หนุ่มแกร็บคาร์ขึ้นโรงพักร้องตำรวจ ให้แจ้ง 3 ข้อหา รปภ.สนามบินเชียงใหม่ พร้อมโชว์ใบรับรองแพทย์ยืนยันถูกทำร้ายจริง ไม่ได้ลวงโลก ขณะที่ ผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
จากกรณีที่ หนุ่มแกร็บคาร์ นายสุชาติ ไชยประยา อายุ 39 ปี ได้ร้องเรียนสื่อว่าถูก รปภ.ภายในท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ทำร้ายร่างกายช่วยกันรุมกระทืบเตะ-ต่อยตนนานกว่า 2 นาที จนบาดเจ็บ เหตุเพราะเข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบิน เมื่อวันที่ 20 ก.ค 62 พร้อมกับมีคลิปขณะโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขณะที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ชี้แจง ว่านายสุชาติมีพฤติกรรมคุกคามเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้ท่อนเหล็กข่มขู่ หลังฝ่าฝืนจอดรถในที่ห้ามจอด และฝ่าฝืนนำรถใช้รถเก๋งทะเบียน งธ 8161 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถส่วนบุคคลเข้าไปรับผู้รับสาร พร้อมยืนยันไม่มีการทำร้ายนายสุชาติตามที่กล่าวอ้างนั้น
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ค.62) ภายหลังจากที่ นายสุชาติ อาการบาดเจ็บดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาล ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ทันที เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย, กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้หมดอิสรภาพ, และหมิ่นประมาท พร้อมให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
โดยนายสุชาติ บอกว่า เขาถูกทำร้ายร่างกายจริง โดยคนที่ทำร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่อย่างน้อย 2 คน โดยถูกทำร้ายระหว่างที่กักตัวไว้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ด้วยการจับเขาหันหลัง แล้วนำเข้าไปในห้องอีกห้องนึง และเริ่มทำร้ายร่างกาย เขาจึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดี เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง พร้อมกับมีใบรับรองแพทย์มายืนยันด้วย ซึ่งความเสีย หายที่เกิดขึ้นยืนยันให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานที่อยู่ในขณะเกิดเหตุออกมายอมรับความจริงแบบลูกผู้ชาย
นายสุชาติ ไชยประยา ผู้บาดเจ็บ
ด้านพนักงานสอบสวน ระบุว่าเบื้องต้นได้รับแจ้งความไว้และจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน ส่วนจะดำเนินคดีในข้อหาตามที่แจ้งมาในข้อหาใดหรือไม่นั้น ต้องดูตามพยานหลักฐาน ขณะที่ความเคลื่อนไหวของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทางผู้บริหารได้ออกแถลงการณ์ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานนานาชาติเช่นเดียวกันทั่วโลก
ซึ่งการปฏิบัติงานช่วงดังกล่าวก็ได้มี ตำรวจของ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ร่วมปฏิบัติงานด้วยในการควบคุมตัวชายหนุ่มที่ขับแกร๊บ ทั้งนี้เตรียมให้ฝ่ายกฏหมายของทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตรียมข้อมูลหลักฐาน และสำนวนเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับหนุ่มแกร๊บคาร์ ที่ออกมาให้ข่าวในเชิงสร้างความเสื่อมเสียให้กับทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
