สรุปผลประกอบการ NETFLIX ล่าสุด / โดย ลงทุนแมน
เมื่อคืน Netflix ประกาศผลประกอบการล่าสุด
หลังการประกาศ มูลค่าบริษัท Netflix เพิ่มขึ้นทันทีหลังปิดตลาด กว่า 10%
คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 3.8 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของมูลค่าบริษัท Netflix รอบนี้
เป็นการปรับตัวขึ้นมาจากการตกลงอย่างหนัก
ตั้งแต่ผลประกอบการที่ย่ำแย่ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา..
แล้วผลประกอบการรอบนี้ของ Netflix เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟัง
เรามาดูภาพรวมผลประกอบการ Netflix กันก่อน..
ไตรมาสที่ 3 ปี 2018
รายได้ 1.21 แสนล้านบาท กำไร 1.22 หมื่นล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 ปี 2019
รายได้ 1.59 แสนล้านบาท กำไร 2.02 หมื่นล้านบาท
รายได้เติบโต 31%
กำไรเติบโต 65%
โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทมาจาก
ธุรกิจสตรีมมิง (สหรัฐอเมริกา) 46 บาท
ธุรกิจสตรีมมิง (ทั่วโลก) 53 บาท
และอื่นๆ อีก 1 บาท
แม้ว่าผลประกอบการโดยรวมของ Netflix จะกลับมาโตระเบิดและรายได้จากต่างประเทศเติบโตแซงรายได้ในประเทศ แต่จริงๆ แล้ว กำลังเจอมรสุมหลายเรื่อง..
เรื่องแรกก็คือ จำนวนสมาชิก ซึ่งเป็นตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ที่นักลงทุนสนใจมากที่สุด
จำนวนสมาชิกใหม่ที่เพิ่มขึ้นของ Netflix
ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 เพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบัญชี
ตัวเลขดังกล่าว ต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ 7.0 ล้านบัญชี
เรื่องนี้จึงทำให้ จำนวนสมาชิกใหม่ของ Netflix ต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งเรื่องนี้มีสาเหตุหลักมาจากการขึ้นราคาของ Netflix ในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปี..
อย่างไรก็ตาม โดยรวมก็ถือว่า Netflix ยังทำได้ดีกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ว่าจะแย่
ส่งผลให้ มูลค่าบริษัทปรับตัวขึ้นทันที 10% คิดเป็นมูลค่า 3.8 แสนล้านบาท
และเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้การเติบโตของจำนวนสมาชิก
ก็คือ สถานะทางการเงินของ Netflix
รู้ไหมว่า.. ปัจจุบัน Netflix มีหนี้สินกว่า 3.8 แสนล้านบาท คิดเป็นกว่า 1.8 เท่าของส่วนทุนที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูง เมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ
นอกจากหนี้มหาศาลแล้ว Netflix ยังเป็นหนึ่งในธุรกิจที่หมุนเงินไม่ทัน.. เรื่องนี้เราสามารถดูได้จาก Free Cash Flow หรือ กระแสเงินสดอิสระ
อธิบายอย่างง่ายๆ ก็คือ เงินสดไหลเข้า ลบกับ เงินสดไหลออก
ซึ่งกระแสเงินสดอิสระของ Netflix ในไตรมาสล่าสุดติดลบกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
ทำให้กระแสเงินสดอิสระของบริษัทตั้งแต่ต้นปีมานี้ติดลบสูงถึง 4.9 หมื่นล้านบาท..
ทุกคนรู้ว่า Netflix กำลังลงทุนในคอนเทนต์อย่างบ้าคลั่ง
และการลงทุนแบบนี้ ถือเป็นดาบสองคม
หากเงินลงทุนมหาศาลในคอนเทนต์มีกระแสตอบรับที่ดี
บริษัทก็ยังมีช่องทางในการเติบโตต่อไปในอนาคต
ในทางตรงกันข้าม หากคอนเทนต์ที่สร้างไม่เป็นที่นิยม ก็เท่ากับเอาเงินไปละลาย
ปริมาณหนี้มหาศาลและกระแสเงินสดไหลออกระดับนี้
น่าจะกำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับ Netflix ในอนาคต
นอกจาก Netflix จะต้องแข่งกับตัวเอง คู่แข่งรายใหม่ที่กำลังจะทยอยเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้ เช่น Apple TV+ และ Disney+ ก็เป็นส่วนสำคัญที่กำลังจะมาแย่งส่วนแบ่งบริการวิดีโอสตรีมมิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จริงอยู่ว่า Netflix เป็นหนึ่งในบริษัทเติบโตแรงที่สุด จากการ DISRUPT คนอื่น และสามารถขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
แต่การเติบโตนี้ก็ไม่ได้รับประกันว่าบริษัทอื่นจะทำตามไม่ได้
และสมาชิกจะไม่ออกจาก Netflix ไปหาคู่แข่ง
การเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายใหญ่ในปีหน้า จะเป็นบทพิสูจน์..
ติดตามบทวิเคราะห์กลยุทธ์ของ Disney ใน 10 ปีที่ผ่านมา และ Disney กำลังทุ่มทุนไม่อั้นกับ Disney+ อย่างไร ได้ที่เพจลงทุนแมนเร็วๆ นี้..
———————-
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
———————-
References
-Netflix Q3 Earning Report
