,000 + ค่าเสียเวลาและเช่ารถ 50,000 บาท ถ้าไม่ให้จะฟ้องศาล และขู่ว่าถ้าผมไม่จ่ายจะต้องจ่ายมากกว่านี้อีกเยอะ
- จากการคุยกับน้องผู้หญิงที่โรงพัก น้องบอกว่าบ้านอยู่แถว big c และ มาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ
- แต่ใน live สด ตามที่ปรากฏ น้องทั้งสองอ้างว่าไม่รู้เลยว่าตรงนั้นเป็นจอดรถคนพิการ และ แม้นว่าที่จอดรถคนพิการจะโล่งมาก และ มีสีน้ำเงิน และ สัญลักษณ์ต่างๆ ให้เห็นเด่นชัดเจนว่าเป็นที่จอดรถคนพิการ หลังจากเดินลงจากรถแล้วก็มองเห็นอยู่ดี ไม่ได้เป็นตามที่กล่าวอ้าง และ แก้ตัวเร็วมากจนทำให้ผมเชื่อว่าเตรียมคำแก้ตัวไว้ล่วงหน้ามาแล้วจึงตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องนึกย้อนไปที่เหตุการณ์เลยว่าทำไมตัวเองจึงตัดสินใจทำแบบนั้น ผิดธรรมชาติที่ถ้าคนไม่ได้ตั้งใจ เขาจะงงงง และ ทบทวนเหตุการณ์สักพัก ถึงจะตอบได้ ไม่ใช่ตอบได้ทันทีแบบที่เห็นใน live สด
- กลับไปที่โรงพัก หลังจากน้องเรียกร้องเงิน 70,000 บาท โดยเฉพาะค่าเสียเวลา+ค่าเช่ารถ 50,000 บาท ร้อยเวรได้ยินก็เรียกทั้งสองไปคุยอีกครั้ง และ ต่อมาก็เรียกผมเข้าไปบอกว่า ลดค่าเสียเวลา+เช่ารถ เหลือ 10,000 บาท ซึ่งผมก็ได้โอนเงินจ่ายให้น้องเขาไป (เจ็บจี๊ดๆ แบบบอกไม่ถูก ตอนโอนเงิน)
- ตำรวจบอกว่าผมทำไม่ถูกต้อง ควรใช้วิธีอื่นๆ ผมก็ถามกลับไปว่าผมควรทำอย่างไร ตำรวจก็ไม่ได้ให้คำตอบ
- ผมทำในส่วนของผมแล้วให้สังคมไทย ได้เริ่มที่จะหยุด “คนไม่พิการมาเบียดเบียนแย่งจอดรถในที่คนพิการ” ถ้ามีวิธีอื่นที่ผมเลี่ยงได้ผมก็จะทำแต่นี่มันไม่มี ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ เหตุการณ์ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือ มีแต่คนบ่นว่าคนร่างกายดีมาจอดรถที่คนพิการ โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
- ผมต้องการสังคมไทยที่ดีให้ ลูกหลานผม และ ตัวผมเอง ได้อยู่อาศัย แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้ ก็อยู่ที่คนในสังคมแล้วว่าจะเดินไปพร้อมกับผมมั้ย ”
เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยได้มาชื่นชมการกระทำของชายดังกล่าวที่ทำเพื่อคนพิการและต่อว่าคู่กรณี บางคนก็ออกมาตำหนิชายทุบรถว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคม.