โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รัฐบาลขีดเส้นซีพี 15 ตุลาคมนี้ ต้องลงนามสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เบี้ยวโดนขึ้นบัญชีดำแน่

THE STANDARD

อัพเดต 23 ก.ย 2562 เวลา 13.19 น. • เผยแพร่ 23 ก.ย 2562 เวลา 13.19 น. • thestandard.co
รัฐบาลขีดเส้นซีพี 15 ตุลาคมนี้ ต้องลงนามสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เบี้ยวโดนขึ้นบัญชีดำแน่
รัฐบาลขีดเส้นซีพี 15 ตุลาคมนี้ ต้องลงนามสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เบี้ยวโดนขึ้นบัญชีดำแน่

วันนี้ (23 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการประชุมร่วมกันระหว่าง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณากรอบการหาข้อสรุปในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตรกลุ่ม CPH เป็นผู้ชนะการประมูล แต่ยังไม่ยอมลงนามรับการก่อสร้าง โดยให้เหตุผลเรื่องการส่งพื้นที่ไม่ครบ

 

อนุทินเปิดเผยหลังการประชุมว่า โครงการ EEC เป็นโครงการสำคัญระดับชาติ และโครงการนี้จะเดินหน้าไปได้เมื่อระบบการเชื่อมต่อ 3 สนามบินเสร็จเรียบร้อย ความสำเร็จของการคมนาคมข้างต้นจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน นี่คือความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ตนมาจัดการเรื่องนี้ และต้องหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด นำมาซึ่งการประชุมในวันนี้  

 

ข้อสรุปคือ เรายืนยันตาม RSP หรือ TOR ไม่มีการผิดไปจากนี้เด็ดขาด ทำสัญญาอะไรกันไว้ก็ต้องเดินตาม หากเปลี่ยนแปลงจะเกิดความเสียหายและความน่าเชื่อถือของรัฐอย่างคาดไม่ถึง

 

ทั้งนี้จะจัดให้มีการประชุมวันที่ 27 กันยายน และจะให้ผู้ชนะการประกวดราคา หรือ กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตรกลุ่ม CPH มาลงนามสัญญาการก่อสร้างในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ขอย้ำว่าภาครัฐให้เวลาในการเจรจามาพอสมควรแล้ว จึงไม่มีเรื่องต้องหารือเพิ่มเติม วันที่ 15 ตุลาคม ต้องเซ็นสัญญากัน เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ รอกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน การดำเนินโครงการจะครบกำหนดเวลาที่ระบุในเงื่อนไขการประกวดราคา เท่ากับภาครัฐต้องรับผิดชอบ ซึ่งเรามีมาตรการคือการขึ้นบัญชีดำฝ่ายเอกชน กลายเป็นผู้ละทิ้งงาน จะมาร่วมงานกับรัฐไม่ได้อีกแล้ว รัฐจำเป็นต้องทำ เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย ม.157 นอกจากนั้นกรณีภาคเอกชนรายที่ 2 มาดำเนินโครงการต่อในอนาคต หากพบว่ามูลค่างานของเอกชนรายที่ 2 สูงกว่ามูลค่างานเอกชนรายแรก เอกชนที่ทิ้งงานต้องรับผิดชอบส่วนต่างของมูลค่างานที่สูงขึ้น 

 

อนุทินกล่าวด้วยว่า ณ เมื่อถึงจุดนั้น ภาครัฐต้องทำเพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศ ผู้ชนะการประกวดราคา ถ้ามีปัญหาขัดข้องขอให้มาหารือกัน 

 

ส่วนที่บอกว่าต้องส่งพื้นที่ให้เสร็จก่อน ต้องบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันต้องทำไปส่งมอบไปควบคู่กัน ทั้งนี้ขอความกรุณาผู้ชนะการประมูลอย่าได้กังวลว่าถ้าส่งมอบพื้นที่ล่าช้าแล้วจะเกิดความเสียหายจนถึงขั้นถูกปรับ เพราะหากเป็นความผิดของรัฐ รัฐก็พร้อมดูแล

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0