โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ! 4 ทางเลือก เรือใบ กับปัญหาเซ็นเตอร์แบ็กขาดแคลน

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 19 ก.ย 2562 เวลา 10.15 น. • ขอบสนาม
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ! 4 ทางเลือก เรือใบ กับปัญหาเซ็นเตอร์แบ็กขาดแคลน

ท่ามกลางการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ถาโถมเข้ามา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เจอปัญหาเข้าให้แล้ว เมื่อเซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักอย่าง อายเมริค ลาปอร์ต ต้องเจอปัญหาเดี้ยงบริเวณหัวเข่า ร้างสนามยาวๆไปจนถึงเดือนมกราคม ปีหน้า จนส่งผลมาถึงการบุกไปแพ้ต่อ นอริช ซิตี้ 2-3

และ เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เนื่องด้วย จอห์น สโตนส์ ปราการหลังอีกคน ก็มาเจออาการบาดเจ็บ พักไปอีก 5 สัปดาห์ ทำให้เหลือเพียงแค่ นิโคลัส โอตาเมนดี้ เซ็นเตอร์แบ็กอาชีพ เท่านั้น คำถามจากนี้คือ เป๊ป จะจัดสรรทรัพยากรอย่างไร และ นี่อาจเป็นทางเลือกที่เขาเลือกใช้ เหมือนอย่างที่เห็นไปแล้วในเกมบุกไปอัดตูด ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ทางเลือกแรก : ใช้ แฟร์นานดินโญ่ ไปยืนแทน

แน่นอนครับพี่น้อง ในเมื่อ 2 เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักของทีม ได้รับบาดเจ็บต้องร้างสนามนานขนาดนี้ ตัวเลือกแรกที่ เป๊ป จะเลือกใช้มายืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ โอตาเมนดี้ ก็คงต้องเป็น แฟร์นานดินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับสายเลือดบราซิลเลี่ยน เพราะในเกมถล่ม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 3-0 เขาทำผลงานได้สุดติ่งกระดิ่งแมวมากๆ

นอกจากสายเลือดเกมรับ ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของ แฟร์นานดินโญ่ แล้วนั้น เขายังมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้ เป๊ป เชื่อใจว่าดาวเตะรายนี้ จะสามารถก้าวมาทดแทนช่วงเซ็นเตอร์แบ็กขาดแคลนแบบไร้รอยต่อ ก็คือ ประสบการณ์ ด้วยวัย 34 ปี บวกกับเข้าสู่ฤดูกาลที่ 7 กับ "เรือใบสีฟ้า" มันจึงไม่มีอะไรให้ต้องปรับตัวอีกแล้ว และ ยังสามารถเป็นผู้นำทีมในสนามได้ด้วย

อีกเรื่องที่ เป๊ป ยกให้ แฟร์นานดินโญ่ เป็นคนสำคัญของ แมนฯ ซิตี้ นั่นก็คือ "ความน่าเชื่อถือ" ทุกครั้งที่เขาเอ่ยปากพูดในห้องแต่งตัว นักเตะจะให้ความเคารพและให้เกียรติแฟร์นานดินโญ่ อยู่เสมอ ฉะนั้นถ้าหาก แฟร์นานดินโญ่ สามารถรักษาฟอร์มได้แบบซีซั่นก่อน เชื่อว่าเขาจะมาอุดช่องโหว่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับ "เรือใบสีฟ้า" ได้อย่างแน่นอน

ทางเลือกสอง : ถอย โรดรี้ ลงไปคู่ โอตาเมนดี้

ถ้าหาก แฟร์นานดินโญ่ มีสายเลือดเป็นเกมรับ โรดรี้ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คงมี DNA เรื่องนี้ไม่แพ้กัน เพราะจะเห็นได้เลยว่า เป๊ป คาดหวังกับ โรดรี้ มากแค่ไหน มิเช่นนั้นคงไม่ยอมทุบคลังค่าตัวเป็นสถิติสโมสร 62.8 ล้านปอนด์

โรดรี้ เข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ พร้อมบีบให้ แฟร์นานดินโญ่ ต้องมีสถานะกลายเป็นตัวสำรองไปแบบถาวร และ สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ไม่ผิดเพี๊ยนไปจากคำว่า "ร่างเงส บุสเก็ตส์" เพราะการออกบอลที่ง่าย, ไม่ต้องโชว์เทคนิคเยอะแต่สำคัญ และ มีจุดเด่นในเรื่องของการยิงไกล

ถึงแม้ โรดรี้ จะทำผลงานได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่กระนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนยันแล้วว่า อาจจะต้องมีถอย โรดรี้ ไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กดูบ้าง เพราะต่อให้ แฟร์นานดินโญ่ จะโชว์ฟอร์มไว้ยอดเยี่ยม แต่เรื่องอายุก็สำคัญ เพราะอายุ 34 กะรัต เข้าไปแล้ว ให้ลงสนามติดต่อกัน ก็คงไม่ไหว ฉะนั้นตัวเลือกที่ 2 ในตำแหน่งนี้ เชื่อว่า โรดรี้ จะรอเสียบ

ทางเลือกสาม : ขยับให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ เข้ามา

ถามว่าจะเอา ไคล์ วอล์คเกอร์ ขยับจากแบ็กขวา เข้ามาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก มันจะไหวเหรอ ? บอกตรงนี้คงยาก แต่ถามว่าเล่นได้ไหม อันนี้ได้แน่นอนครับพี่น้อง ! อย่าลืมว่าการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 ที่ทีมชาติอังกฤษ คว้าอันดับ 4 มาครอง ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็เล่นในตำแหน่งกองหลัง 3 ตัวมาแล้ว

ฉะนั้นถ้าจะปรับมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก แค่ต้องปรับวิธีการยืนนิดหน่อย ซึ่ง เป๊ป ก็บอกแล้วว่า ไม่ โรดรี้ ก็ ไคล์ วอล์คเกอร์ จะต้องขยับเข้าไปเล่นในตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุผลเดียวกันว่า แฟร์นานดินโญ่ กับ โอตาเมนดี้ อายุเกินเลข 3 ขับไปอีกหน่อยก็ถึงหลัก 4 แจ้งวัฒนะ แล้ว

ส่วนเรื่องตำแหน่งแบ็กขวา ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดหายไป เพราะ แมนฯ ซิตี้ ก็มีนักเตะอีกหนึ่งคน ที่ชื่อเสียงไม่ธรรมดาอย่าง เจา กานเซโล่ ที่พร้อมน้อมรับโอกาสลงสนามเช่นเดียวกัน

ทางเลือกสี่ : ดันดาวรุ่งสู่ชุดใหญ่

ถ้าเลือกนี้ เป๊ป อาจมองไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะในทีมก็มีนักเตะซีเนียร์ที่สามารถถอยลงไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่เกิดขึ้น เนื่องด้วย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เป็นโค้ชที่ให้โอกาสดาวรุ่งเช่นกัน เหมือนอย่างที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ขึ้นมายึดแบ็กซ้ายถาวร หรือ ฟิล โฟเด้น ก็มีโอกาสได้ลงสนามอยู่เรื่อยๆ

คำถามที่ว่าแล้วดาวรุ่งคนนั้นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ของทัพ "เรือใบสีฟ้า" จะเป็นใคร ? คำตอบตอนนี้ คงมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ เอริค การ์เซีย ไอ้หนูวัย 18 ปี แห่งสายเลือด "กระทิง" เป็นผลผลิตจากรั้ว ลา มาเซีย อะคาเดมี่ บาร์เซโลน่า ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะไปดึงตัวมาปั้นต่อเมื่อปี 2017

การ์เซีย เคยลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว 3 เกม ในรายการ คาราบาว คัพ และ ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งเกมที่ เรือใบสีฟ้า บุกไปชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 3-0 เขาเองก็มีชื่อเป็นตัวสำรองไว้รอสแตนด์บาย ฉะนั้นเชื่อว่าอาจมีโอกาสได้เห็นไอ้หนู การ์เซีย เร็วๆนี้ ก็เป็นได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0