ก่อนอื่น… ขอเช็กนิดนึงว่าปกติคุณเป็นคนประเภทไหนคะ? ชอบ “เปิด” หรือ “ปิด” ฝาชักโครกก่อนกดน้ำทำความสะอาด…
ข้อมูลจากกรมอนามัยทำให้เราทราบว่า ในบรรดาสารคัดหลั่งในร่างกายของมนุษย์นั้น หากเราติดเชื้อโควิด-19 เชื้อจะไปสะสมในสารคัดหลั่งชนิดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีปริมาณไม่เท่ากัน โดยเชื้อโควิด-19 จะถูกพบสะสมในอุจจาระสูงถึงร้อยละ 70.8 ซึ่งถือว่ามีปริมาณมากเป็นอันดับ 3 รองจากน้ำมูก และน้ำลาย
เมื่อเราใช้ห้องน้ำ การกดชักโครกหลังเสร็จธุระอาจมีโอกาสทำให้ละอองน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคจากอุจจาระฟุ้งกระจายหรือกระเซ็นขึ้นมายังที่รองนั่ง รวมไปถึงพื้นผิวส่วนต่าง ๆ ของสุขภัณฑ์ เช่น ฝาชักโครก รวมถึงพื้นบริเวณรอบ ๆ ชักโครก
เชื้อโรคตัวโหด ภัยที่แฝงอยู่กับชักโครก
ไม่เพียงแค่ไวรัสโควิด-19 เท่านั้น ในอุจจาระยังมีเชื้อโรคปะปนอีกมากมาย ซึ่งเชื้อตัวที่ร้ายแรงอีกตัวก็คือ "คลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล์" (Clostridium Difficile) แบคทีเรียจอมอึด ทนต่อทุกสภาพอากาศ ที่เป็นต้นตอของโรคในระบบทางเดินอาหาร ท้องเสียอย่างหนัก ไปจนถึงลำไส้ใหญ่อักเสบที่อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายตัวซึ่งทำให้ยากต่อการรักษา ทั้งยังติดต่อได้ง่ายผ่านอาหาร ผิวสัมผัส และสิ่งของที่ปนเปื้อน สาเหตุหลักมาจากการล้างมือไม่สะอาด หรือใช้ห้องน้ำที่มีแบคทีเรียปนเปื้อน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในประเทศสหรัฐอเมริกาจัดให้เชื้อ คลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล์ เป็นหนึ่งในเชื้อที่ดื้อยามากที่สุด!
ยังไงละทีนี้ จะ “เปิด” หรือ “ปิด” ฝาชักโครกก่อนกดทำความสะอาดดี?
จากการศึกษาพบว่าการปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ ช่วยลดอัตราการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคได้มากกว่าการเปิดฝาชักโครกไว้ขณะกดน้ำหลังเสร็จธุระ
คำถามท่ีตามมาคือ แล้วอย่างนี้ ละอองน้ำที่อาจมีเชื้อโรคปะปนจะไม่ฟุ้งกระจายขึ้นมาติดอยู่ที่ฝาชักโครกด้านในหรือ?
คำตอบคือ มีโอกาสเป็นเช่นนั้น เราในฐานะผู้ใช้ห้องน้ำคนถัดไปจึงต้องระมัดระวังไม่ให้เนื้อตัวของเราหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไปสัมผัสกับฝาชักโครกด้านใน อย่าเอนหลังพิงไปโดนพื้นผิวสุขภัณฑ์ส่วนนั้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวของห้องน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะห้องน้ำที่เราไม่แน่ใจในเรื่องของความสะอาด เช่น ห้องน้ำสาธารณะ
ดังนั้น เราจึงควรปิดฝาก่อนกดชักโครก และหลังทำธุระเสร็จทุกครั้ง อย่าลืม! ล้างมือด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาทีเพื่อสุขอนามัยห่างไกลเชื้อโรค
--
อ้างอิง
