แน่นอนว่าเดินทางไป จ.เชียงใหม่ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้วเชื่อว่าหลายคนจะมีลายแทงของอร่อยติดไม้ติดมือไปด้วย วันนี้เราจะพาไปปักหมุดที่ร้านอาหารเล็กๆ ในย่านชานเมืองเชียงใหม่ชื่อว่า "รื่นรมย์เชียงใหม่" โดย "บี้" สกาวรัตน์ ศิริมา เจ้าของร้านเลือกหยิบเอาความเป็นท้องถิ่นมารังสรรค์ ทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ที่สำคัญร้านนี้หากได้เข้าไปสัมผัสแล้วไม่เหมือนร้านขนม ร้านกาแฟ หรือร้านอาหารทั่วไป แต่จะเหมือนว่าเราได้เข้ามานั่งในห้องกินข้าวของครอบครัว เคล้าบรรยากาศของร้านที่อิงแอบกับความเป็นธรรมชาติอันร่มรื่นด้วยต้นไม้และลำเหมือง ซึ่งพาสายน้ำพาดผ่านด้านหลังของร้าน แถมยังมีปลาธรรมชาติหลากหลายสายพันธุ์ว่ายวนให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้มาเยือน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกิน หรือนักจิบกาแฟ เรียกว่านั่งทอดหุ่ยกันยาวๆ ไปเลย
ร่มรื่นด้วยต้นไม้และลำเหมือง
มุมกาแฟ
รื่นรมย์เชียงใหม่ใช้พื้นที่ภายในบ้านมาปรับให้เป็นมุมขนม กาแฟ และอาหาร วัตถุดิบล้วนคัดสรรจากแต่ละชุมชนของพื้นที่ในภาคเหนือ โดยอาหารแต่ละจานจะมีเรื่องเล่าที่มาที่ไปอย่างน่าสนใจ บวกด้วยสนนราคาตั้งแต่หลักสิบไต่ระดับไปจนสุดเพดานที่ไม่เกินหลักร้อย จึงกลายเป็นเสน่ห์มัดใจให้ใครต่อใครได้แวะมาฝากท้องและลองลิ้มแต่ละจานสักครั้งแล้วเป็นต้องแวะกลับมาเยือนอีกครั้งและอีกครั้งเสมอ เริ่มจากรายการขนมหวาน ไม่เพียงขนมไทย อย่าง ขนมชั้น ลูกชุบ สังขยาฟักทอง ขนมเทียน ขนมหม้อแกง และยังมีขนมหม้อ อย่าง กล้วยบวชชี, เต้าส่วน, ข้าวเหนียวเปียก และ ฟักทองแกงบวด ส่วนเบเกอรี่มีซิกเนเจอร์อย่าง ชีสลิ้นจี่, ชีสเชอร์รี่, คัสตาร์ดเค้กส้ม และบราวนี่ เป็นสูตรเฉพาะของร้าน และยังมีขนมปังโฮมเมดอบจากเตาร้อนๆ เสิร์ฟทุกวันเสาร์-อาทิตย์
ชีสลิ้นจี่ ซิกเนเจอร์ที่เบเกอรี่เลิฟเวอร์ต้องไม่พลาด
คัสตาร์ดเค้กส้มอีกหนึ่งรายการขายดีของร้าน
ข้าวเหนียวเปียกลำไย
บราวนี่
เค้กนมฮอกไกโดชาเขียว
ขนมเทียนลากสีสัน
พักเรื่องหวานๆ มาว่ากันด้วยเรื่องของคาวกันบ้าง ซึ่งทางร้านจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น มีรายการอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่อันเป็นสูตรดั้งเดิมตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่นของครอบครัว เน้นรสชาติเข้มข้นตามแบบฉบับของคนเหนือ ไฮไลท์ต้องยกให้ ข้าวซอยไก่ นอกจากเส้นข้าวซอยก็จะมีความนุ่มลงตัว ในส่วนของน้ำแกง"บี้" สกาวรัตน์ เล่าว่า กะทิที่ใช้นั้นแม่ครัวออกแรงคั้นกันสดๆ เช่นเดียวกับน้ำพริกก็โขลกกันแบบครกต่อครกอีกด้วย เพื่อความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้ลิ้มรสความอร่อยและความสดใหม่ไร้สารกันบูด แค่ตักลงไปในน้ำแกงข้าวซอยจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมยวนใจ ไม่นับตอนใส่ปากเคี้ยวจะละมุนขนาดไหน อีกจานที่ไม่อยากให้พลาด ขนมจีนน้ำเงี้ยว ซึ่งมีความเข้มข้นของเครื่องเคียงมาคลุกเคล้ากัน เสิร์ฟคู่กับกระดูกอ่อน หรือบางครั้งมีจานพิเศษเพิ่มเติมมาอีกมากมาย อาทิ แกงฮังเล, กะเพราถาด, ขนมจีนแกงเขียวหวาน, ข้าวแกงเผ็ด และข้าวมันไก่ สนนราคาทุกเมนู 40 บาทขาดตัว!!!
ข้าวซอยละมุนลิ้นตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย
ขนมจีนน้ำเงี้ยวเข้มข้นเต็มคำเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง
อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่า "รื่นรมย์เชียงใหม่" มีมุมกาแฟให้บริการ และแน่นอนว่าด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นคอฟฟี่เลิฟเวอร์ตัวยง จึงให้ความสำคัญกับการคัดสรร "เมล็ดกาแฟ" อย่างมาก ด้วยประสบการณ์ความชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นการส่วนตัว และด้วยการเป็นนักเดินทางทำให้ได้ลิ้มลองและสัมผัสรสชาติกาแฟจากหลายแหล่งปลูก จึงอยากให้ "มิ่งมิตร" ได้มีประสบการณ์ดื่มด่ำกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟสายพันธุ์นั้นๆ
*กาแฟดริปสำหรับนักจิบที่ไม่นิยมความเร่งรีบ *
กาแฟน้ำผึ้งมะนาว
โดยมีมุมให้คอกาแฟสไตล์ "โมก้าพอท" และมีมุม "กาแฟดริป" ให้รสชาติแตกต่างไปจากกาแฟที่สกัดจากเครื่องชงใช้แรงดันสูง ทำให้มีรสชาติค่อนข้างจะติดขมและฝาดต่างจากกาแฟดริปให้รสชาติที่นุ่มนวล และมีกลิ่นผลไม้เด่นชัดมากกว่า เหมาะสำหรับคอกาแฟผู้ไม่นิยมความเร่งรีบและมีเวลาดื่มด่ำกับกาแฟถ้วยโปรด โดยซิกเนเจอร์ของร้านต้องไม่พลาด กาแฟรื่นรมย์เชียงใหม่ กาแฟน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังมีกาแฟสกัดเย็นอย่าง กาแฟส้ม กาแฟมะนาว กาแฟลิ้นจี่ กาแฟเสาวรส กาแฟน้ำผึ้งมะนาว ชาเย็น และชาเขียว ใช้นมสดๆ เป็นส่วนผสมทำให้อร่อยและกลมกล่อมยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ไปเยือนเชียงใหม่แล้วอยากจะแวะไปปักหมุดความรื่นรมย์ผสมกับความอร่อยแนะนำให้เข้าไปกดไลค์เพจทางเฟซบุ๊ก "รื่นรมย์เชียงใหม่" จะมีแผนที่นำทางเข้าไปที่ร้าน หรือจะเริ่มต้นที่โรงพยาบาลนครพิงค์ไปยูเทิร์นบนอุโมงค์กลับมาผ่านโชว์รูมรถยนต์ฮอนด้า พอเจอเซเว่น อีเลฟเว่น ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยหมู่บ้านพระเจ้านั่งโก๋น ตรงไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาไปอีก 200 เมตร จะเห็นรั้วสีเขียวของร้านรื่นรมย์เชียงใหม่ หรือสามารถสอบถามเส้นทางได้ที่หมายเลข 08-9669-3831 ,0597563738 , 052-076007 ร้านเปิดเวลา 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
