โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มร้องไห้โฮลั่นโรงพัก! ทำตำรวจเหนื่อยทั้งวัน เพราะความเบื่อโดนเมียใช้ไปขายของ(คลิป)

Khaosod

อัพเดต 08 พ.ย. 2562 เวลา 16.09 น. • เผยแพร่ 08 พ.ย. 2562 เวลา 16.09 น.
885522

หนุ่มร้องไห้โฮลั่นโรงพัก! ทำตำรวจเหนื่อยทั้งวัน เพราะความเบื่อโดนเมียใช้ไปขายของ

วันที่ 8 พ.ย. ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สิริภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง เข้าสอบปากคำ นายทัตติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี หลังแจ้งตำรวจถูกคนร้ายชิงทรัพย์สร้อยคอหนัก 3 บาท สร้อยข้อมือหนัก 2 บาท รวมน้ำหนักทอง 5 บาทหลบหนีไป เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมันปตท.ริมถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งขาเข้า ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนครั้งแรก นายทัตติ ให้การว่า ขับรถกระบะมาสด้า สีขาว ทะเบียน 3 กง 9127 กทม. ออกจากบ้านพักเพื่อไปขายรองเท้าสุภาพสตรี ที่ตลาดพระราม 4 ตามปกติ แต่ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มและเข้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ปรากฎว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ เข้ามาต่อยที่ใบหน้า 2-3 ครั้ง

และพยายามกระชากสร้อยคอทองคำที่คอแต่ตนก็ต่อสู้และพยายามขัดขืน แต่เมื่อคนร้ายชักอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซ.ม. ออกมาจี้คอและพูดว่า“มึงเงียบ” เมื่อได้สร้อยคอแล้ว คนร้ายยังพยายามกระชากสร้อยข้อมือที่ใส่อยู่อีกเส้น แต่กระชากไปไม่ได้ ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้าย ตนจึงยอมถอดสร้อยข้อมือให้คนร้ายไป

“เมื่อคนร้ายได้ทรัพย์สินไปแล้วยังพูดว่า “มึงอยู่นี่ก่อนนะ” แล้วก็วิ่งหนีออกไป ส่วนยืนรออยู่ในห้องน้ำ 1 นาทีจึงเดินออกมา พื่อดูว่าหลบหนีไปทางไหน แต่ไม่เห็นจึงได้เดินไปถามชาวบ้านที่จอดรถอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อว่าเห็นคนร้ายหรือไม่ แต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ผมจึงได้โทรแจ้ง 191 จากนั้นตำรวจเดินทางมาที่ปั๊มน้ำมันแล้วพามาแจ้งความที่โรงพัก”

ด้านพ.ต.อ.สิริภพ เปิดเผยหลังสอบสวนนายทัตติ ว่าหลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในปั๊มอย่างละเอียดทุกตัว ปรากฎว่าไม่พบเหตุการณ์ตามที่ผู้เสียหายเเจ้งความ จึงนำตัวไปตรวจหาร่องรอยการถูกทำร้ายตามที่กล่าวอ้างที่ร.พ. ก็ไม่พบบาดแผล ก่อนนำตัวมาสอบสวนนอย่างละเอียดอีกครั้ง

จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 10 ชั่วโมง นายทัตติ จึงรับสารภาพว่า กุเรื่องขึ้นมาทั้งหมดและนำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมเลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ไปขายที่ร้านทองในตลาดบางบัวทอง ได้เงินสดมา 80,350 บาท ส่วนพระเลี่ยมทองนำไปซุกซ่อนไว้ที่รถกระบะโดยนายทัตติให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะทะเลาะกับภรรยา และอยากพักผ่อนไม่อยากไปขายของ จึงกุเรื่องว่าตัวเองถูกชิงทรัพย์

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปกลับไปที่ร้านทอง เพื่อชี้สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมเลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาทที่ทำไปขาย ก่อนแจ้งข้อหา เเจ้งความเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0