ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน(แม้รายงานล่าสุด จะระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่ายมีการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างกันเป็นครั้งที่ 2) ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศที่สำคัญ น่าจะอยู่ที่ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย. และการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทที่จดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก
*เงินบาทตลาดในประเทศแข็งค่าขึ้นวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ก.ค.) * สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลงท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟด
*ส่วนเช้าวันนี้ (22 ก.ค.) เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับประมาณ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ** * ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลัง หลังตลาดประเมินว่า แม้จะมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในระยะใกล้ๆ นี้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง
ตลาดหุ้นไทยปิดบวก สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน ตลาดฝั่งเอเชียปิดบวก โดยมีแรงหนุนจากคาดการณ์ถึงโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในเวลาต่อมา หลังตลาดประเมินว่า มีความเป็นไปได้น้อยลงที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ อย่างรุนแรงในการประชุมเฟดเดือนนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานข่าวว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษ ส่วนราคาทองคำปรับลดลง สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาด
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.