วันนี้ (4 มิ.ย.63) การเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้นระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 และหลังจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานาน 2 ปี ซึ่งยังไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเต็มรูปแบบ มาตรการห้ามสายการบินจีนให้บริการในสหรัฐครั้งนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ หรือไม่ก็อาจเร็วกว่านี้ได้ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ สั่ง โดยจะมีสายการบินพลเรือนของจีน 7 สายการบินได้รับผลกระทบ แม้ว่าปัจจุบันนี้ จะมีเพียง 4 สายการบินเท่านั้นที่บินให้บริการจากจีนเข้าไปยังเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐ ซึ่งรวมทั้งสายการบินแอร์ ไชน่าและไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์
กระทรวงขนส่งสหรัฐ หรือดีโอที แถลงว่า สายการบินโดยสารสหรัฐได้ร้องขอกลับมาบินให้บริการเข้า-ออกจีน ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ แต่รัฐบาลจีนไม่อนุมัติตามคำร้องขอ อันเป็นการละเมิดข้อตกลงด้านการขนส่งทางอากาศ
ทั้งนี้ สายการบินสหรัฐลดหรือระงับการให้บริการไปยังจีน ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรง แต่สายการบินยูไนเต็ดและเดลตา ได้ยื่นหนังสือร้องขอเริ่มต้นการให้บริการในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อรื้อฟื้นการบิน แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานการบินพลเรือนของจีน หรือซีเอเอซี
ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2563 ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายการบินสหรัฐและจีน บินให้บริการประมาณ 325 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ระหว่าง 2 ประเทศ ประธานาธิบดีทรัมป์ ตำหนิจีนกรณีการระบาดของไวรัสในสหรัฐ และประณามจีนในการกล่าวปราศรัยอย่างดุเดือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กรณีที่จีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online