โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สงครามข่าว (ลือ) !

สยามรัฐ

อัพเดต 07 เม.ย. 2563 เวลา 22.01 น. • เผยแพร่ 07 เม.ย. 2563 เวลา 22.01 น. • สยามรัฐออนไลน์
สงครามข่าว (ลือ) !

ข่าวลือที่ทำให้ผู้คนในสังคม สับสน วุ่นวาย วิตกกังวล จนไปถึงขั้น "ตระหนก" ในช่วง1-2 วันที่ผ่านมา คงไม่พ้นประเด็นที่มีการพูดถึงว่า รัฐบาลเตรียมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อภายหลังจากที่มีการประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กำหนดเวลาห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มจนถึงตี4 อาจจะขยายไปจนถึง "24ชั่วโมง" กันเลยทีเดียว

ทันทีที่ข่าวลือว่ารัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิว ตลอด24ชั่วโมงถูกขยายออกไป สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในทิศทางที่ "ไม่เอาด้วย" กันเป็นทิวแถว

ยิ่งเมื่อมี "นักการเมือง" ออกมาร่วมขย่ม ก่อนที่ "ทีมโฆษกรัฐบาล" รวมทั้ง "นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน" โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมายืนยัน ว่ายังไม่มีการยกระดับไปถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิว 24ชั่วโมง ยังคงใช้กฏหมายปกติ !

ในสถานการณ์ที่บ้านเมือง อยู่ในภาวะวิกฤติ หลังการเผชิญหน้ากับ "สงครามไวรัสโควิด-19" เช่นเดียวกับอีกกว่า 200 ประเทศทั่วโลก จนทำให้รัฐบาลแทบทุกประเทศที่กำลังแก้ไขปัญหาในเรื่องเดียวกัน แต่บริบทของปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน จึงพากันทุ่มเทไปกับ "เรื่องด่วน" ที่อยู่ตรงหน้า

โดยในส่วนของประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยกระดับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด -19 ไปสู่ "วาระแห่งชาติ" เรียบร้อยแล้ว !

"วันนี้ในที่ประชุมครม. ได้ประกาศให้โรคไวรัสโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ จึงอยากให้ทุกคนรับฟังในเรื่องการใช้จ่ายในภาครัฐ

รวมทั้งมาตรการและการดำเนินการต่างๆ ที่ออกมา ผมยินดีรับข้อสังเกต ข้อเสนอแนะจากทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ วันนี้ขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วย บางอย่างถ้าสามารถช่วยเหลือกันได้ ก็ขอความกรุณา " (7เม.ย.63)

ทั้งนี้ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 7เม.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลยังได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำนวน 3 ฉบับ ใน วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท และ พ.ร.บ. 1 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกมิติ

การที่รัฐบาล ขยับเดินหน้าเร่งรุดบริหารจัดการทั้งการออกมาตรการเพื่อป้องกันและรักษา การแพร่ระบาดโควิด ไปพร้อมๆกับการใช้มาตรการทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อดึงเม็ดเงินออกมาทั้งกระตุ้น และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามไวรัส คือการขับเคลื่อนในเชิงนโยบาย เพื่อให้เกิดผลเป็น "รูปธรรม"

แต่อย่าลืมว่าปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง คือความวุ่นวาย และความเคลื่อนไหวจากนักการเมือง บางกลุ่มบางฝ่าย ที่ใช้จังหวะโจมตีไป ขณะเดียวกัน ยังต้องไม่ลืมว่า เมื่อรัฐบาลกำลังถูก "ปัจจัยภายนอก" กลุ้มรุมอยู่เช่นนี้แล้ว จะถึงเวลา "ปรับทัพ" ทีมงานทั้งฝ่ายบู๊ ฝ่ายบุ๊น ทั้งในรัฐบาล และในพรรคพลังประชารัฐ แล้วหรือไม่ !?

เพราะการนิ่งเฉย หรือการชี้แจง ที่ล่าช้า ในยามที่ข่าวลือ ข่าวร้าย นั้นลุกลามไปไกล ยิ่งกว่าไฟไหม้ป่า คงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก !

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0