โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

รัศมีแข เผย น้องปกป้อง ปลอดภัยหลังตกเตียง แจงปรี๊ดแตกโดนบูลลี่ที่สนามบิน

daradaily

อัพเดต 18 ก.ย 2562 เวลา 15.47 น. • เผยแพร่ 18 ก.ย 2562 เวลา 16.00 น.

"รัศมีแข" เผย "น้องปกป้อง" ปลอดภัยหลังตกเตียง แจงปรี๊ดแตกโดนบูลลี่ที่สนามบิน

        ถือได้ว่าเป็นนักแสดงอารมณ์ดีที่มีเอกลักษณ์อีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ "รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น" ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็โดนฝรั่งบูลลี่ที่สนามบินไป แล้วไหนจะเรื่องที่หลานรัก "น้องปกป้อง" ลูกชายของ "ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์" ตกเตียงอีก เล่นซะเจ้าตัวอดห่วงไม่ได้ งานนี้มีโอกาสเจอ "รัศมีแข" เลยให้พูดถึงเรื่องนี้

อ่านข่าวต่อ:

แรงๆ “รัศมีแข” ตอบแซ่บ หลังถูกชาวเน็ตเวทนา

         เรื่อง “น้องปกป้อง” ตกเตียง ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว พาน้องไปหาหมอ ตรวจสุขภาพ ก็ดีหมดทุกอย่าง ปกติดี คือมันเป็นเรื่องปกติเพราะว่าอยู่ในช่วงที่เขาตื่นมาแล้วเขาเงียบ แล้วเหตุที่เกิดขึ้นนี้มันก็เกิดขึ้นจากความไม่ได้ตั้งใจ แต่ “พี่ต้นหอม” เขาก็โทษตัวเองมากหลังจากที่ “น้องปกป้อง” ตกเตียง เราเองก็รีบโทรไปหาเขา อีกอย่าง ตอนนั้นเราทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วย แต่เราก็คอยติดต่อ อัพเดทอาการของน้องตลอด ทางด้าน “พี่หอม” เองก็อาจจะต้องเร่งทำบ้านให้เสร็จ เพราะว่าตอนนี้อยู่คอนโดฯ พื้นที่ก็ค่อนข้างจะแคบ แต่เรื่องน้องตกเตียงเอาจริงๆ ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่อยากให้ตกบ่อย ซึ่งเตียงที่เขานอนก็ค่อนข้างที่จะสูง และวันนั้นหลังจากที่เราถ่ายละครเสร็จ กลับมาเราก็รื้อเตียงทิ้งเลย แล้วตอนนี้ก็ใส่คอก

         ถามเรื่องพัฒนาการของ “น้องปกป้อง” ที่ “พี่ต้นหอม” ค่อนข้างห่วง เพราะเวลาใครไปหาก็จะพูดภาษาที่ต่างกันออกไป ก็กลัวว่าน้องจะพูดได้ช้า ตัวเราเองก็เลี้ยงหลานมาประมาณ 8 คนได้ แล้วก็พูด 2 ภาษากับหลานมาตลอด เราว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเราอยากจะฝึกภาษาให้หลานด้วย แต่อย่างที่บอก เวลาเลี้ยง “ปกป้อง” เราก็จะมีการพูดคุยกันเพื่อให้ “พี่ต้นหอม” สบายใจ ตัวเองก็คงจะพูดภาษาสวีดิชต่อไป ตอนนี้มันอาจจะไม่จำเป็น แต่เราก็อยากให้เขาเรียนรู้ไปก่อน ก็จะพูดกับเขาด้วยคำง่ายๆ เช่น คำว่า กิน นอน มานี่ อย่างล่าสุดสามีเราพูดภาษาสวีดิชใส่เขาก็หันมามอง แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าหลานรู้เรื่อง

          ส่วนเรื่องที่มีการบูลลี่เราเกิดขึ้นที่สนามบิน เราก็ไม่รู้ว่าฝรั่งไปโดนตัวไหน สถานการณ์ตอนนั้นมันเหมือนเราอยู่ในลูกโป่ง แล้วมันไม่มีทางออก พอเราพูดภาษาไทยเขาก็จะหันมามองหน้าเรา แล้วก็หันไปมองกัน จากนั้นก็หัวเราะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงตกใจ เพราะเราเหมือนชาวต่างชาติ แต่มันเป็นแบบนี้มาตลอดทาง จนเราหมดความอดทน ก็เลยให้กล้วยคำใหญ่ๆ ไปก่อนเลยคำแรก เขาก็รู้ว่าเราไม่พอใจ แต่เขาพูดว่าเขามองเราเพราะเราเป็นซูเปอร์สตาร์ เราก็บอกเขาไปว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่คุณต้องให้เกียรติฉัน จริงๆ ตอนนั้นก็เหมือนจะตีกันบนรถแล้ว เพราะว่าเราเองก็เตรียมหาเบอร์ของตำรวจท่องเที่ยวไว้แล้วด้วย อีกอย่าง ตอนที่เราโพสต์ไปคือเราอยากโพสต์ให้เข้าใจกัน เพราะบนรถนั้นก็มีคนไทยด้วย ให้พวกเขาเข้าใจว่าที่เราตะโกนมันมีเหตุและมีผล จากนั้นไม่นานก็มีน้องเข้ามาเมนต์ด้วยว่าเห็นเหตุการณ์เหมือนกัน

         จากนั้นกลุ่มที่ว่าพักหลังๆ เขาก็เหมือนจะเริ่มหาเรื่องเราแล้ว แต่เราก็พยายามไม่สนใจ ไม่แลกดีกว่า ตอนนั้นก็ข่มอารมณ์ตัวเองไว้เยอะมาก เพราะถ้าทำภาพที่มันออกไปเห็นว่าเรามีเรื่องชกต่อยกับฝรั่งมันก็จะดูไม่ดีอีก แต่เราก็ยอมรับว่าความอดทนตรงนั้นมันไม่ไหวแล้ว และอันนี้เป็นการบูลลี่ที่หนักที่สุดแล้ว เพราะเราไม่สามารถเดินหนีไปไหนได้ด้วย ถ้าเกิดตรงนั้นเป็นที่แอฟริกาก็มีการกระโดดกัดคอกันไปแล้ว ขำๆ

         หลังจากนี้ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกก็คงจะใส่หูฟังหรือไม่ก็สวดมนต์ แล้วก็ไม่สนใจดีกว่า อย่างล่าสุดที่มีคนมาคอมเมนต์ว่าเวทนา แล้วเราก็ไปเมนต์ตอบเขาว่า ไม่เป็นไรฉันมีความสุขดี คอมเมนต์เดียวมันทำอะไรเราไม่ได้ เราก็เลี้ยงหลาน แล้วตอนนี้สามีเราก็รักก็ยิ่งขึ้นอีกด้วย ขำๆ

          จริงๆ แล้วการบูลลี่คนอื่นตัวเราก็เป็น แต่ต้องดูเจตนาว่าทำเพื่ออะไร แต่ถ้าเกิดว่าเราล้อเขาแล้วเขาเจ็บมันก็ไม่เป็นการไม่ดี ถ้าเกิดว่ามีการตอบโต้มันก็อาจจะทำให้เกิดการใช้กำลังขึ้นได้ จริงๆ ถ้าอดไม่ไหวอยู่ในเส้นเลือดมาก อดไม่ไหวที่จะต้องพูดก็ให้กระซิบบอกเพื่อนเบาๆ จะดีกว่า หรือไม่ก็พิมพ์กันใน LINE ไปเลย และเหตุการณ์หลังจากวันนั้นลงรถมาก็ยังเจอกันอีกหน้า terminal แล้วเราก็หันไปมองหน้าเขาก็ยังไม่หยุด สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจขึ้นรถกลับบ้านไปเลยดีกว่า แต่ว่าตอนนั้นเขาพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนซะมากกว่า

          ถามว่าถ้าวันนั้นเราไม่เป็นดาราก็คงเอามีดแทงสิรออะไร แต่เอาจริงๆ ก็อาจจะมีการชกต่อยเกิดขึ้นได้ แต่มองแล้วการที่เราทำงานอยู่ในวงการแบบนี้แล้ว เราก็เลยตัดสินใจว่าไม่แลกดีกว่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0