**สลด! แม่ลูกอ่อน น้อยใจชีวิต สามีเจ็บทำงานไม่ได้ ต้องแยกมาอยู่กับพ่อแม่
มีดปักคอตัวเองดับ**
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. พ.ต.ท.เจริญ ช่วยจันทร์ สารวัตรเวร สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตาย พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและออกตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยังก่อสร้างไม่เสร็จ บริเวณหลังบ้านพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนางน้ำฝน อายุ 32 ปี สวมผ้าถุงสีเขียว เสื้อลายดอก นอนหงายอยู่ข้างโต๊ะไม้ บนโต๊ะไม้พบมีดปลายแหลม 1 ด้ามเปื้อนเลือด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบบริเวณลำคอมีแผล 1 แผล มีเลือดไหลออกมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง
สอบสวนนายประถิ่น อายุ 54 ปี พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนอาศัยอยู่ 4 คน คือตน ภรรยา นางน้ำฝน ซึ่งเป็นลูกสาวของคนที่เสียชีวิต และเด็กทารกอายุ 14 วัน ลูกของนางน้ำฝนที่เพิ่งคลอด ก่อนเกิดเหตุ ตนออกจากบ้านไปขายน้ำยางพารา ส่วนภรรยาไปดูหลานสาว วัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกคนโตของนางน้ำฝน ที่แข่งกีฬาสีอยู่ที่โรงเรียน ขณะที่นางน้ำฝนอยู่กับลูกคนเล็ก กระทั่งเวลาประมาณเที่ยง ตนกลับมาบ้านพบว่าลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่หลังบ้าน จึงเร่งเข้าไปช่วยเหลือ แล้วถอดมีดที่ปักคาร่างออก ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่
สำหรับนางน้ำฝน อยู่กินกับนายสัมพันธ์ อายุ 32 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือวัย 7 ขวบ และแรกคลอด 1 คน ก่อนหน้านี้นางน้ำฝนอาศัยอยู่ที่บ้านสามี แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหลังคลอดลูกคนเล็ก นางน้ำฝนขอกลับมาอาศัยบ้านพ่อกับแม่ที่เกิดเหตุ เพราะบ้านสามียกสูง ไม่สะดวกขึ้นบันได ส่วนลูกคนโตอยู่ที่บ้านกับสามี อีกทั้งสามียังได้รับบาดเจ็บเนื่องจากตกจากที่สูง ทำให้ต้องเข้าเฝือก ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ นางน้ำฝนไม่ยอมกินข้าวมา 3 วัน แล้วเปรยกับคนใกล้ชิดว่าท้อแท้ต่อโชคชะตาตัวเอง หลังคลอดลูก สามีก็เจ็บ คิดถึงลูกคนโตที่อยู่กับสามีด้วย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นสาเหตุให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
