โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วอนช่วย ตังเกจากกันตัง 33 ชีวิต เรือล่ม เหลือแต่ตัว ติดอยู่รัฐเปอร์ลิส

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 08 เม.ย. 2563 เวลา 11.47 น. • เผยแพร่ 08 เม.ย. 2563 เวลา 11.07 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ญาติน้ำตาอาบแก้ม ร้องผ่านสื่อถึงรัฐบาล วอนช่วยลูกเรือประมงชาวตรัง 33 ชีวิต กลับบ้านด่วน หลังเรือชนเกาะอับปางกลางทะเลรัฐเปอร์ลิส ช่วงมาเลย์ปิดด่านห้ามเข้า-ออกประเทศพอดี

เวลา 13.00 น. วันที่ 8 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวของลูกเรือชาวประมงไทยจำนวน 33 ชีวิต ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ได้เดินทางไปรับจ้างเป็นลูกเรือประมงของเรือสัญชาติมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา กำหนดระยะเวลาจำนวน 22 วัน แต่ต้องหยุดทำประมงกลางคัน ในวันที่ 27 มี.ค. เพราะประเทศมาเลเซียได้สั่งปิดด่านเข้าออก มิหนำซ้ำระหว่างที่แล่นเรืออยู่ ได้ประสบอุบัติเหตุเรือชนเข้ากับเกาะ ทำให้เรือล่มไปครึ่งลำ แต่โชคดีที่มีเรือของเพื่อนชาวประมงเข้ามาช่วยเหลือ แต่ต้องทิ้งสัมภาระ  เสื้อผ้า รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้

ขณะนี้ทั้งหมดขาดเครื่องนุ่งห่มและอาหาร โดยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆ อีกทั้งไม่มีการทำหนังสือส่งตัวให้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและมีความเป็นอยู่ที่ลำบากเป็นอย่างมาก และยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเองว่าจะได้กลับบ้านมาพบกับครอบครัวเมื่อไร

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงไปยังพื้นที่ บ้านสิเหร่ (บ้านหัวท๋อง) หมู่ 6 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงที่ญาติของ 4 ชีวิต ในทั้งหมด 33 ชีวิตอาศัยอยู่ และได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มือถือกับนายพิพัฒน์ จันทร์ตุด หรือบังหมัด อายุ 33 ปี หนึ่งในลูกเรือกล่าวว่า ตอนนี้ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก อาหารการกินมีเถ้าแก่เข้ามาดูแลบ้างบางเวลา แต่อดมื้อกินมื้อ ทุกคนอยากกลับบ้านมากตอนนี้ แต่ต้องรอเขาเปิดด่านก่อน งานก็ไม่ได้ทำ เรือก็พังเพราะไปชนเข้ากับเกาะ

"อยากบอกครอบครัวว่าตอนนี้ไม่เป็นอะไร ได้กลับมาที่ฝั่งแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง รอเขาเปิดด่านหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็สามารถกลับได้ โดยก่อนที่เรือจะประสบอุบัติเหตุ ทุกคนกำลังกลับจากขึ้นปลา อยู่ระหว่างการเดินทาง ทุกคนเริ่มอ่อนเพลียรวมถึงไต๋เรือ ทำให้ไต๋เรือหลับในและเรือพุ่งชนเกาะ แล้วเรือก็ทรุดลงน้ำเรื่อยๆ ใช้เวลาอยู่ในเรือตั้งแต่ตี 1 ถึงเช้า ก่อนจะมีเรืออีกลำหนึ่งเข้ามาช่วย ทุกคนปลอดภัยดี แต่ตอนนี้อยากกลับบ้าน คิดถึงลูกเมียมาก โดยตอนนี้ได้ขึ้นมาอยู่บนแพที่บนฝั่งแล้ว"

ขณะที่ น.ส.ฐิติศรี หาบหา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 6 ต.บ่อน้ำร้อน ภรรยา นายพิพัฒน์ จันทร์ตุด หรือบังหมัด และนางจำปี เชื้อเพชร อายุ 48 ปี แม่ยาย กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกเป็นห่วงสามี และคนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้กลับมา เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยหายไปนานขนาดนี้ ปกติไปประมาณ 22 วัน ตอนที่รู้ข่าวครั้งแรกรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ก็มีการพูดคุยกันบ้าง คนในเรือก็อดมื้อกินมื้อ มีเถ้าแก่มาดูบ้าง แต่หลังเกิดเหตุก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลเลย ยังไม่ได้สอบถามอะไรจากอำเภอ แต่ก็ไม่มีใครประสาน หรือเคลื่อนไหวอะไร อยากให้มีหน่วยงานช่วยพาออกมา ทุกคนที่อยู่ในเรือลำนั้นแต่ละคนก็ออกไปหาเลี้ยงครอบครัว เป็นเสาหลักของครอบครัว รู้สึกเป็นห่วงมาก อยากให้เขากลับมา.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0