โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้จักใครสักคนให้ลึกไปอีกชั้น 3 ตัวช่วยฟังผู้คนอย่างเข้าใจและไม่ด่วนตัดสิน

The MATTER

เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 06.47 น. • Branded Content

*อาจเพราะโลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน เรามีเวลาให้กันน้อยลงทุกที *

หลายครั้งหลายคนเราจึงเผลอใจด่วนตัดสิน แปะป้ายอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ หรือเมื่อเจอคอมเมนต์ชวนขมวดคิ้วในโลกออนไลน์ภายในไม่กี่วินาที เราก็พร้อมจะจัดกลุ่มให้แต่ละคนเป็นอย่างนั้น อีกคนเป็นอย่างนี้ได้อย่างไม่รู้ตัว แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยๆ แต่สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของอคติที่ก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เราปฏิเสธที่จะรับฟังกันและกันในที่สุด

เพราะสิ่งสำคัญทุกอย่างต้องใช้เวลา เราจึงอยากให้คุณได้ลองสวมหลายบทบาท เพื่อที่จะได้เป็นนักเข้าใจ ผู้นิยมการเปิดใจกว้างยอมรับความแตกต่างหลากหลาย และจะไม่ยอมตัดสินอะไรหากยังไม่รู้จักสิ่งนั้นดีพอ

ลองสวมบทบาทเป็นนักสืบ มองหาข้อมูลของอีกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าตกหลุมถ้อยคำหรือลักษณะภายนอกแต่เพียงเท่านั้น เพราะมนุษย์เราสื่อสารสิ่งต่างๆ มากมายผ่านภาษากาย การขยับไม้ขยับมือหรือสายตานั้น บ่งบอกอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องสืบย้อนกลับไปภายในความคิดของตัวเราเอง ว่าเหตุผลที่เรารู้สึกแบบนี้กับคนนี้เป็นเพราะความเหมือนกันที่ทำให้รู้สึกเป็นพวกพ้อง หรือเป็นความแตกต่างจากเบื้องหลังการเติบโต ที่ทำให้เรารู้สึกไม่สนิทใจด้วยกันแน่  

ลองสวมบทบาทเป็นช่างภาพที่จะบันทึกภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวไว้เพียงสิ่งที่เห็นเท่านั้น ยอมรับว่ามุมที่เราเห็นเป็นเพียงชั่วขณะเดียว อย่าเพิ่งปรุงแต่งความคิด จินตนาการเพิ่มเติมจากสิ่งที่พบเจอ หากได้ยินเพียงหนึ่งประโยค ก็จะจดจำไว้เพียงหนึ่งประโยคนั้น หากมีจังหวะโอกาสดี อาจจะทวนความหมายกับเจ้าตัวอีกครั้งเพื่อย้ำถึงความเข้าใจที่ตรงกันดีกว่า

เผื่อใจว่าเราไม่ได้เติบโตมาแบบเดียวกัน แต่ละคนอาจจะผ่านประสบการณ์ดีงาม เลวร้ายแตกต่างกันไป การเข้าใจว่าเราไม่อาจเข้าไปนั่งในใจของใครคนอื่นได้อย่าง 100% นอกจากจะทำให้เราลดความคาดหวังในการคาดคั้นหาเหตุผล หรือคำอธิบายที่สมเหตุสมผลจากการกระทำของอีกฝ่ายแล้ว ยังทำให้การเปิดใจรับฟังของเราเปิดกว้างมากขึ้น แม้จะมีส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็ยอมรับฟังกันได้อย่างไม่จำเป็นต้องตัดสินหาความถูกผิดใดๆ

ในแต่ละช่วงชีวิตเราต่างต้องรับบทเป็นทั้งผู้ระบายความในใจที่ต้องการคนรับฟังอย่างลึกซึ้ง และรับบทเป็นผู้รับฟังความอึดอัดใจของใครสักคนด้วยเช่นกัน ทั้ง 3 ตัวช่วยที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้เราได้ฝึกฝนการฟังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นการฟังอย่างเปิดใจกว้าง โดยไม่ใช้ประสบการณ์ของตัวเองไปตัดสินคนอื่น มาลองฝึกไปพร้อมกันเลย

เมื่อเราสังเกตว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกของเราเริ่มมาสายเป็นประจำ ไม่อยู่ทำโอที ปฏิเสธปาร์ตี้ออฟฟิศ ความคิดแวบแรกที่ผุดขึ้นอาจจะเป็นการมองว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้ ไม่ทุ่มเทให้การทำงาน แปลกแยกจากสังคม จนอาจทำให้รู้สึกไม่ชอบหน้า ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่เขารีบกลับบ้านคืออะไร

ลองสังเกตให้มากขึ้น สอบถามเพื่อนร่วมงานคนอื่นให้ละเอียดขึ้น สำรวจใจตัวเองให้ลึกขึ้นว่าเรารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์นี้ สุดท้ายเราอาจจะพบว่าเขามีภาระทางบ้านที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้นหลังจากที่คุณแม่ของเขาป่วยหนัก ทำให้ต้องรับงานเสริมหลังเลิกงานประจำไปพร้อมกับดูแลแม่อย่างใกล้ชิดนั่นเอง

ในห้องประชุมนำเสนอโครงการใหญ่ประจำปี เรามองข้ามห้องไปพบว่าตัวแทนจากแผนกอื่น ใส่เสื้อเชิ้ตสีพื้น กางเกงยีนส์ธรรมดา มัดผมหลวมๆ ไม่แต่งหน้า ทำให้ดูเหมือนเป็นเด็กจบใหม่ ยังไร้ประสบการณ์ น่าจะพูดตะกุกกะตักจนทำให้ห้องประชุมเสียเวลา หรือทำพรีเซนต์มาไม่น่าดูแน่ๆ แต่ถ้าเราสวมบทบาทเป็นช่างภาพ เราจะไม่ตัดสินไปไกลกว่าภาพที่เห็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งในห้องประชุมผู้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่นำเสนอโครงการใหญ่ เราจะเปิดใจฟังเนื้องานจากการนำเสนอของเธอในห้องประชุมอย่างตั้งใจ แล้วตัดสินกันที่คุณภาพของงานที่เธอนำเสนอจริงๆ มากกว่า

เย็นวันศุกร์สิ้นเดือน ฝนตก รถติดตามเคย คุณเรียกมอเตอร์ไซค์วินกลับบ้านแทนการไปต่อคิวขึ้นรถตู้อย่างทุกวัน โชคดีได้ซ้อนท้ายพี่วินหน้าตาสะอาดสะอ้าน พูดจาสุภาพและนุ่มนวล ขี่มอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปตามช่องระหว่างรถยนต์ที่ติดแหง็ก ระหว่างทางคุณได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่า ทำไมเขาจึงเลือกเส้นทางชีวิตแบบนี้ มีโอกาสดีๆ อีกมากมายที่รอเขาอยู่ ทำไมต้องมาเสี่ยงอันตรายแลกกับรายได้จากการรับส่งผู้โดยสารเที่ยวละไม่กี่สิบบาท ความคิดที่เกิดขึ้นในหัวของคุณไม่ได้ผิด แต่อาจจะเป็นสิ่งที่ปิดกั้นการรับรู้ของเราไปจากรอยยิ้มของพี่วิน ผู้ที่ชีวิตมีความสุขดีจากได้ขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวันอย่างที่เขาฝันมาตั้งแต่เด็ก มีรายได้หลายพันบาทต่อวัน แถมยังแบ่งเวลามาช่วยภรรยาดูแลลูกที่บ้านได้อย่างเต็มที่อีกต่างหาก

เมื่อเราได้ฝึกฝนการลองสวมบทบาทเป็นนักเข้าใจจาก 3 ตัวช่วยที่กล่าวมาแล้ว เราจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเปิดใจกว้าง ไม่ด่วนตัดสินคนอื่นจนมองข้ามความเป็นไปได้อื่นๆ ที่มีอยู่ เมื่อเราได้ฟังกันมากขึ้น เห็นกันมากกว่าที่เคย เมื่อเรามองเห็นความเป็นมนุษย์ของกันและกันมากขึ้น ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขมากขึ้น มาลองฟังมากขึ้น มองเห็นมากขึ้นไปด้วยกัน http://www.happinessisthailand.com/media/

พบความสุขอีกมากมาย ที่คุณสร้างเองได้ที่  http://www.happinessisthailand.com

Content by Suwicha Pitakkanchanakul

Illustration by Kodchakorn Thammachart

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0