สะพัดวงการโรงสีกว่า 3 แสนล้านสะเทือน หลังข่าวสนั่นโรงสีภาคกลางโดนทุนจีนกินรวบ นายกโรงสีเต้น วิ่งเช็คข่าวพัลวัน แกะรอยพบจริง เพียงการพูดคุยเจรจาส่งข้อมูลให้ แต่ยังไม่ปิดบัญชีการขายสักรายเดียว ส่งสัญญาณเตือนภัย ระวังถูกหลอกหลงกลโดยไม่รู้ตัว
นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในขณะนี้มีกระแสข่าวเรื่องทุนต่างชาติเขามาซื้อโรงสี ทำให้มีผู้สอบถามกันมาหลายรายว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและจากโพสต์ส่วนบุคคล ได้โพสต์ มีข้อความตอนหนึ่งว่า “โรงสีใหญ่ในหกจังหวัดภาคกลาง กว่าครึ่งจีนซื้อไปแล้ว” และส่งต่อกันในไลน์ สมาคมโรงสีข้าวไทยได้สอบถามสมาชิกฯในหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคกลาง ว่าทราบข่าวหรือไม่ว่ามีทุนจีนมาหาซื้อโรงสี ก็ได้รับคำตอบจากสมาชิก ว่ามีนายหน้าซึ่งเป็นคนไทยได้มากับคนจีนมาเที่ยวตามโรงสี หลายโรงสี หรือบางรายโทรศัพท์มา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดต่อขอซื้อกิจการโรงสี ส่วนใหญ่จะดูโรงสี ขนาดกลางขึ้นไป และได้สอบถามข้อมูลด้านกำลังผลิต กำลังการอบ พื้นที่โรงสี และรายละเอียดต่างๆเหมือนมาไล่เก็บข้อมูลอะไรบางอย่าง ซึ่งพอได้ข้อมูลแล้วก็ไม่ติดต่อกลับมา จึงไม่ทราบว่าสนใจจะซื้อจริงๆหรือไม่ ก็จึงขอฝากสมาชิก ให้ระมัดระวังไม่ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีอะไรซ่อนเร้นและแอบแฝงหรือไม่ หรือมีวัตถุประสงค์อื่นใดหรือไม่
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า แต่ถ้าเกิดเป็นจริงที่ทุนต่างชาติจะซื้อและโรงสีบางโรง ประสงค์ที่จะขายเนื่องจากเหตุผลอะไรก็สุดแล้วแต่ (ถ้ามองผิวเผินดูเหมือนจะเป็นดี) แต่สิ่งที่น่าคิดน่าเป็นห่วงที่สุด คือ เนื่องจากข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ การเข้ามาแทรกแซงของกลุ่มทุนต่างชาติอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบการค้าข้าวของประเทศไทย ที่มีวงเงินหมุนเวียนกว่าปีละ 3แสนล้านบาท กลุ่มทุนนอกสามารถที่จะควบคุมราคาได้ตามความต้องการเนื่องจากเงินทุนที่สูงกว่า โดยอาจจะเป็นปัญหากับระบบเศรษฐกิจของเราได้อย่างมาก ถ้าไม่มีกาาติดตามเฝ้าระวัง ดังนั้นก็ขอฝากสมาชิกฯและผู้ที่อยู่ในวงการข้าว ช่วยติดตาม
