รักที่ไม่มีเงื่อนไขในโมเมนต์ความเป็นแม่ของกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ชี

ตั้งแต่เด็กหญิงเป่าเปา พอลลีนา ชี ลืมตาดูโลก ชีวิตของผู้หญิงเก่งและคล่องแคล่วอย่างกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ชี ภรรยาคนสวยของนักร้องมากความสามารถบี้-ธรรศภาคย์ ชี  ก็ช้าลงสเต็ปหนึ่ง นั่นเพราะเธอมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแล ดังนั้นอะไรที่ดีที่สุดสำหรับนางฟ้าตัวน้อย เธอและสามีก็พร้อมทำเสมอ ในขณะเดียวกันสาวกุ๊บกิ๊บก็ได้เรียนรู้ว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและการเสียสละอย่างถึงที่สุดนั้นเป็นอย่างไร ไม่เพียงเท่านั้นเป่าเปายังดึงเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในตัวเธอออกมาเพื่อเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ให้เติบโตอย่างแข็งแรง เข้าใจสิ่งรอบตัว และดำเนินชีวิตให้มีความสุขได้ในทุกวันอีกด้วย  OK! และ Tory Burch จึงไม่พลาดที่จะนำเรื่องราวราวความรักที่แสนสวยงามนี้ผ่านบทสัมภาษณ์ของคุณแม่ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ และพลังงานบวกมาฝากกันค่ะ

กุ๊บกิ๊บกับบี้มีวิธีการเลี้ยงดูน้องเป่าเปาอย่างไรบ้าง

เราเลี้ยงลูกแบบผสมผสานระหว่างฝรั่งกับไทย คือไม่ปิดกั้น เปิดรับสิ่งอะไรใหม่ๆ แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญเรื่องกาลเทศะว่าอะไรควร ไม่ควร ความตั้งใจของเราคืออยากให้เขาได้รับความรักและความอบอุ่นมากที่สุด แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าโลกภายนอกมีอะไรมากกว่านั้น เพราะหลายอย่างที่ต้องเจอไม่ได้สวยงาม แต่เขาจะมีภูมิต้านทานที่ดีด้วยความรักจากพ่อแม่ เราอยากเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน แต่ความสุขของเขาจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเสียใจ การที่เขาจะมีชีวิตอย่างนี้ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการปลูกฝังและพื้นฐานครอบครัวที่ดี ทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของเราค่ะ

การที่เป่าเปาเป็นเด็กที่มีคนรู้จักมาก บี้กับกุ๊บกิ๊บทำอย่างไรไม่ให้น้องเหลิงไปกับสิ่งเหล่านี้

กิ๊บบอกลูกเสมอว่าพ่อกับแม่เป็นนักแสดง มีคนรู้จักเราเยอะ และเขาก็รู้จักหนูมาตั้งแต่เด็กด้วย เลยทำให้เราได้รับความสนใจจากคนอื่น แต่ขณะเดียวกันเป่าเปาก็ต้องเป็นเด็กดี น่ารัก มีสัมมาคารวะ พูดเพราะ เขาจะได้รักและเอ็นดู ถ้าเมื่อไรเขางอแง กิ๊บจะไม่ปล่อยผ่านและกลับมาถามเขาว่าลูกเป็นอะไร หนูง่วง เบื่อ หรือเหนื่อยเหรอ ถ้าหนูไม่อยากถ่ายรูปกับน้องๆ ที่เข้ามาขอถ่ายด้วย หนูไม่ต้องยิ้มก็ได้ หรือไม่ก็ “สวัสดีค่ะ” ก็พอ อธิบายให้เขาเข้าใจถึงเหตุผล เป่าเปาเข้าใจหรือเปล่า เราไม่รู้หรอก แต่ก็จะคอยสอนและย้ำกับลูกตลอด

กุ๊บกิ๊บอยากให้เป่าเปาโตมาเป็นเด็กแบบไหน

เราพยายามให้เขาเป็นตัวเองมากที่สุด กิ๊บกับบี้คุยกันว่าถ้าวันหนึ่งลูกไม่อยากออกสื่อ เรา OK! จะไม่ฝืนใจเลย ก็ต้องบอกลูกให้เข้าใจว่าชีวิตของครอบครัวเราเป็นแบบนี้นะ แต่ถ้าเขาอยากใช้ชีวิตแบบไหน  เราจะไม่เข้าไปขีดเส้นชีวิตลูก ไม่ได้อยากให้ลูกเข้าวงการบันเทิง แต่เขาคือส่วนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิงกับเรา ก็ไม่คาดหวังอะไรกับเขา เพราะไม่อยากไปกดดันอะไร แต่เรื่องหนึ่งที่พ่อกับแม่ให้เขาได้คือการศึกษาที่เปิดกว้าง อยากให้เขาหาตัวเองให้เจอว่าอยากทำอะไร เรียนแบบไหน แล้วเปาจะรู้เองว่าจะไปต่ออย่างไร พ่อกับแม่มีหน้าที่แค่ตบๆ ให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้น

ตอนนี้น้องมีแววว่าชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษไหม

เปาเป็นเด็กที่ชอบร้องเพลง ชอบเต้น ซึ่งคงเห็นตัวอย่างจากพ่อเขา แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราเห็นคือเปาเป็นเด็กที่ช่างจดจำ ช่างซักถาม ชอบอ่านหนังสือ ชอบให้เราอ่านหนังสือให้ฟัง ชอบเรื่องจักรวาล อวกาศ แมลง เรียนรู้ระบบร่างกายของคน ทำให้คิดว่าเปาน่าจะไปได้หลายทาง ส่วนภาษาตอนนี้พูดได้ 3 ภาษา คือไทย อังกฤษ จีน แต่ภาษาหลักที่สอนคือภาษาไทย ส่วนภาษาอังกฤษคือภาษาที่เขาชอบเลยจะพูดบ่อย ตอนนี้เปาเข้าโรงเรียนแล้วเลยพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น กิ๊บจึงต้องพยายามพูดภาษาไทยกับลูกให้มากขึ้นตามไปด้วย ส่วนบี้ก็พูดภาษาจีนกับลูกด้วยเหมือนกัน เปาก็ไม่ได้สับสนอะไร กิ๊บเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาเขียนไว้ว่าเด็กเล็กสามารถเรียนภาษาได้ถึง 6 ภาษา ซึ่งเราก็สังเกตนะคะ เพราะบางทีเปาฟังภาษาเกาหลี ภาษาเสปน แล้วก็จำมาพูด แต่ถ้าเป็นภาษาจีน เปาฟังออก ตอบได้ ส่วนภาษาอังกฤษสามารถพูดได้เป็นประโยคๆ เลย เรียกว่าเขาเป็นเด็กที่พูดเร็ว ก็เลยส่งเสริมเรื่องภาษากับเขาด้วยเหมือนกัน

วันที่กุ๊บกิ๊บเป็นคุณแม่ เคยคิดถึงคุณแม่เราในโหมดไหนบ้าง

กิ๊บเป็นคนที่เซนสิทีฟกับความรักของแม่อยู่แล้ว เราใส่ใจ ติดแม่ อยู่ใกล้แม่เสมอ แต่ในวันที่เปาปากแตก วันนั้นรู้สึกเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นแม่ทุกคนเลยว่าเวลาที่เห็นลูกเจ็บแล้วใจแม่จะขาดเป็นแบบไหน มันจุกและแน่นไปหมด นี่เขาเจ็บเรายังเจ็บขนาดนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งเขาเป็นอะไรไป ใจพ่อแม่จะสลายขนาดไหน

ความรู้สึกของคำว่า “แม่ “ ของกุ๊บกิ๊บเกิดขึ้นตอนไหน

ตั้งแต่มีเปาเลยค่ะ คือพอมีเขา กิ๊บเป็นคนที่ใจเย็นมาก ทุกอย่างช้าลง 1 สเต็ป เราจะคิดและทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ลูกเป็นคนที่ดึงส่วนที่ดีของเราที่ดีกว่าวันก่อนหน้านี้ออกมา กิ๊บเชื่อว่าเราจะเป็นอย่างไร มันอยู่ที่ตัวเราเอง อยู่ที่ว่าจะเติบโตและงอกงามวันไหนและอย่างไร เราอาจเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ด้วยกาลเวลา ไม่ใช่เพราะว่าเปลี่ยนไป แต่เป็นเพราะว่าเราโตขึ้น อีกทั้งลูกก็ทำให้เราโตขึ้นอย่างรวดเร็ว คำว่าแม่คือการเสียสละมากๆ ค่ะ แม่เป็นคนที่อะไรก็ได้กับลูก เข้าใจเลยกับคำว่าไม่มีข้อแม้กับเขา พอถึงวันที่เราเป็นแม่แล้ว กิ๊บเข้าใจมากๆ เลยว่านอนน้อย เหนื่อย เจ็บป่วยอย่างไร ก็ต้องอดทนกับลูก ให้อภัยเพื่อลูก เป็นอย่างไร

บี้เข้ามาช่วยกุ๊บกิ๊บเลี้ยงดูเป่าเปาอย่างไรบ้าง

ถ้าอยู่เมืองไทยบี้ช่วยกิ๊บเลี้ยงลูกเยอะมาก ตอนไหนที่มีเขาอยู่ กิ๊บชิลล์มาก สิ่งเดียวที่เขาทำแทนไม่ได้คือตอนที่ให้นมลูก เคยมีโมเมนต์หนึ่งที่เราไปดูโรงเรียนให้เปา ในขณะที่แม่คนอื่นพาลูกเข้าห้องน้ำ พ่อก็จะยืนหล่อๆ แต่บ้านเรากลับกันคือแม่ยืนสวย พ่อพาลูกเข้าห้องน้ำ ไปจัดการอะไรต่างๆ เอง เรา ไว้ใจได้ทุกอย่าง บางครั้งบี้ก็เข้มกว่ากุ๊บกิ๊บด้วยซ้ำ อย่างเรื่องอาหารการกิน บี้จะซีเรียสกับเปามากกว่า และเปาติดพ่อมาก เวลาที่บี้ไม่อยู่ จะคอยถามว่าพ่อไปไหน เวลาอยู่ด้วยกันก็จะเล่นกับพ่อ กอดพ่อ แต่เวลานอนก็จะมาหาเรา

มีวิธีบาลานซ์บทบาทต่างๆ ในชีวิตอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ละครเรื่องลิขิตรักข้ามดวงดาวที่แสดงกำลังจะออนแอร์แล้ว ซึ่งกิ๊บรับเล่นเรื่องนี้เรื่องเดียว ละครจะเป็นเรื่องรองลงมาตั้งแต่มีลูก เพราะว่า 3 ปีแรก เป็นช่วงเวลาที่อยากทุ่มเทให้ลูก แต่อาจเห็นหน้ากันบ่อยๆ ทางโซเชียลมีเดีย ข่าว อีเวนต์  เพราะจะได้ให้เวลากับลูกได้เต็มที่ กิ๊บเป็นแม่แทบจะเต็มเวลา งานหลายอย่าง เราทำผ่านโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ กิ๊บอยากเลี้ยงลูกเองและให้เวลากับเขาอย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้บี้บินไปทำงานที่จีนตลอด และถ้าเมื่อไรที่บี้อยู่บ้าน เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่ค่อยแยก มีอยู่เรื่องเดียวที่เราไม่ค่อยได้ไปคือการใช้เวลาด้วยกัน 2 คน แต่หลังจากเปา 3 ขวบก็เริ่มมีเวลานั้นบ้างแล้ว อย่างเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เรากลับดึก เพราะไปเที่ยวด้วยกัน 2 คนค่ะ

ช่วงเวลาไหนที่กุ๊บกิ๊บรู้สึกว่าความเป็นแม่ถูกท้าทายมากที่สุด

ช่วงเวลานี้เลยค่ะ เพราะเปาเริ่มงอแงและปากแข็ง เวลาที่เขาโมโหแล้วบอกให้ขอโทษเลย เปาจะยังไม่ขอโทษ กิ๊บเลยบอกลูกว่าแม่ไม่ได้บังคับนะ แต่ถ้าหนูคิดได้แล้วว่าผิดอะไร อยากขอโทษเมื่อไรก็หันมาขอโทษแม่แล้วกัน ถ้าเป็นเด็กคนอื่นเขาจะหันมาขอโทษเลย แต่เปาจะคิดประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองผิดจริงๆ ถึงจะยอมพูด แล้วเราก็ถามเขากลับด้วยนะคะว่ารู้ไหมมาขอโทษแม่เรื่องอะไร เปาก็จะบอกว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร การเลี้ยงเขาในช่วงนี้จึงเป็นช่วงท้าทายและยากที่สุด เพราะโจทย์คือเราจะปลูกฝังลูกอย่างไรให้เขาไม่ก้าวร้าว ปกตินิสัยเด็กมีมากับตัวอยู่แล้ว แต่เราจะขัดเกลาเขาอย่างไรให้เขาเป็นคนอ่อนโยน เข้มแข็ง มีเหตุผล และเข้าอกเข้าใจผู้อื่น น้อยครั้งมากที่กิ๊บจะโมโหใส่ลูก บางครั้งเราอาจต้องเสียงดังบ้าง เพราะต้องการหยุดเขา เหมือนเล่นเกมนะคะว่าถ้าลูกมาโหมดนี้ แม่จะทำอย่างไรเพื่อจบเกมนี้ แล้วจบแบบได้คะแนนดีด้วย เรียกว่าต้องใช้จิตวิทยากับลูกตลอด

ระหว่างกุ๊บกิ๊บกับบี้ เป่าเปานิสัยเหมือนใครมากกว่ากัน

เขาเหมือนบี้เยอะค่ะ อารมณ์ขึ้นลงเร็ว อารมณ์ร้อน แต่ก็มีจิตใจอ่อนโยนเหมือนพ่อเยอะมาก เรียกว่าเหมือนแม้กระทั่งท่ากิน ท่านั่ง ท่านอน (หัวเราะ) ส่วนนิสัยเรื่องเก็บรายละเอียดและใส่ใจคนรอบข้างจะเหมือนกิ๊บ

โมเมนต์สุดประทับใจครั้งล่าสุดกับน้องเป่าเปาเกิดขึ้นเมื่อไร

เป็นตอนวันเกิดของเขาที่ผ่านมา เปาเอาพวงมาลัยมากราบที่เท้าแล้วบอกว่า “หนูดีใจที่เกิดเป็นลูกพ่อกับแม่นะคะ” ตอนนั้นเราสองคนละลาย กิ๊บนี่ร้องไห้เลย แล้วก็บอกว่าแม่รักหนูมากนะคะ เป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมากค่ะ แล้วก็มีเรื่องล่าสุด ตอนพ่อเขาไม่อยู่ เปาบอกว่าคิดถึงป๊า จะทำอย่างไรดี หนูน้ำตาจะไหลแล้ว คนอื่นเขามีพ่อมากอด แต่หนูไม่มีพ่อมากอด เราก็งงว่าลูกไปเอาคำพูดนี้มาจากไหน เพราะบ้านเราไม่พูดกันอย่างนี้อยู่แล้ว กิ๊บก็อธิบายว่าพ่อไปทำงาน หาเงินมาดูแลเป่าเปา แต่ถ้าเปาคิดถึงพ่อก็บอกหม่าม้านะ เดี๋ยวพาไปหา หรือจะโทรหาปะป๊าไหม กิ๊บรู้สึกประทับใจคำพูดของลูก รู้สึกว่าความรักที่ส่งไปถึงเขามันคงเต็มจริงๆ หรือบางทีที่เปาบอกว่าเนี่ย พอเราได้นอนกัน 3 คน เปาน่ะอบอุ่นที่สุด มาเรามานอนกอดกัน 3 คนพ่อ แม่ ลูก กันนะคะ (หัวเราะ) คำพูดเหล่านี้จากเปาทำให้กิ๊บมีความสุขมาก

ไอเท็มไหนที่คุณแม่คอนเฟิร์มว่าคลาสสิกและใช้กับลูกสาวได้ตลอดกาล

กิ๊บเก็บกระเป๋าและเครื่องประดับให้ลูกค่ะ เปาก็ชอบมาดูด้วย และกิ๊บคิดว่าจะเก็บแหวนเพชรรวมทั้งแหวนแต่งงานไว้ให้เขา เพราะเขาชอบมองเพชรมาตั้งแต่เด็ก บางครั้งก็ถามขึ้นมาว่าหนูขอใส่ได้ไหมคะ

นางแบบ: สุมณทิพย์และพอลลีนา ชี

แต่งหน้า: จีรวิชญ์ เจริญธมะสุข

ทำผม: เอกพล เกียรสืบ

รองเท้า กระเป๋า: Tory Burch

สถานที่จัดจำหน่าย:

-ชั้น M พารากอน ดีพาร์ทเม้นสโตร์ 02-610-7734

-ชั้น 1 เซ็นทรัล ชิดลม 02-655-7916

-ชั้น M ดิ เอ็มควอเทียร์ 02-003-6422

สไตลิสต์: ศุภะกิจ หุนารักษ์

ผู้ช่วยสไตลิสต์: คุณัชญ์ ดาวมณี

ช่างภาพ: ทินกร วงเบญศิลป์

ผู้ช่วยช่างภาพ: ธนพร พิกุล

สัมภาษณ์: กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

สถานที่: Shangri-La Hotel, Bangkok โทร. 0-2236-7777

ติดตาม OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : @okmagazinethailand
Facebook : OK! Magazine Thailand
Twitter : @okthailand