หลังจากฉายมาจนถึง EP ที่ 5 รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ก็ทำให้สาวๆ จำนวนหนึ่งกรีดร้องออกมาเป็นชื่อหมอเป้ง กับหมอฉลาม (อยากเข้าห้องฉุกเฉินเพราะเหล่าคุณหมอทำให้ใจเต้นแรง!)
โอ้ย! บ้าป้ะ! แต่นอกจากความหล่อเหลาและรอยยิ้มทะลุหัวใจของพวกเขาแล้ว มันยังมี hidden message บางอย่างที่อาจจะไม่ได้ถึงกับซ่อนเอาไว้ แต่โดนความหล่อละลายหัวใจบังตาหลายๆ คน
มันคือความจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
อย่างที่หนึ่งคือ ความตาย คนเราตายได้ทุกวินาที ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวัยชรา ตอนแรกที่ทานตะวันเล่าเรื่องของครอบครัวให้ฟังว่าพ่อกับแม่จัดฉากอุบัติเหตุฆ่าตัวตายเพื่อให้ลูกได้รับเงินประกัน นั่นคือการตายอย่างตั้งใจที่สุดของคนสองคน อยู่ดีๆ ทั้งสองคนนี้ก็เดินหน้าเข้าหาความตายอย่างตั้งใจ เหมือนดีดนิ้ว เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็สมใจ
แต่นั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ 'พลังแฟน' ระหว่างหมอเป้งและทานตะวัน ต่อมาในเวลาปัจจุบันทั้งสองค่อยๆ ห่างกันไปเรื่อยๆ กลายเป็นทะเลาะกันระหองระแหงบางครั้งบางคราว วันหนึ่งที่หมอเป้งตัดสินใจบอกลาแฟนสาว แล้วไปทะเลาะกันต่อในรถก็เลยทำให้หมอเป้งขับรถชนกับสองพี่น้องที่อยู่ในรถอีกคัน
น้องสาวอาการสาหัสและไปตายในรถพยาบาล เพราะว่าหมอฉลาม ผู้รับผิดชอบเคสบนรถพยาบาลวินิจฉัยอาการผิด และรักษาผิด …แม้จะอยู่ในมือหมอ แต่เพียงเสี้ยววินาทีเช่นกัน ชีวิตของคนก็จบลงได้
เรายังแอบสงสัยอยู่นะว่า ไท (พี่ชายของเด็กที่ตาย) มีความสำคัญยังไงกับเรื่องนี้
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องราวบนรถพยาบาลไม่ได้เกิดขึ้นแค่ความตาย แต่ยังเปลี่ยนใจของทานตะวันได้เหมือนกัน เพราะเธอรู้สึกถึงความใส่ใจจากหมอฉลาม แบบที่ไม่ได้จากคนรักของเธอมานานแล้ว
อย่างที่บอกว่ามีอีกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ในชีวิตของเราทุกคน มันคืออาการตกหลุมรัก แม้ว่าเราจะยังอยู่ในความสัมพันธ์ที่บอกตัวเองเอาไว้เสมอว่ามันคือรักที่มั่นคงสุดหัวใจ
อยู่ดีๆ พลังแฟนระหว่างทานตะวันและหมอเป้งก็อ่อนลง กลายเป็นหมอฉลามที่ได้รับพลังนั้นเพิ่มขึ้น เขาทะลุไปหาทานตะวันได้เฉย ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยเลยสักนิด ทำให้ความสัมพันธ์ของหมอเป้งและทานตะวันสั่นคลอนอย่างช่วยไม่ได้
ถ้าใครเคยเจอเรื่องแบบนี้มากับตัวแล้วในชีวิต คงถึงกับจิกนิ้วมือลงบนฝ่ามือหรือตบเข่าจบเจ็บ (แต่ก็ไม่เจ็บเท่าที่ใจหรอก) อยู่ดีๆ คนที่ว่ารักกันนักรักกันหนา ก็มาบอกว่า "เฮ้ยเราว่าเราหวั่นไหวกับอีกคนหวะ"
คำถามคือ ได้ยังไง เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทำไมถึงทำงั้น ???
คำตอบคือ ใครจะไปรู้ ไม่ได้ตั้งใจ รู้ตัวอีกทีก็คือรู้สึกไปแล้ว
เอาเป็นว่าทางออกทางแก้เดี๋ยวค่อยมาว่ากันแล้วกันนะ แต่นี่แหละชีวิต จะทำยังไงได้ พอมันเกิดขึ้นแล้วก็ได้แต่รับมือ อย่าไปถามหาเลยว่าทำได้ยังไง ถามตัวเองดีกว่าว่าจะไปต่อยังไง
และคนที่ตายล่าสุดในซีรี่ส์ก็คืออาม่าของเล็ก ที่มาส่งของแล้วระหว่างทางเดินกลับร้านก็ล้มตึง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แล้วก็จบชีวิตลงไปเลยเดี๋ยวนั้น ใครจะรู้นะว่าคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงหรือนาที เขาจะจากเราไปได้ทั้งที่ยังไม่ได้บอกลากันจริงจัง
ในชีวิตเราจะมีการบอกลาเกินขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ไม่จากเป็น ก็จากตาย ไม่มีวันรู้ว่าจะจากกันจริงๆ เมื่อไหร่ ไม่ว่าทางหัวใจหรือทางชีวิตจริง แล้วเมื่อมันเกิดขึ้นคนที่ยังไม่ก้าวต่อไปจะรู้สึกทั้งเสียใจและเสียดาย แก้ไขก็ไม่ได้ป้องกันก็ไม่ได้ อย่างที่ทีมหมอในห้องฉุกเฉินพยายามบอกกันอยู่เสมอว่า "ทุกนาทีมีค่า" ความจริงแล้วมันไม่ใช่แค่ทุกนาทีในห้องฉุกเฉินหรอกที่มีค่า ชีวิตเราทุกคนมีค่าทุกนาที ทั้งนาทีชีวิตและนาทีที่เราไม่คิดว่ามันกำลังผ่านไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ
เพียงเสี้ยววินาที เราอาจจะเสียใครบางคนไป หรือไม่ก็เป็นเราที่ต้องเป็นคนจากไปซะเอง