โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศรีลังกาชี้ บอมบ์วันอีสเตอร์ เพื่อล้างแค้นเหตุโจมตีมัสยิดเมืองไคร์สเชิร์ท

มติชนสุดสัปดาห์

เผยแพร่ 23 เม.ย. 2562 เวลา 10.12 น.
SRI LANKA-ATTACKS

วันที่ 23 เมษายน 2562 สำนักข่าวรอยสเตอร์รายงานว่า ความคืบหน้าเหตุระเบิดโจมตีหลายจุดในวันอีสเตอร์ที่ประเทศศรีลังกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางการเปิดเผยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวมุ่งหมายเพื่อแก้แค้นการโจมตีมัสยิดในเมืองไคร์สเชิร์ท ประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมระบุอีกว่า มีกลุ่มอิสลามสุดโต่ง 2 กลุ่มที่เชื่อว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ

โดยนายรูวัน วิเจวาดินี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกากล่าวต่อรัฐสภาว่า จากการสืบสวนเผยให้เห็นว่าเป็นการโจมตีเพื่อล้างแค้นจากเหตุโจมตีมัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์ โดยเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธ เนชั่นแนล ทาวิด จามา’อุด พร้อมกับกลุ่มจัมมิยาทูล มิลลาทู อิบราฮิม

ด้านตำรวจศรีลังกา ก็ได้ควบคุมตัวชาวซีเรียซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย 40 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวศรีลังกา โดยจากการสืบสวนระบุว่า ทุกคนต่างซักทอดไปยังชาวซีเรียที่ถูกควบคุมตัวด้วย

ขณะที่ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตี ล่าสุดวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 321 ราย และรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกครั้งเมื่อช่วงดึกของวานนี้ เพื่อให้อำนาจหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย

นอกจากนี้ มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ติดต่อหานายกรัฐมนตรีศรีลังกาเพื่อให้คำมั่นว่าสหรัฐฯจะสนับสนุนในการนำผู้บงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างคำกล่าว่าของหน่วยงานด้านกฎหมายที่ไม่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอได้ถูกส่งตัวไปยังศรีลังกาเพื่อสนับสนุนการสืบสวนกับเจ้าหน้าที่ของศรีลังกา พร้อมเสนอผู้เชี่ยวชาญในห้องวิจัยเพื่อตรวจสอบหลักฐานและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาเบาะแสการโจมตี แม้แต่หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายจากอังกฤษก็อยู่ระหว่างเดินทางมายังศรีลังกาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่ภาพของชายคนหนึ่งพร้อมสะพายเป้ขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าเป็น 1 ในทีมมือระเบิดฆ่าตัวตาย โดยชายคนนี้ตบหัวเด็กเบาๆ ก่อนมุ่งหน้าเข้าโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน ซึ่งเป็น 1 ใน 6 จุดที่เกิดเหตุระเบิดจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯระบุว่า การโจมตีแบบนี้ดำเนินการเป็นแบบเฉพาะของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส แต่มีความต่างตรงที่บ่อยครั้งกลุ่มไอเอสจะแสดงตัวรับผิดชอบอย่างรวดเร็วว่าเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับการโจมตีเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติหรือกลุ่มศาสนาว่าพวกเขาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดมาแสดงตัวรับผิดชอบว่าเป็นผู้ก่อเหตุลงมือโจมตีครั้งนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0