โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สอบกราวรูด นักการเมืองครอบครองที่ดินส.ป.ก. ปารีณาดอดพบบิ๊กป้อม

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 19 พ.ย. 2562 เวลา 17.28 น. • เผยแพร่ 19 พ.ย. 2562 เวลา 22.25 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

“บิ๊กตู่” ลั่นสอบหมดนักการเมืองครองที่ ส.ป.ก. ไม่เว้นใคร ไม่ซีเรียส ส.ส.ซีกรัฐบาลโดนเรื่องที่ดินผิดถูกว่าตามกฎหมาย “ธรรมนัส” ออกตัวบอก ส.ป.ก.เอาผิดอาญา “ปารีณา” ไม่ได้เร่งสาง ส.ป.ก.ทั่วประเทศ 40.13 ล้านไร่

ด้าน “ปารีณา” วิ่งโร่เข้าทำเนียบฯแจง “บิ๊กป้อม” คอเป็นเอ็นปัดพัลวันเปล่าไม่ได้พบกัน ป่าไม้-ส.ป.ก. ราชบุรีครวญ “ส.ส.เอ๋” ลีลาไม่ยอมร่วมชี้แนวเขตที่ดิน “ศรีสุวรรณ” เปิดฉากร้อง ป.ป.ช.ฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง “ระวี” ห่วงซ้ำรอยรัฐบาล “ชวน 1” ป้อง ส.ป.ก. 4-01 คนรวย หลายฝ่ายเร่งเดินหน้าตรวจสอบการถือครองที่ดิน 1,700 ไร่ ในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ อย่างเข้มข้น

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหานักการเมืองถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ผิดกฎหมายว่า ต้องตรวจสอบทั้งหมด คงไม่ใช่ เฉพาะคนใดคนหนึ่ง สั่งการให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้นำกฎหมาย One Map แนวเขตที่ดินมาตราส่วน 1:4000 มาแก้ปัญหาที่ดินรัฐทับซ้อนมาพิจารณาร่วมด้วย ทั้งที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินรัฐและเอกชน ขอร้องอย่าไปพูดเจาะจงว่าเป็นกรณีใดเลย บังเอิญมีเรื่องขึ้นมาในช่วงนี้พอดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ และไม่ได้ลำบากใจใดๆทั้งสิ้นที่มี ส.ส.ซีกรัฐบาลถูกตรวจสอบเป็นเรื่องถูกผิดตามกฎหมายต้องว่ากันตามขั้นตอน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ดินของ น.ส.ปารีณาที่อยู่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแจ้งไว้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ละแปลงไม่มีพิกัด ดังนั้นต้องรังวัดใหม่พิสูจน์ กรมป่าไม้กับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และคณะกรรมการระดับจังหวัดกำลังร่วมกันดำเนินการ โดยต้องให้ น.ส.ปารีณาร่วมลงพื้นที่ด้วยเพื่อชี้จุดที่ดินตัวเอง ตอนนี้ขอให้รอการตรวจสอบและรังวัดให้เรียบร้อยก่อน และขอยืนยันว่าใบ ภบท.5 ไม่ใช่โฉนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันเดียวกัน น.ส.ปารีณา เดินทางเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาลระหว่างที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขึ้นไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานชั้น 4 ตึกบัญชาการ โดยถูกเรียกให้มารายงานข้อเท็จจริงเรื่องที่ดินเพื่อหาทางออก ต่อมาหลังประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าไม่ได้พบไม่ได้เจอกัน ส่วนปัญหาการครอบครองที่ดิน ภบท.5 ของ น.ส.ปารีณาจะต้องตรวจสอบและต้องทำทั่วประเทศอยู่แล้ว

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ป.ก.เตรียมเข้าไปติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกบริเวณฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณาว่า หากพิสูจน์ว่าเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ให้ปิดประกาศ ปัญหาตอนนี้เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศเป็นที่ทับซ้อนระหว่างกรมป่าไม้กับ ส.ป.ก.ซึ่งพื้นที่กลางภูเขาจะเป็นเขต ส.ป.ก.ไม่ได้ กรมป่าไม้ต้องดำเนินการ ส่วนที่ น.ส.ปารีณาเดินทางเข้ามาที่ทำเนียบฯนั้นไม่ได้มาคุยกับตน ทราบว่ามาพบรัฐมนตรีคนอื่น เมื่อถามว่า จะสามารถเอาผิดกับ น.ส.ปารีณาได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ในส่วน ส.ป.ก.ถือว่าเข้าอยู่ก่อนที่จะมีการปฏิรูปที่ดิน ดังนั้นเรื่องอาญาเราเอาผิดไม่ได้ ส่วนการยึดคืนต้องดำเนินการตามกฎหมาย ต้องดูว่าทำการเกษตรหรือไม่และถือครองต้องไม่เกิน 50 ไร่ เมื่อได้ข้อสรุปชัดเจนจะให้เลขาธิการ ส.ป.ก.แถลงข่าว ส่วนที่มองว่าจะมีอะลุ้มอล่วยเพราะอยู่พรรคเดียวกันนั้นกฎหมายไม่ได้เขียนยกเว้นให้ใคร

ขณะที่นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ได้ประชุมทางไกลออนไลน์ (เว็บคอนเฟอเรนซ์) เร่งให้ ส.ป.ก.จังหวัดทั่วประเทศสำรวจข้อมูลที่ดิน ส.ป.ก.ทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งเรื่องพื้นที่และผู้ถือครอง ย้ำความโปร่งใสตรงไปตรงมาเพื่อนำเสนอ ร.อ.ธรรมนัสภายในเดือน ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจพื้นที่ ส.ป.ก.ย้อนหลังปี 2558-2562 สำรวจรอบแรกปี 2558-2560 จำนวน 3.536 ล้านแปลง 37.46 ล้านไร่ มี 2.735 ล้านแปลง 28.52 ล้านไร่ที่เกษตรกรปฏิบัติตามระเบียบหรือเป็นผู้ครอบครองรายเดิม 2.57 ล้านแปลง 26.12 ล้านไร่คาดว่ามีการเปลี่ยนมือผู้ครอบครองที่สงสัยทำผิดระเบียบ ส.ป.ก.อยู่ 66,222 แปลง 741,434 ไร่ และคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร (คปจ.) สั่งสิ้นสิทธิ 568 แปลง หรือ 12,259 ไร่ สำรวจรอบ 2 ปี 2561-2562 จำนวน 1.407 ล้านแปลง 14.5 ล้านไร่ มี 2.735 ล้านแปลง 13.105 ล้านไร่เกษตรกรทำตามระเบียบมีผู้ครอบครองรายเดิม 1.272 ล้านแปลง หรือ 12.75 ล้านไร่คาดว่ามีกระทำผิดหรือเปลี่ยนผู้ครอบครอง 26,756 แปลง 277,298 ไร่ คปจ.สั่งให้สิ้นสิทธิ 186 แปลง หรือ 2,222 ไร่ ทั้งนี้ ส.ป.ก.ทำรายงานพื้นที่ทั้งหมดใน 72 จังหวัด 716 อำเภอ 3,720 ตำบลประมาณ 40.13 ล้านไร่ เป็นที่ดินเกษตรกรรม ที่อยู่อาศัยและที่เอกชน 3.675 ล้านแปลง 2.87 ล้านราย 36.089 ล้านไร่ คงเหลือที่ดินที่ยังไม่จัดสรรประมาณ 4.01 ล้านไร่ ยังไม่รังวัด 505,291 ไร่ และเกษตรกรไม่เข้าร่วมการปฏิรูป 1.438 ล้านไร่

นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ที่ผ่านมาคดีบุกรุกที่ดินของกรมป่าไม้ ชาวบ้านติดคุกไปหลายคดีล้วนเป็นปลาซิวปลาสร้อย แต่กรณีที่นักการเมืองผู้มีอิทธิพลถือครองไม่มั่นใจว่าสามารถจับได้หรือไม่ เพราะไม่ได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของที่ดินไม่เหมือนกับกรณีของ น.ส.ปารีณา ที่สารภาพว่าทำกินบนที่ของรัฐ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดิน 1,700 ไร่ของ น.ส.ปารีณา ตั้งนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธานการตรวจสอบประสานกับรองเลขาฯ ส.ป.ก. ประธานตรวจสอบของ ส.ป.ก. การชี้แนวเขตที่ดินต้องรอ น.ส.ปารีณา ให้ทราบพิกัดโดยให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งดำเนินการอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หน่วยงานในพื้นที่ได้ประสานไปหลายครั้งแล้วแต่ น.ส.ปารีณาอ้างว่าติดภารกิจ ไม่ว่าง เบื้องต้นจึงตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ พบว่าบริเวณฟาร์มเลี้ยงไก่ มีโรงเลี้ยงไก่ 1 โรง ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 10-30 ไร่ หากพบเป็นการบุกรุกจะมีความผิดอาญามาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า วันที่ 20 พ.ย. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิด น.ส.ปารีณากรณีครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. และป่าสงวนแห่งชาติกว่า 1,700 ไร่ เพราะ น.ส.ปารีณาน่าจะขาดคุณสมบัติครอบครองที่ดินมาตั้งแต่ปี 2548 เนื่องจากเริ่มดำรงตำแหน่ง ส.ส.ราชบุรี และยังครอบครองที่ดินมากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมครั้งที่ 1/2555 วันที่ 11 พ.ค.2555 กำหนดอัตรารายได้ของผู้ยากจนไว้คือต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อคนต่อปี ดังนั้น น.ส.ปารีณาย่อมรู้ว่าขาดคุณสมบัติได้สิทธิครอบครองตั้งแต่ต้น แต่ไม่ยอมสละที่ดินคืน ส.ป.ก.เพื่อนำไปจัดสรรให้ผู้ยากไร้ตามเจตนารมณ์กฎหมายเท่ากับมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า อยากเตือนไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส ให้ตรวจสอบอย่างจริงจังทั้งกฎหมายและทำนองคลองธรรม ไม่ลืมหลักการที่มีเจตนาให้ ส.ป.ก.4-01 กับผู้ยากไร้ อย่าอ้างกฎหมายเพียงบางข้อทำให้นายทุนหรือผู้มีอันจะกินได้รับ ส.ป.ก.4-01 ยิ่งตอนนี้ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่าให้ซ้ำรอยอดีตที่รัฐบาลชวน 1 ที่ปกป้องเรื่อง ส.ป.ก.4-01 แจกคนรวยทำให้เกิดการยุบสภาตามมา นายกฯและ ร.อ.ธรรมนัส ต้องทำตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างเคร่งครัดไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0