โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ลองขับครั้งแรก โคโรลล่า อัลติส 1.8 GR Sport หนึบแน่น สนุกขึ้น

Manager Online

เผยแพร่ 10 ก.ย 2562 เวลา 02.27 น. • MGR Online

โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ถือกำเนิดขึ้นในปี 2509 ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานและได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์นั่งขายดีตลอดกาลของญี่ปุ่นและในอีกหลายๆ ประเทศรวมถึงเมืองไทยด้วย โดยมียอดขายสะสมกว่า 800,000 คัน ในปัจจุบัน จนกระทั่งตลาดของไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปหลังการมาของรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ ทำให้ โคโรลล่า อัลติส มียอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อน

อย่างไรก็ตาม โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ยังถือว่าเป็นรถที่มีความสำคัญที่สุดของโตโยต้า ทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ดังนั้นเจเนอเรชันใหม่ของ โคโรลล่า จึงต้องมีความพิเศษที่สุด โดยเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว เจเนอเรชันที่ 12 ของ โคโรลล่า อัลติส อย่างเป็นทางการ

โคโรลล่า อัลติส ใหม่ มากับ 6 รุ่นย่อย 3 ทางเลือกเครื่องยนต์หลัก ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร , รุ่นเครื่องยนต์ปกติ 1.8 ลิตร และ 1.6 ลิตร

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการรอช้าเสียเวลาทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้ประเดิมทดลองขับในรุ่น 1.8G GR Sport เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม เจ้าเจเนอเรชันที่ 12 นี้มีอะไรแตกต่างเพิ่มเติมไปบ้างเชิญติดตามได้

TNGA+ชุดแต่ง

โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่นั้นมากับ TNGA โครงสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ มีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังด้วยการเพิ่มจุดเชื่อมมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมการใส่ระบบเสริมความปลอดภัยใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ได้แก่

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา(Blind Spot Moniter) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist Control) รวมถึงติดตั้งถุงลมนิรภัยให้ 7 ตำแหน่งอีกด้วย

หัวใจยังคงคบหากับเครื่องยนต์ตัวเดิมรหัส 2ZR-FBE เบนซิน 4 สูบ DOHC ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิด 177 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง อี85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT-i 7สปีด

ด้านการตกแต่งภายนอก จัดเต็มด้วยสปอยเลอร์รอบคัน ดูแล้วแปลกว่ารุ่นย่อยอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะยางจัดมาให้พิเศษสุดด้วยยางมิชลิน ไพร์มาซี 4 ขนาด 225/45 R17 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดของยางที่ใส่ในรถประเภทนี้

ส่วนการตกแต่งภายใน ดีไซน์ใหม่ทั้งหมดฉีกจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง แต่ยังคงเอกลักษณ์ของการใช้งานง่าย และเน้นเอาใจผู้ขับขี่มากขึ้น โดยมีกล้องมองหลังติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย

โตโยต้า เคาะราคารุ่นนี้ไว้ที่ 999,000 บาท เฉพาะสีขาวคันที่เราขับนั้นต้องจ่ายเพิ่ม 10,000 บาท โดยมาพร้อมกับแคมเปญ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ต่อปี หรือ เลือกผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงเดือนละ 8,500 บาทได้ตามใจชอบ นับเป็นเรื่องแปลกที่รถเปิดตัวใหม่มาพร้อมแคมเปญด้วยทันที

ขับสนุก เกาะโค้งมั่นใจ

แรกรับรถมา เข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร สิ่งแรกที่สะดุดใจผู้เขียนมากที่สุดคือ เกียร์ ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบแนวตรง ต่างจากเดิมที่ใช้แบบขั้นบันได และการมีคอนโซลกลางสูงใหญ่ ให้ความรู้สึกว่า แน่น ต่างจากโฉมก่อนที่เน้นพื้นที่ว่างทางด้านหน้าค่อนข้างมาก

ขณะที่หน้าปัดยังเป็นแบบเข็มไมล์ มีจอสีแสดงผลขนาด 4.2 นิ้วอยู่ทางด้านข้าง ควบคุมผ่านปุ่มมัลติฟังก์ชันบนพวงมาลัยซึ่งมีขนาดใหญ่จับถนัดมือดี ใช้งานง่ายสะดวก พร้อมแพดเดิลชิฟ แต่ปุ่มมัลติฟังก์ชันที่มีเพียงฝั่งเดียว อีกฝั่งหนึ่งนั้นโล่ง ทำให้รู้สึกแปลกๆ อยู่พอสมควร โดยสิ่งที่หายไปคือ ระบบครุยซ์ คอนโทรล

หน้าจอที่คอนโซลกลางมีขนาด 8 นิ้ว ซึ่งมีทั้งระบบปุ่มกดและสั่งการด้วยการสัมผัสได้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เบรกมือไฟฟ้า อยู่ในตำแหน่งใช้งานสะดวก

สำหรับการทดลองขับครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยการวิ่งแบบทางยาวๆ เพื่อลองขับด้วยความเร็วสูง โดยเราขับแตะถึงความเร็วกว่า 170 กม./ชม. พบว่า การทรงตัวของรถนั้นค่อนข้างนิ่งดีทีเดียว รู้สึกมั่นใจ แตกต่างจากโฉมก่อนหน้าแบบชัดเจน ส่วนการขับขี่แบบทั่วไปที่ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. นั้นสารภาพตามตรง ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นก่อนแต่อย่างใด

การเร่งแซงถือว่าทำได้ประทับใจมาก กดคันเร่งรอบมาอย่างต่อเนื่องทันใจในทุกย่านความเร็ว ผิดนิสัยของเกียร์แบบซีวีทีที่มักจะมีการรอรอบ แต่เกียร์ซีวีที ชุดนี้ของโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ทำได้ดีงามเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ได้อารมณ์ขับสนุก ยิ่งเมื่อลองใช้งานแพดเดิลชิฟด้วยแล้ว บันเทิงอย่าบอกใครเชียว

ด้านวัสตุต่างๆ ดูดีขึ้น ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล การตัดเย็บ ประกอบเข้ารูปเนียนดี เก็บงานได้ประณีตดีขึ้นกว่าเดิมแบบจับต้องได้ เบาะนั่งหนังสีดำตัดแดงบางส่วนรูปทรงสปอร์ตนั่งสบายตัว เบาะหลังเป็นสีดำล้วนถามคนที่นั่งไปด้วยกันว่าเป็นอย่างไร คำตอบคือ “สบายดีนะ” ส่วนจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ยังไม่กล้ายืนยันคำตอบ

การควบคุมพวงมาลัยนั้นค่อนข้างเบามือมาก เหมาะกับการใช้งานเมือง ได้ทั้งความคล่องตัวและการตอบสนองที่ดี รัศมีวงเลี้ยวแคบมากเพียง 5.4 เมตร คันเร่งเบาแตะเพียงนิดเดียวรถก็พุ่งแล้ว เบรกน้ำหนักค่อนมาทางเบา แต่ไม่ถึงกับหัวทิ่ม ยังอยู่ในจุดที่เบรกอยู่และพอดีกับการเบรกแบบสบายไม่เวียนหัว

การเข้าโค้งเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ โฉมใหม่และตัวเก่า ด้วยการบิดตัวของรถที่น้อยลง เสียงรบกวนที่น้อยลง ต้องขอบคุณการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือนตามจุดต่างๆ ที่โตโยต้า ใส่เพิ่มเติมให้

ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์นั้นระบุตัวเลข 15.6 กม./ลิตร ส่วนการลองขับจริงของเรา ด้วยสไตล์การขับแบบสนุกสนาน ดังที่กล่าวมา หน้าจอแสดงผลลัพธ์เป็นตัวเลข 10.6 กม./ลิตร ถือว่า ยอมรับได้

เหมาะกับใคร

คนที่กำลังต้องการรถสักคันที่ใหญ่กว่าตระกูลบีเซกเมนท์ ขับสนุก มั่นใจขับไปที่ไหน ช่างก็ซ่อมได้ และไม่อยากได้ไฮบริด รวมถึงไม่อยากใช้รถเครื่องเล็กขนาด 1.6 ลิตร อัลติส 1.8G GR Sport คือคำตอบของคนที่ต้องการสิ่งนี้ อย่างไรก็ตามทีมผู้บริหาร โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายเอาไว้ที่ 2,300 คันต่อเดือน สัดส่วนของ 1.8G GR Sport ราว 25% ไม่น้อยเลยทีเดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0