25% หรือ 1 ใน 4 ของคู่รักเลิกรากันเพราะการนอกใจ
เรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก แถมตัวเลขนี้ค่อยๆ มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ อีก
ซึ่งมันมีการสังเกตและศึกษามาแล้วว่า การนอกใจ
มันมีสาเหตุด้วยกันถึง 6 แบบ ซึ่งบางข้อที่ผมจะเล่าให้คุณอ่าน
คุณอาจจะเคยได้ยินมากับตัวเอง มาจากคนรอบๆ ตัว
อย่างแรกที่คนเค้านอกใจกัน แล้วก็เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดเลย ก็คือ
- Sexual Desire หรือ ความปรารถนาทางเพศ
ความอยากลอง อยากมีเซ็กส์กับคนใหม่ๆ ที่ไม่ใช่คู่ของตัวเอง
- ความโกรธ
อ่านแล้วอย่าเพิ่งงง ว่าเดี๋ยวความโกรธมันทำให้คนนอกใจกันได้ไง
แต่มองกันดีๆ ไอ้ความโกรธเวลาที่เราทะเลาะกัน เวลาที่เราไม่เข้าใจกัน
มันจะทำให้เราทำในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล
แต่นี่คือสิ่งที่เราควร Keep in mind เลยว่า
ช่วงเวลาที่เราโกรธ มันเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ควรทำอะไรเลยทั้งสิ้น
เพราะสิ่งที่เราทำในช่วงเวลานั้น จะทำให้เรารู้สึกผิดไปตลอดกาล
อย่าตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตามเมื่อเรากำลังโกรธหรือเสียใจ
ยิ่งเป็นเรื่องราวที่สำคัญๆ แล้ว อย่าตัดสินใจอะไรลงไปตอนนี้
ผมเคยนะที่เวลารู้สึกเสียใจกับอะไร หรือโกรธกับอะไรมากๆ แล้วพลั้งปาก
หรือตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ตอนนี้ยังกลับมาคิดอยู่เลยว่า
เราไม่น่าทำแบบนั้น แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วด้วย
- Lack of love หรือการขาดความรัก
จะบอกว่าเพราะความไม่รักจากเราก็ไม่ใช่ทั้งหมด
แต่มันเป็นการขาดความรักจากประสบการณ์ของเขาเหล่านั้นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นในความสัมพันธ์ครั้งก่อน ในวัยเด็ก
สิ่งหนึ่งที่เราชอบคิดกันไปเองเมื่อถูกนอกใจก็คือ
มันเป็นความผิดของเราเอง ชั้นเองที่พลาดไป
ซึ่งจริงๆ มันอาจจะใช่ และมันก็อาจจะเป็นเพราะภูมิหลังของพวกเขาด้วย
ซึ่งจริงๆ มันอาจจะไม่ใช่เพราะเราเลย
- Lack of commmitment
บางคนนอกใจ เพราะไม่เคยเข้าใจนิยามของการนอกใจ
ผลการศึกษาบอกว่า บางคนเข้าใจว่าการนอกใจคือการต้องแบบอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
จูบกัน แบบนี้อาจจะเรียกนอกกาย
แต่สำหรับบางคน Emotional Cheating หรือการนอกใจกันจริงๆ
เช่น ส่งข้อความจีบกัน ดีเอ็มแอ๊วกันในไอจี ในทวิตเตอร์แอคหลุม
มันสำคัญที่ทั้งสองคนต้องนิยามเรื่องแบบนี้ให้ตรงกันก่อนว่าอะไรคืออะไร
แบบที่ไหนมันไม่ใช่ของทั้งสองคน
- Alcohol และ วันหยุดยาว
ความเมาและวันหยุดยาว รวมถึงวันที่แฟนไม่อยู่มันมักจะมาด้วยกัน
ทีนี้มันก็เลยทำให้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนไม่มีสติ และพลาดพลั้งไป
- Self esteem booting หรือการเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
ฟังดูตลกนะ แต่มันคือเรื่องจริงที่หลายคนมากๆ ที่นอกใจเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ซึ่งฟังแล้วตลกไม่ออก แถมดูน่าสงสารนิดหน่อยสำหรับคนที่จะต้องนอกใจคนอื่นเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ Self Esteem แต่มันคืออีโก้ ที่เราสร้างมันขึ้นมา และมันก็ไม่ใช่ความจริง
ฟังๆ ดูแล้วมันเกิดขึ้นจากการขาดอะไรสักอย่างในตัวเขา หรือตัวเรานี่แหละ
ซึ่งเราก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะมาเตรียมความพร้อม มอบความรัก
มอบทุกอย่างที่เขาขาดให้ใช่มั้ย เขาเหล่านั้นต้องรับผิดชอบตัวเอง
แต่สำหรับคนที่นอกใจใครอยู่
อย่าทำให้ใครคนนั้นเค้าคิดว่าเค้าคือที่สุด
ถ้าจริงๆ แล้วเรายังมีใครอีกคนอยู่
เพราะเมื่อเขาได้รู้ความจริงแล้ว
สิ่งที่เค้าสงสัยอาจจะไม่ใช่เรา
แต่เค้าจะสงสัยกับความรักนั้นไปตลอดชีวิต
อย่าทำให้เขาเชื่อว่าเรารักเขา
ถ้าเราเองก็ยังไม่สามารถรักเขาได้จริงๆ สักที
อย่าทำให้เค้าตกหลุมรักเรา
ถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะตกหลุมรักใคร
การทำให้โลกของใครสักคนมันบานสะพรั่ง
เป็นสีชมพู ในขณะที่เราอยากอยู่ในโลกนั้นแค่ชั่วครู่
มันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ
เพราะพอเราได้เห็นสีหน้าของคนที่โลกเค้าเปลี่ยนสี
มันแย่มากๆเลยนะ
มันแย่ตรงที่เค้าคิดมาตลอดว่าเราจะอยู่ที่นั่นเสมอ
ในขณะที่เราเองก็ไม่ได้คิดจะอยู่ตรงที่เขาว่าด้วยเลย
สำหรับคนที่เคยนอกใจ
อย่าทำให้โลกของใครเปลี่ยนสีถ้าตัวเองยังไม่พร้อม
สำหรับคนที่เพิ่งถูกนอกใจ
อย่าตกหลุมรักใครไวเกินไป อย่ารีบ
มองทุกอย่างให้มีเหตุผล แบบที่เรามีกับเพื่อน มีการการทำงาน
อย่าให้ความรู้สึกของการถูกใจ หรือการถูก Attracktive มาทำให้เราคล้อยตามจนสุดท้ายก็ตามเขาไม่ทัน
ถ้าใครนอกใจแล้ว
มีโอกาสที่เขาจะนอกใจอีก
ผมยังชอบประโยคนี้ที่มีคนเคยบอกว่า
If someone show you their true color dont try repaint them.
If someone show who they are , believe them.
ถ้าเขาอยากแก้ตัว ก็ให้โอกาสเขา
แต่จงคิดอยู่เสมอว่า ที่สุดแล้ว เรายังอยากกลับไปรู้สึกแบบเดิม
อยากไปเจอเรื่องราว ที่มันจะมีโอกาสซ้ำรอยได้อีก
แล้วก็อย่าเพิ่งไปคิดว่าเราจะต้องอยู่กับเขา เพราะเราไม่อยากอยู่คนเดียว
ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่กับใคร
ชั่งน้ำหนักให้ดีๆ ว่าฝั่งไหน มันเจ็บปวดกว่ากัน
แต่สำหรับผม ทางไหนก็เจ็บพอกัน
ทางที่ดี ถ้าเจอความสัมพันธ์ที่มันดีแล้ว
อยู่กับเขาให้นานที่สุด เท่าที่ความซื่อสัตย์ของคนคนหนึ่งจะมีได้ดีกว่า
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์
