ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (หลังปธน. ทรัมป์ เปิดเผยว่าการเจรจายังคงไม่คืบหน้า และยังเตือนว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม) สถานการณ์ในตะวันออกกลาง และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. และรายงาน Beige Book ของเฟด
*เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) * สอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ
*ส่วนเช้าวันนี้ (17 ก.ค.) เงินบาททรงตัวอยู่ที่ระดับ 30.88-30.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ** * ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขยับแข็งค่าขึ้น โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด
*ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง * เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) ตามแรงขายของกลุ่มสถาบันในประเทศ ประกอบกับตลาดรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่
ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้า ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ**หลังปธน. ทรัมป์ กล่าวว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังคงไม่คืบหน้า และได้ขู่ว่า สหรัฐฯ อาจจะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มเติม
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงบางส่วน หลังสหรัฐฯและอิหร่าน แสดงท่าทีที่จะกลับมาเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง ขณะที่ราคาทองคำปรับลดลง เนื่องจากข้อมูลค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด หนุนให้เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.