เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างผู้เป็นแม่และลูกสาวแท้ๆ กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปทั่วทั้งเมือง เพราะด้วยตัวเงินนับร้อยล้านที่กลายมาเป็นจุดสะบั้นตัดขาดสายใยรัก และเรื่องราวจากปากทั้งสองฝ่ายก็เผ็ดแสบดั่งในละคร จึงทำให้เรื่องนี้ดูท่าแล้วจะไม่จบง่ายๆ ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเรื่องราวศึกสายเลือดให้คุณเข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
อาม่าฮวย วัย 76 ปี ประกอบอาชีพผลิตโครงแอร์คอมเพรสเซอร์มาทั้งชีวิต เพื่อเลี้ยงดูลูกชายและลูกสาว รวม 3 คน แต่ลูกชายคนสุดท้องเสียชีวิตไปแล้ว
เมื่ออาม่าฮวยเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง อาม่าฮวยได้นำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารกสิรกรไทย สาขาถนนศรีนครินทร์ กม.9 และธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท 101
ปี 2556 อาม่าฮวย ล้มป่วยต้องเข้าไปรักษาตัวโรงพยาบาล ด้วยโรคหัวใจตีบและกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยแพทย์ได้ทำการเจาะคอและต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
เมื่อแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ลูกสาวของอาม่าได้พาอาม่าไปอยู่อาศัยด้วย(เดิมที อาม่าอยู่กับลูกชายคนโต) ซึ่ง น.ส.มินตรา หรือ ใบเตย หลานสาวของอาม่า ได้ระบุว่า ตอนที่อาม่าอยู่กับอาของเธอ อาม่าได้รับการดูแลที่ไม่ดี และไม่มีนักกายภาพบำบัดคอยดูแลอาม่าตามแผนที่แพทย์สั่ง มิหนำซ้ำ อาของเธอก็ยังกีดกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าเยี่ยม จนอาม่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง
ปี 2559 อาม่าเขียนใส่กระดาษระบายความในใจว่า “ไม่มีความสุข อยากกลับบ้าน” เมื่อลูกชายคนโตทราบข่าว จึงรีบเดินทางไปรับอาม่าทันที และพาอาม่าไปรักษาตัว จนอาม่าอาการดีขึ้น
เมื่ออาม่าอาการดีขึ้น ได้กลับไปตรวจดูตู้นิรภัย ซึ่งเอาไว้เก็บสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และกองทุนบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนาคาร และได้พบว่า จำนวนเงินในบัญชีได้หายไปรวมกว่า 250 ล้านบาท!
อาม่าฮวย ตกใจ และรีบเดินทางไปที่ธนาคารทันที เพื่อสอบถามพนักงานแบงก์ แต่อาม่าฮวยก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมพนักงานถึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ไม่กี่สัปดาห์ถัดมา อาม่าฮวยและลูกชาย ได้ทราบว่า เงินในบัญชีกว่า 250 ล้าน ถูกโอนออกไปจำนวนหลายร้อยครั้ง จนหมดบัญชี จากฝีมือของลูกสาวและพนักงานแบงก์ โดยการพิมพ์ลายนิ้วมือขณะที่อาม่านอนป่วยอยู่
ปี 2557 อาม่าฮวย ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.อุดมสุข
ปี 2562 อาม่าฮวย และหลานสาว ได้ขอความช่วยเหลือจากทนายชื่อดัง อนันต์ชัย ไชยเดช โดยอาม่าอ้างว่า ถูกลูกสาวแท้ๆ ร่วมมือกับพนักงานแบงก์อีก 4 คน แอบโอนเงินในบัญชีออกไป ตอนที่อาม่าล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
30 ต.ค.62 พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 ศาลอาญาพระโขนง ได้ฟ้องคดีลูกสาวแท้ๆ ของอาม่า และพนักงานแบงก์ จำนวน 4 คน เป็นคดีอาญาข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม
19 พ.ย.62 ธนาคารกสิกรไทย ได้ออกแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 2557 และพนักงานดำเนินการไปตามความประสงค์ลูกค้าผ่านทางญาติสนิท โดยไม่มีเจตนาทุจริต ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยธนาคารพร้อมให้ข้อเท็จจริงและนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาล และยินดีปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรม
20 พ.ย.62 ลูกสาวของอาม่า เปิดใจกับสื่อทั้งน้ำตาว่า “ปี 2556 ก่อนแม่ป่วย แม่มีเงินในบัญชีร้อยกว่าล้าน แต่พอแม่ป่วย เราก็เป็นคนดูแล และดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด เราใช้บัตรเครดิตจ่ายค่ารักษาจนเต็มวงเงิน 3 แสนบาทเราก็เลยบอกแม่ว่า ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วนะ ต้องใช้เงินจากบัญชีแม่มาจ่าย”
“แม่ดูแลตัวเองไม่ค่อยได้แล้ว เซ็นชื่อไม่สะดวก และเราได้ปรึกษาแม่แล้ว ปรึกษาหมอ ปรึกษาธนาคารเรื่องการเปลี่ยนเงื่อนไขเบิกถอนเงินเป็นแบบพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งแม่ก็สติดี และก็ตอบอือๆ ยินยอมให้ดำเนินการ นอกจากนี้แม่ก็เป็นคนสั่งให้เราเป็นจ่ายเงินเดือนพนักงาน จ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ สากกะเบือยันเรือรบเป็นเวลานาน 3 ปี”
“เราไม่เคยโกงเงิน ไม่เคยคิดจะโกงเงิน และตอนที่แม่อยู่กับเรา ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะเราดูแลแม่ใกล้ชิด จนกระทั่ง แม่ย้ายไปอยู่กับพี่ชายก็เริ่มมีปัญหา เพราะเมียพี่ชายเข้ามายุ่งเรื่องเงินของครอบครัว และเมียพี่ชายกับหลานสาวก็เข้าใจไปเองว่า เราได้เงินมากกว่าพี่ชาย เพราะคิดว่าเรามีรีสอร์ต มีทรัพย์สินอื่นๆ”
ลูกสาวอาม่า ยังบอกกับสื่ออีกว่า “เราเจอกับแม่ครั้งสุดท้ายที่ศาล เราถามแม่ว่า แม่จะตัดหนูออกจากลูกเลยเหรอ แม่ตอบว่า ตัด! น้ำตาเราร่วงเลย(เสียงสั่นเครือ)เราก็บอกแม่ หนูกับแม่อยู่ด้วยกันมา 50 ปี แม่จะตัดหนูเลยเหรอ จากนั้น พี่สะใภ้ก็ปัดมือพี่ เราเลยตบกันหน้าศาล เกือบจะติดคุกเลยนะ”
“เงิน 20 ล้านก็ให้แม่ไว้ไปเป็นค่ารักษาพยาบาล โดยมีครอบครัวของพี่ชายเป็นคนดูแล แต่ก็โดนคอรบครัวพี่ชายกีดกันไม่ให้เจออีก” ลูกสาวอาม่า ยืนยัน
ด้าน น.ส.มินตรา หลานสาวของอาม่า ยืนยันอีกด้านว่า "เงิน 20 ล้านที่เขาบอกว่าให้เป็นค่ารักษาพยาบาล ไม่เคยมี จนอาม่าไปขอค่ารักษาเขา แต่เขาก็ให้นะคะ ให้เป็นใบกองทุนมา 10 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถใช้ได้ทันที เพราะต้องรอ 1 ปี ถึงจะใช้ได้"
น.ส.มินตรา หลานสาวของอาม่า สวนกลับว่า “แม่ของหนูไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินของอาม่าเลย และไม่มีแม่ผัวคนไหนฟังสะใภ้มากกว่าลูกหรอกค่ะ อีกอย่าง ถ้าอยู่กับเขาแล้วอาม่ามีความสุขดี อาม่าจะอยากมาอยู่กับพ่อของหนูทำไม”.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธนาคารแจง หลัง "อาม่า" ฟ้องลูกสาว-เจ้าหน้าที่แบงก์ ยักยอกเงิน 300 ล้าน (คลิป)
- ลูกสาวอาม่า เปิดใจทั้งน้ำตา ปัดยักยอกเงินแม่ เล่าเหตุการณ์ หนังคนละม้วน (คลิป)
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ธนาคารแจง หลัง "อาม่า" ฟ้องลูกสาว-เจ้าหน้าที่แบงก์ ยักยอกเงิน 300 ล้าน (คลิป)
- ลูกสาวอาม่า เปิดใจทั้งน้ำตา ปัดยักยอกเงินแม่ เล่าเหตุการณ์ หนังคนละม้วน (คลิป)
- ที่พึ่งสุดท้าย นักธุรกิจร้อง ยธ. เงินหายจากบัญชี 8 ล้าน ปีนเสาก็แล้ว
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath