โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สลด สาว 2 ดับปริศนา นอนเปลือยท่อนล่าง เลือดออกปาก-รูทวาร คาห้องนอน

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 19 ก.พ. 2563 เวลา 00.25 น. • เผยแพร่ 18 ก.พ. 2563 เวลา 18.07 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

สาวประเภทสอง นอนเปลือยท่อนล่าง เลือดออกปาก-รูทวาร ดับคาห้องนอน ญาติคาดกระอักเลือดตาย เหตุถูกรุมทำร้าย หลังไปเที่ยวผับเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนเผยแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่คืบ เบื้องต้น ตร.ยังไม่สรุปสาเหตุ รอผลนิติเวชฯ เชื่อให้ความเป็นธรรมได้    

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ก.พ.63 พ.ต.ท.ขจร ฉัตรแก้วมณี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 69/170 ม.2 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.ศุภสิทธิ์ มากผ่อง สว.สส.ฯ เจ้าหน้าที่สายตรวจชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ซึ่งมีห้องนอน 2 ห้อง โดยภายในห้องนอนห้องแรกพบศพ นายวีรพล ชุ่มชื่น อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง นอนหงายอยู่บนที่นอน สวมเสื้อตัวเดียว ท่อนล่างเปลือย แต่มีผ้าขนหนูปิดอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายพบมีร่องรอยเขียวช้ำ มีเลือดออกที่ปากและจมูก ส่วนที่รูทวารมีคราบเลือดเปรอะเปื้อน ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-12 ชม. ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องมอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งสภาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง 

เบื้องต้นจากการสอบถาม นางผกาพันธุ์ ชุ่มชื่น อายุ 62 ปี ยายผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีชื่อเล่นว่า "ต้นหอม" กำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช.2 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยมีนิสัยและชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงเวลาออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ผู้ตายออกไปกับเพื่อนๆ ตามปกติ และกลับมาหลังเที่ยงคืน จากนั้นในช่วงเช้าตนไปเคาะเรียกที่ห้องนอน เพื่อจะปลุกให้ไปโรงเรียนแต่พบว่าล็อกห้อง ตนก็ไม่ได้เอะใจและไม่กล้าเรียกอีก เกรงว่าหลานคงจะง่วง จนกระทั่งบ่าย 3 โมงกว่า ตนไม่เห็นหลานออกมากินข้าวอาบน้ำ จึงเดินมาดูพบห้องเปิดแง้มอยู่ จึงเรียกและดันประตูเข้าไปก็พบว่าหลานนอนหงายอยู่ โดยท่อนล่างเปลือยและมีเลือดออกที่ก้นและปาก จึงเอาผ้าขนหนูมาปิดท่อนล่างไว้ แล้วไปเรียกลูกชายมาดู แต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้ง น.ส.วารุณี ชุ่มชื่น อายุ 42 ปี ลูกสาวตน ซึ่งเป็นมารดาของผู้ตาย ก่อนจะแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน น.ส.เบญญาภา โพล้งเสียง อายุ 20 ปี ญาติสนิทผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยทางเฟซบุ๊กกับผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายพร้อมเพื่อนชื่อพลอยและเพื่อนสาวประเภทสองอีกคนหนึ่งได้ไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ก่อนจะมีเรื่องและถูกกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นทั้งชายและหญิงร่วม 20 คนรุมทำร้ายจนสลบ ร่างกายบอบช้ำ จากนั้นก็พากันไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ปากเกร็ด แต่คดีไม่คืบหน้า จนกระทั่งน้องตนต้องมากระอักเลือดตายในวันนี้

ต่อมาเพื่อนผู้ตาย ทราบชื่อเล่นว่าพลอย ได้เดินทางมาบ้านเกิดเหตุ พร้อมให้การว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนพร้อมเพื่อนและผู้ตายไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะที่ผู้ตายซึ่งแต่งตัวและหน้าตาคล้ายผู้หญิงได้ขึ้นไปเต้น จู่ๆ ก็มีกลุ่มผู้หญิงซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าถิ่นแสดงความไม่พอใจที่เห็นผู้ตายเต้นแรงจนคนมาเที่ยวมองและสนใจ จากนั้นพอเต้นเสร็จผู้ตายเดินกลับลงมาที่โต๊ะ กลุ่มผู้หญิงเจ้าถิ่นก็มาพูดต่อว่าและแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับบอกให้พวกตนออกไปข้างนอก แต่พวกตนไม่ออกไป จึงมีการตบตีกันระหว่างผู้ตายกับหญิงคนดังกล่าว แต่ผู้หญิงคนนั้นสู้ไม่ได้ จากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ร่วม 20 คนกรูเข้ามารุมทำร้ายพวกตนจนได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้ตายถูกกระทืบและเตะจนสลบ ซึ่งหลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา พวกตนจึงพากันไปแจ้งความพร้อมกับรู้กลุ่มคนที่มารุมทำร้ายแล้ว แต่กลับถูกตำรวจ สภ.ปากเกร็ด บอกกลับมาว่า พวกตนไปหาเรื่องพวกเขาก่อน พร้อมยังบอกว่าให้พวกตนหาภาพจากกล้องวงจรปิดมากันเอง และเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่มีการเรียกพวกตนไปสอบปากคำเพิ่มเติม จนกระทั่งเพื่อนตนต้องมาตายดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ว่าเกิดจากอะไร จะต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เสียก่อน ส่วนเรื่องเหตุที่มีการทำร้ายร่างกายกันนั้น เกิดในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยทาง พ.ต.ท.ศุภสิทธิ์ มากผ่อง สว.สส.สภ.เมืองปทุมธานี ได้มีการประสานไปยังท้องที่ สภ.ปากเกร็ดแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0