คุณกิตติศักดิ์ พรมสอาดและคุณธนัชญาน์ มีสวัสดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 10 ตำบลบ่อนอก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หันมาปลูกว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคุณพ่อของคุณกิตติศักดิ์ เมื่อคุณกิตติศักดิ์เข้ามารับช่วงต่อก็ได้มีการพัฒนาและขยายช่องทางการขายมากขึ้น โดยได้คุณธนัชญาน์ผู้เป็นภรรยาคอยช่วย ทำให้สามารถสร้างรายได้เดือนละเป็นแสน ทั้งคู่ได้ถ่ายทอดเทคนิคการทำให้ว่านหางจระเข้มีกาบใหญ่ น้ำหนักดี เพื่อรักษามาตรฐานที่จะส่งโรงงาน ให้โรงงานไว้ใจและมีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ สามารถสร้างรายได้ให้กับทั้งคู่ได้อย่างมั่นคง
แต่ละโรงงานมีมาตรฐานในการรับใบว่านหางจระเข้ไม่เหมือนกัน บางโรงงานส่งใบเล็ก ได้น้ำหนักต่อกาบ 3-4 ขีด บางโรงงานตั้งมาตรฐาน ต้องน้ำหนัก 5 ขีดขึ้นไปต่อกาบ ซึ่งโรงงานรับใบว่านหางที่น้ำหนักเยอะนั้นส่วนมากจะนำไปผลิตน้ำว่านหางจระเข้เพื่อจำหน่าย คุณกิตติศักดิ์และคุณธณัชญาน์จึงพิถีพิถันในการคัดเลือกใบที่ได้มาตรฐานและมีน้ำเยอะเสมอ โดยได้รับการถ่ายทอดเทคนิคนี้จากรุ่นพ่อเช่นกัน
ลักษณะต้นว่านหางจระเข้ที่ไม่ดี สังเกตได้ดังนี้
- ใบเน่าและลำต้นเน่า แสดงว่าน้ำขังมากหรือปุ๋ยมากเกินไป
- ใบแบนราบลง แสดงว่ารากเริ่มเน่าหรือต้นมีรากน้อยเกินไป
- ใบออกสีน้ำตาลอมแดงเป็นเพราะถูกแดดมากเกินไป
- โตช้าเพราะขาดปุ๋ย ดินแข็งไม่ร่วน ขาดน้ำค้าง ถูกต้นไม้อื่นแย่งอาหารถูกแดดมากเกินไปและขาดน้ำ
เทคนิคการดูสังเกตดูว่านหางจระเข้ว่ามันได้คุณภาพมาตรฐานตามที่โรงงานนำไปแปรรูปแล้วหรือยัง
- ให้สังเกตดูกาบ ใบที่ใช้ส่งโรงงานจะเป็นสองใบล่าง ซึ่งเป็นใบที่แก่จัด
- มีน้ำหนักค่อนข้างมากและมีเนื้อเต็มกาบ
- เนื้อจะอูม เส้นใยจะเป็นสีอ่อน จะไม่เข้มมาก ถ้าเข้มมากคือแก่เกินไปสำหรับโรงงานที่จะนำไปแปรรูปเป็นน้ำว่านหางจระเข้
- ให้เลือกปาดดูที่ใบว่าน ถ้าเสี้ยนไม่เข้มจนเกินไป ใบไม่ดำ ถือว่าเป็นว่านที่สามารถตัดส่งโรงงานได้