เป็นช่วงเฝ้าระวังกันอย่างเข้มงวด สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่ล่าสุดได้มีการแพร่กระจายไปหลายแห่งในโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เนปาล มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย รวมไปถึงประเทศไทยของเราด้วย โดยตอนนี้เชื้อไวรัสโคโรนาได้มีผู้ติดเชื้อมากมายทั่วโลก รวมไปถึงยังมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้เอง #ลัดเลาะรอบโลก จึงขอพาทุกคนไปดูมาตรการจากประเทศต่าง ๆ ว่าเขารับมือกับไวรัสตัวนี้กันอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นที่ “สหรัฐอเมริกา” ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่มาก โดยมาตรการเบื้องต้นก็คือเริ่มต้นที่สนามบิน ซึ่งเป็นสถานที่จะสามารถกรองผู้ติดเชื้อในขั้นแรก โดยสนามบินจะมีการทำป้ายประกาศ หรือป้ายเตือนให้ผู้โดยสารที่มาจากอู่ฮั่นได้รับรู้ถึงมาตรการการกรอง โดยป้ายจะมีการทำทั้งภาษาจีน และภาษาอังกฤษ และมีเพียง 5 สนามบินจากทั่วประเทศเท่านั้นที่จะรองรับเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารจากอู่ฮั่น ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือเปลี่ยนเครื่อง ก็จะต้องลงที่สนามบิน 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบิน John F. Kennedy ใน New York สนามบิน Los Angeles สนามบิน San Francisco สนามบิน Hartsfield-Jackson Atlanta และสนามบิน Chicago O'Hare เท่านั้น เพื่อคัดกรองไวรัสในเบื้องต้น อีกทั้งยังยังมีการแนะนำไม่ให้เดินทางไปยังอู่ฮั่นถ้าไม่จำเป็นอีกด้วย
ถือว่าเป็นประเทศในยุโรปประเทศแรกที่มีการยืนยันว่ามีผู้ติดไวรัส สำหรับ“ฝรั่งเศส” โดยหลังจากยืนยันก็ได้เริ่มเข้มงวด เริ่มจากที่สนามบิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีแม้กระทั่งการถามว่าผู้โดยสารที่มาลงที่สนามบินนั้นมาจากที่ใด จึงเข้มงวดกับเรื่องนี้มากขึ้น รวมไปถึงมีการเสนอจากผู้เชี่ยวชาญให้นำกล้องที่สามารถตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อที่จะคัดกรองผู้ป่วยในเบื้องต้น รวมไปถึงเตรียมความพร้อมให้กับโรงพยาบาลเพื่อรับมือกับไวรัส อีกทั้งยังใช้มาตรการกักตัวผู้ป่วย งดเยี่ยม งดติดต่อโดยไม่จำเป็น เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส และสำหรับผู้ที่คาดว่าตัวเองจะมีเชื้อ ก็ไม่ให้ไปโรงพยาบาลในทันที แต่ให้แจ้งหน่วยอนามัยฉุกเฉิน โดยพวกเขาจะเดินทางไปหา และนำตัวอย่างออกมาตรวจ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย และสุดท้ายคือการยกเลิกการเดินขบวนเนื่องในวันตรุษจีนในฝรั่งเศสอีกด้วย
อีกหนึ่งประเทศที่มีการรายงานการติดเชื้อก็คือ “ออสเตรเลีย” ซึ่งการรับมือกับไวรัสโคโรนาของออสเตรเลียก็คือการเพิ่มการเข้มงวดที่สนามบิน ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นทุกคนจะต้องพบกับเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะอยู่ที่สนามบินอาทิตย์ละสามครั้งเพื่อพบกับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นเพื่อคัดกรองอาการ และหากพบว่ามีความเสี่ยงก็จะส่งไปตรวจทันที รวมไปถึงยังมีการอนุมัติให้สามารถกักผู้ป่วย / ผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยจากไวรัสชนิดนี้ได้อีกด้วย รวมไปถึงยังมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับอาการทั้งในภาษาอังกฤษ และภาษาจีนเพื่อให้ผู้คนสังเกตอาการของตัวเอง
ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง“เกาหลีใต้” ก็พบผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกัน โดยหลังจากที่มีการยืนยันการพบผู้ป่วยก็มีการเข้มงวดในการตรวจสอบผู้คนที่เดินทางมาลงที่สนามบินในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศจีน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องกรอกเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองก่อนที่จะเดินทางมาถึง และสำหรับคนที่มาจากอู่ฮั่นที่มีไข้ หรือมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ก็จะถูกกักกันตัวไว้ทันที รวมไปถึงจะถูกให้อยู่ลำพังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และตอนนี้มีการลงชื่อของคนเกาหลีใต้จำนวนเกือบห้าแสนคนเพื่อที่จะเรียกร้องให้เกิดการแบนคนจีนให้เข้ามาประเทศเกาหลีใต้
อีกหนึ่งประเทศในเอเชียก็คือ “ญี่ปุ่น” ที่หลังจากการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อหลังจากเดินทางไปอู่ฮั่น ก็ได้มีการตื่นตัวของรัฐบาล โดยการอนุมัติงบประมาณอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นงบในการเยียวยาสถานการณ์นี้ เหมือนตอนซาร์ และเมอรส์ มีการไปรับพลเมืองญี่ปุ่นที่อยู่ในจีนท่ามกลางการแพร่กระจายของเชื้อ โดยจะบินตรงจากนาริตะ ไปยังอู่ฮั่นเพื่อรับคนญี่ปุ่นกลับมายังประเทศ โดยจะมีเที่ยวบินบ่อยสุดเท่าที่มีการเจรจาต่อรองกับจีน
อ้างอิง
