[ลงทุนนิยม x investnow]
…อะไรเอ่ย ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี?
…หุ้น – ตราสารหนี้ – อสังหา – ทองคำ ที่ผ่านมาผลตอบแทนเป็นยังไง?
…ตลาดผันผวน ลงทุนยังไงดี?
เล่าให้ฟังแบบง่ายที่สุดกับเฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี ผู้ริเริ่มแนวคิด ‘ใช้แรงทำเงิน ให้เงินทำงาน’
ความมั่งคั่งของคนเรา เกิดขึ้นจาก 3 ตัวแปรคือ เงินต้น เวลา ผลตอบแทน
หลายคนถามมาเยอะนะคะว่า…จะลงทุน ไม่รู้จะเลือกอะไรดี ผลตอบแทนก็อยากได้สูงๆ ความเสี่ยงก็อยากได้ต่ำๆ
คำตอบคือ “ไม่มี” เพราะการลงทุน high risk high expected return ยิ่งความเสี่ยงสูง เราก็ยิ่งคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น ไปดูกันดีกว่าว่าผลตอบแทนของสินทรัพย์แต่ละประเภทในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา…หรือนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นยังไงบ้าง
– หุ้นไทย…เคยให้ผลตอบแทนสูงสุด 71% ต่อปี ในปี 2009 (แต่ก็เคยติดลบหนักสุด 45% ต่อปี ตอนปี 2008)
– ตราสารหนี้…เคยให้ผลตอบแทนสูงสุด 18% ต่อปี เมื่อปี 2008 (ซึ่งเป็นปีที่หุ้นร่วงหนักที่สุด) แต่ตราสารหนี้เองก็เคยติดลบถึง 4% ต่อปี (ในปีที่หุ้นให้ผลตอบแทนดีที่สุด)
– ทองคำ…เคยให้ผลตอบแทนสูงสุด 32% ต่อปี (แต่ก็เคยติดลบถึง 22% ต่อปี)
– เงินฝาก…ดอกเบี้ยเคยสูงสุดแค่ 2.7% ต่อปี
– เงินเฟ้อเคยพุ่งไปถึง 5.5% ต่อปีเลย
แต่ๆๆ “ลงทุนนิยม” ไม่เคยบอกให้ใครลงทุนแค่ 1 ปี…การลงทุนต้องดูกันยาวๆ หรือพูดง่ายๆ คือต้อง “อดทนรวย” และนี่คือผลของการ “อดทนรวย”
ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของสินทรัพย์แต่ละประเภท ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 2011-2018
– หุ้นไทย 9.70% ต่อปี
– ตราสารหนี้ 3.99% ต่อปี
– ทองคำ -3.32% ต่อปี
– ฝากเงินเฉยๆ 1.82% ต่อปี
– กองทุนอสังหาฯ หรือ REITs 14.67% ต่อปี
**เห็นผลตอบแทนสูงๆ แบบนี้ก็ต้องศึกษาดีๆ เพราะกองทุนอสังหาฯ จะมีลักษณะเฉพาะ ต้องดูว่าสินทรัพย์ในกองทุนเป็น Freehold (กองทุนมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ นั้น) หรือเป็น Leasehold เป็นเพียงสิทธิการเช่า ที่ผลตอบแทนที่ดูสูงๆ จะคืนส่วนทุนมาด้วยส่วนหนึ่งเสมอ หมดสิทธิการเช่า ก็หมดความหมาย)
สมมติว่าเราลงทุนก้อนเดียว 100,000 บาท ในปี 2011 ผ่านไป 10 ปี จะกลายเป็น
– 252,386 บาท ถ้านำไปซื้อหุ้นไทย
– 147,882 บาท ถ้านำไปซื้อตราสารหนี้
– 71,345 บาท ถ้านำไปซื้อทองคำ
– 393,095 บาท ถ้านำไปซื้อกองทุนอสังหาฯ หรือ REITs
– 119,765 บาท ถ้านำไปฝากไว้เฉยๆ
เห็นมั้ยคะว่า…นำเงินไปวางไว้ต่างที่กัน ปลายทาง ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันมากมาย
แต่เดี๋ยวก่อน…การลงทุนในอย่างใดอย่างหนึ่งก็เสี่ยงนะคะ จำตารางสินทรัพย์ตลอด 12 ปีได้รึเปล่า ถ้าเราลงทุนหุ้น 100% ปีที่เจอวิกฤต พอร์ตหายไปเกือบครึ่งเลยนะคะ หรือถ้าซื้อทองอย่างเดียว ปี 2013 ก็เจ็บไม่เบา
เค้าถึงมีคำพูดที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทุกใบไว้ในตระกร้าเดียวกัน” เพราะถ้าตระกร้าตก (เจอวิกฤต) ไข่แตกหมด…ไม่เหลือไว้ให้เราเอาไปทำไข่เจียวเลยนะค้า
ทางแก้ของปัญหานี้ก็คือการกระจายความเสี่ยง หรือที่เรียกว่า Asset Allocation ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อให้ทัดทานกับทุกสภาวะตลาดได้นั่นเอง
สรุป
มีเงิน ใช้เวลา “อดทนรวย” และหาผลตอบแทน จากการลงทุน จะทำให้คุณมั่งคั่งได้แน่นอน (และ 10% ต่อปีมีจริงถ้าลงทุนยาวๆ ในตลาดหุ้นไทย)
– 10 ปี เงิน 100,000 เป็น 252,000 บาท
– 20 ปี เป็น 637,000 บาท
– 30 ปี เป็น 1.6 ล้านบาท
การลงทุนมีความเสี่ยงจริง…แต่ถ้าไม่ลงทุนเสี่ยงกว่า…เพราะเงินเฟ้อกัดกินเงินเราทุกวัน
อย่าลงทุนเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จงกระจายการลงทุน (Asset Allocation) เพื่อกระจายความเสี่ยง และหาโอกาสในทุกสภาวะตลาด
มา #investnow ลงทุนทันทีเพื่ออนาคตการเงินดีๆ ของตัวคุณเองกันนะคะ ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กไปเลยที่ www.set.or.th/investnow