โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศาลพิพากษา จำคุก 36 เดือน ปรับเงิน 2.7 หมื่นบาท อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ‘เจ้าคุณธงชัย’ เอี่ยวเงินทอนวัด 69 ล้านบาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี

สวพ.FM91

อัพเดต 19 ก.พ. 2563 เวลา 06.12 น. • เผยแพร่ 19 ก.พ. 2563 เวลา 06.12 น.
ศาลพิพากษา จำคุก 36 เดือน ปรับเงิน 2.7 หมื่นบาท อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ‘เจ้าคุณธงชัย’ เอี่ยวเงินทอนวัด 69 ล้านบาท  โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดี ทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม ศรศิลป์ อายุ 60 ปี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.), นายชยพล พงษ์สีดา อายุ 64 ปี อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา, นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีตผู้อำนวยการกองส่งเสริมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา, นายพัฒนา สุอำมาตย์มาตรี อายุ 50 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา, พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือ นายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ, ทำ, จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 ประกอบมาตรา 83, 86, 91
 
โดยคดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2558 – วันที่ 22 กรกฎาคม 2559 พวกจำเลย ได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปี 2559 จำนวน 69,700,000 บาท (จากวงเงิน งบประมาณประจำปี 2559 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้ “วัด” เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินด้วยการให้ “วัด” โดยเจ้าอาวาส เสนอโครงการเพื่อรับเงินสนับสนุนที่เบียดบังมา จากที่ได้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนในโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม จำนวน 37,200,000 บาท และโครงการศูนย์กลางเผยแพร่กิจการพระพุทธศาสนา จำนวน 32,500,000 บาท ซึ่งวัดสระเกศฯ ได้รับอนุมัติเงินไปเพียงวัดเดียว โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 “พ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมาย
 
ซึ่งมีคำขอท้ายฟ้อง ขอให้ศาล มีคำสั่ง จำเลยที่ 1-5 ร่วมกันคืนเงินหรือใช้เงินจำนวน 69,7000,000 บาท คืนแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้เสียหาย พร้อมขอให้ศษลนับโทษจำคุก “นายพนม” อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำเลยที่ 1 กับคดีหมายเลขดำ อท. 253/2561, อท. 254/2561 (ร่วมทุจริตการจัดสรรเงินงบ พศ.) ของศาลนี้ และ “พระพรหมสิทธิฯ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 กับคดีมหายเลขดำ อท. 197/2561 (ร่วมฟอกเงิน) ของศาลนี้ด้วย
 
ขณะที่ ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ นายพนม อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งได้ถูกดำเนินคดีหลายสำนวนในศาลนี้ ส่วน พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นั้นก็เพิ่งได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 โดยศาลตีราคาหลักประกัน 2.5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้ จำเลย มารายงานตัวต่อศาล ทุก 1 เดือนไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
 
วันนี้ (19 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวจำเลยที่ 1- 4 ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มาฟังคำพิพากษา ขณะที่นายธงชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 สวมชุดขาวมาศาลพร้อมคณะลูกศิษย์ โดยมีกลุ่มพระสงฆ์เเละคนสวมชุดขาวทยอยเดินทางมาให้กำลังใจที่ศาล
 
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว ฟังว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 - 5 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงพิพากษา ให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน, จำเลยที่ 2-4 จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน ส่วนนายธงชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 36 เดือน และปรับ 27,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 5 นั้นศาลเห็นว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยกระทำผิดทางวินัยเเละเรื่องทุจริตนำผลประโยชน์เข้าตัวเองจึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้กำหนด 2 ปี

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ดูเพิ่มเติม สวพ.FM91