โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

วินาทีเผชิญหน้า!! "พิงกี้" กอด "ธัญญ่า" นับถือเป็นพี่สาว-ลั่นขอทำเพื่อประเทศชาติ

Khaosod

อัพเดต 16 พ.ค. 2561 เวลา 14.10 น. • เผยแพร่ 16 พ.ค. 2561 เวลา 14.10 น.
787412021000

วันที่ 16 พ.ค. ที่ศูนย์การค้าโชว์ดีซี พระราม 9 เป็ก-สัณณ์ชัย เองตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์ พี เอ็ม มีเดีย จำกัด จัดงานแถลงข่าวโครงการ “เที่ยวให้สุด ปักหมุด สุดแดนใต้” พร้อมเปิดตัวภรรยาสาว ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล ในฐานะนักแสดง ประกบคู่อดีตคู่กรณีนางเอกสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ที่เคยมีข่าวฉาวกันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรก

Live. ฟังสดๆ ‘ธัญญ่า & พิ้งกี้’ ทำไมยอมจูบปากร่วมงานกันครั้งแรก ? ในงานแถลงข่าวโครงการ "เที่ยวให้สุด ปักหมุด สุดแดนใต้" #ข่าวสดบันเทิง

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ 16 พฤษภาคม 2018

โดย ธัญญ่า เผยว่า “พี่เป็กได้มาร่วมงานกับทาง ททท. มีโครงการเที่ยวให้สุด ปักหมุดสุดแดนใต้ พี่เป็กก็มาถามธัญญ่าว่า สามารถร่วมงานกับพิ้งกี้ได้มั้ย ญ่าก็บอกว่าได้นะ คิดอยู่แป๊ปนึงก็แบบมันไม่มีอะไรแล้ว เขาก็เลยบอกว่าเขามีโครงการนี้ที่อยากจะทำ จุดแรกเลยของพี่เป็กเขารับราชการอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาได้ไปทำงานที่สามจังหวัดนี้ได้เห็นความเป็นอยู่ของประชาชน แล้วเห็นความสวยงามทั้งหลาย และเชื่อว่าวัยรุ่นหรือเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยเห็น ไม่เคยรับรู้ว่าสามจังหวัดนี้มีสิ่งที่สวยงาม พี่เป็กเคยพาไปที่โรงเรียนครั้งนึง เขาดีใจมากนะเวลาเราไปให้การต้อนรับเหมือนเราดังมาก(หัวเราะ) เราอาจจะไม่ได้เป็นการเชิญชวนว่าต้องไปนะ แต่แค่ให้รู้ว่าประเทศไทยเรามีสามจังหวัดนี้ที่ยังมีอยู่ในประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่สวยงาม มีของกินที่อร่อย มีประชาชนที่น่ารักอยู่ที่นั่น”

ด้าน พิ้งกี้ กล่าวเสริมว่า “ตอนแรกไม่เข้าใจจุดประสงค์การที่เราสองคนมามันเกี่ยวอะไรกับการท่องเที่ยว แต่พอเราเข้าใจแกนหลักของโปรเจ็กต์นี้ อ๋อ มันเกี่ยวกับว่ากี้กับพี่ญ่าเราจะเกิดอะไรขึ้นในอดีตไม่รู้ แต่วันนี้เราจับมือด้วยกันแล้วเราเดินไปข้างหน้า สำหรับโปรเจ็กต์นี้ถามว่ากี้เลือกนานมั้ยกว่าจะรับ ก็พูดเหมือนพี่ญ่าเมื่อกี้ว่ามันทำเพื่อประเทศ อีกอย่างอยากมาทำงานกับพี่ญ่าด้วยจริงๆ เพราะรู้สึกว่า ครั้งนึงเราเคยไม่ไอ้นี่ต่อกัน แล้ววันนี้ได้มากี้ก็รู้สึกดีใจกลายเป็นคนที่กี้รักมาก ตอนถ่ายแบบด้วยกันทำไมผู้หญิงคนนี้ตัวหอมมาก โอ้ย เขินค่ะ โปรเจ็กต์นี้เป็นทีมงานติดต่อมา ถ้าเป็นพี่เป็กติดต่อมาก็คงไม่ทำ(หัวเราะ) อันนี้ทีมงานติดต่อมาเราก็เลยรู้สึกว่า โอเค เราเข้าใจว่าสองคนนี้จะเป็นตัวแทนลงไปในภาคใต้สามจังหวัดชายแดน ไปถ่ายในสถานที่จริงที่มีความสวยงามมากมาย ที่เราไม่เคยได้ไปสัมผัส ก็อยากให้ทุกคนได้รับรู้และเห็นผ่านเรื่องของเราด้วย”

 

ธัญญ่าได้ถามเป็กไหม ทำไมถึงเลือกพิ้งกี้
ธัญญ่า เล่าว่า “คือจริงๆ เราก็รู้อยู่แล้วที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มันคือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาเป็น 10 ปี แต่ทุกวันนี้มันก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็อยากให้เราสองคนเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น ที่จะให้เห็นว่าความจัดแย้งที่มันเกิดขึ้นสุดท้ายแล้วมันก็คลี่คลายไปในทางที่ดีได้ ถามว่าตกใจมั้ยต้องมาร่วมงานกับพิ้งกี้ ก็ไม่ได้ตกใจนะ เพราะเรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร มันเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้วต่างคนก็ต่างดำเนินชีวิตของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้”

6 ปีที่ผ่านมามันสนิทใจเหมือนเดิมไหม
ธัญญ่า เล่าต่อว่า “ก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนไปฟิตติ้งเราก็แอบแบบ เอ๊ะ พอเจอเราจะทำหน้ายังไงดี ก็ทักทายกันหรือยังไง มันวางแผนอะไรไม่ได้ เพราะถึงเวลาก็ตื่นเต้น พอเจอกันก็ทำงานเลย อาจจะไม่ได้สนิทใจร้อยเปอร์เซ็นต์ มันจะยังไงดี แต่พอทำงานไปสักสองสามนาทีก็จูนกันได้เลย ส่วนถ้ามีดราม่าอะไรอีกสำหรับตัวธัญญ่า ก็จะไม่ทำ ชัดเจนเลยว่าถ้าเรายังไม่โอเคก็ไม่ทำ แต่เราโอเคจริงๆ ถึงยอมมาทำงานนี้”

ตอนที่เจอใครทักใครก่อน
พิ้งกี้ เผยว่า “ก็เข้าไปกอดกันเลยค่ะ ในฉากมันต้องกอดกัน ต้องรักกันต้องกอดกันจริงๆ แล้วเราก็มีความรู้สึกแบบ มันมีพลังงานที่เรารู้สึกว่าเรากอดเขาแล้วเราอบอุ่น เรามีความสุข พอภาพออกมามันน่ารักจริงๆ ในเรื่องมันจะมีความขัดแย้งบางอย่างเกี่ยวกับสถานที่ เราก็จะเอาชนะกันในเล่ห์เลี่ยมของแต่ละคน แต่จิรงๆ แล้วเราเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่รักกัน”

“ตอนนี้รู้สึกว่าเรามีพี่สาวที่พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจนะ มีพี่สาวอีกคนที่เราคุยแล้วรู้สึกสบายใจ ขอบคุณมิตรภาพที่พี่ธัญญ่าให้ด้วย มันเป็นความรู้สึกดีจริงๆ กี้ไม่ได้เสียงสั่นนะเป็นคนเสียงแบบนี้อยู่แล้ว(หัวเราะ) ถามว่าได้คุยกับพี่เป๊กบ้างหรือเปล่า คุยกันก็คุยตอนที่รับโปรเจ็กต์นี้ เรามีต้องไปประชุมด้วยกันทั้งหมดที่บ้านพี่ธัญญ่า ต้องคุยกันเพื่อจะให้โปรเจ็กต์นี้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน เราบริสุทธิ์ใจอันนี้เป็นชิ้นงานที่จะดำเนินไปในอนาคต และมีอีกหลายงานที่เราต้องทำกัน”

คนมองว่าโปรเจ็กต์นี้ดูสร้างภาพสร้างกระแสเรารู้สึกอย่างไรบ้าง
ธัญญ่า กลาวว่า “เราไปกำหนดความคิดของคนอื่นไม่ได้ ก็ต้องมีคนคิดในแง่ลบอยู่แล้ว เราเชื่อว่าคนที่คิดในแง่บวกต้องมีมากกว่าอยู่แล้วล่ะ เพราะว่าคนทะเลาะกัน วันนึงกับมาดีกันมันก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ฉะนั้นใครจะคิดในแง่ร้ายไม่เป็นไรก็ขอให้ดู ได้รู้จักโครงการนี้ได้รู้จักสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีสิ่งที่สวยงาม แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ ถามว่าถ้าไม่มีโปรเจ็กต์นี้ จะมีโอกาสที่ทั้งสามคนจะได้กลับมาคุยกันมั้ย จริงๆ ยังไม่มีใครติดต่อให้ทำงานด้วยกัน พอดีมีพี่เป็กที่กล้า ค่าตัวก็น้อยเชียว(หัวเราะ) ต้องไปไถ่จากพี่เป็กเอง ถ้าได้เงินก็จะดีนะคะ เราเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาด้วยกันมีความขัดแย้ง พอวันนึงที่เรามาเจอมาคุย มันก็ทำให้จูนได้ ถ้าเมื่อก่อนเรามาเจอกันอาจจะเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องในวงการ แต่นี่เหมือนเราผ่านอะไรมาด้วยกัน ซึ่งค่อนข้างจะโชกโชนนะ ณ วันนี้เราได้มาคุยกันมันทำให้ลึกขึ้นความเป็นพี่เป็นน้องมันสนิทใจ”

พิ้งกี้ เสริมว่า “ต่อให้มีเท่าไหร่ถ้าเกิดเราไม่เล่นก็คือไม่เล่น เรามองว่าถ้าเราสองคนเป็นจุดเล็กๆ ที่จะส่งต่อไปได้ก็คุ้มค่ากับการที่เราจะส่งต่อไป ให้คนทั่วประเทศได้เห็นว่าเราสองคนยังก้าวข้ามผ่านแล้วเดินไปในโปรเจ็กต์นี้ได้ เรื่องเงินมันก็ไม่ได้สำคัญ ถามว่านอกจากเรื่องงานเรามีคุยกันเรื่องอื่นมั้ย ไม่คุยค่ะ คุยกันแค่ในไลน์พี่ญ่าส่งมาบอกว่า ชุดวันนี้จะยังไง ประมาณนั้นค่ะ ส่วนคุณแม่ก็ซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ จริงๆ เราโตที่จะคิดอะไรมากกว่า อะไรที่เราทำได้คุณแม่ก็ให้เราตัดสินใจค่ะ”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0