เชื่อว่าหลายคนที่รักการแต่งหน้า โดยเฉพาะคนไทยถึงแม้ว่าเราจะชอบรองพื้นที่ให้การปกปิด ควบคุมความมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบรองพื้นเนื้อหนักๆ เสมอไป เพราะปัจจุบันส่วนใหญ่รองพื้นที่ให้การปกปิด มักจะมาพร้อมกับเนื้อรองพื้นหนักๆ ที่ทำให้หลังจากทาให้ผิวที่ดูหนาเตอะ ไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย!
จนล่าสุด Burberry แบรนด์แฟชั่น Hi-end ระดับโลกส่งตรงจากอังกฤษ ในไลน์เมคอัพ ที่นอกจากรองพื้น Burberry Fresh Glow ที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว ในปีนี้เขามาพร้อมกับรองพื้นใหม่ Burberry Matte Glow Foundation รองพื้นงานผิวที่ให้สัมผัสแมตต์ แต่ยังคงความโกลวให้ผิว ดูเป็นผิวธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากของเหล่าเมคอัพ Burberry ที่รับรองว่าคนไทยจะเลิฟแน่นอน

ถ้าให้ลองตอบคำถามตัวเองในใจว่า "รองพื้นแบบไหนที่เราต้องการ?" คิดว่าจำนวนไม่น้อยคงจะมีคีย์เวิรด์เหล่านี้เป็นคำตอบอยู่แน่นอน "รองพื้นที่ปกปิด คุมมัน ติดทนนาน แต่อยากได้เนื้อบางเบา ที่เป็นธรรมชาติ และมีเฉดสีให้เลือกเยอะๆ"
หากใครถามตอบเองแล้วได้คำตอบประมาณนี้ บอกเลยว่านี่คือรองพื้นที่น่าจะสามารถตอบโจทย์ของเราได้! เพราะคำตอบมาอยู่ในขวดนี้แล้ว Burberry Matte Glow Foundation ที่เขามาพร้อมคุณสมบัติจัดเต็ม ที่แม้ว่าจะเป็นรองพื้นที่เกิดในยุโรป แต่ชาวเอเชียสามารถใช้ได้แน่นอน

เริ่มต้นจากเนื้อสัมผัสของ Burberry Matte Glow Foundation เขามาพร้อมกับเนื้อรองพื้นที่แมตต์บางเบา ให้ผิวที่ดูปกปิดอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับความโกลว ที่ให้ผิวดูเนียนละมุน และด้วยนวัตกรรม Second – Skin Formula ที่ให้ฟินิชที่เหมือนกับผิวที่สองของเรา เพราะรองพื้นจะให้เนื้อที่กลมกลืนไปกับผิว
สำหรับในวันที่ต้องการความปกปิดที่ดูมากขึ้น ก็สามารถบิ๊วด์เนื้อรองพื้นเพิ่มได้ โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกว่าหนาหนัก เหมือนกับรองพื้นบางตัวที่ทาเพิ่มแล้วจะรู้สึกไม่สบายผิว
เพราะคอนเซปต์ของแบรนด์คือเน้นเรื่องการให้เราดึงความโดดเด่นของตัวเองออกมา ดังนั้นการโบกผิวแน่นๆ ที่ดูหนา หนัก ไม่สบายผิว จะไม่ใช่งานผิวสไตล์ Burberry แน่นอน

หรือใครที่กำลังคิดว่าเมื่อเป็นรองพื้นที่ดูบางเบาเป็นธรรมชาติแบบนี้จะให้การติดทนที่มากพอมั้ย? เพราะทั้งอากาศร้อนมากกกกกแบบเมืองไทย ทั้งแดด ทั้งเหงื่อ จะติดทนแค่ไหนกัน?
โดยรองพื้นตัวนี้เขาถูกพัฒนามาแล้ว ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Burberry กับ Life Proof Technology ที่จะช่วยให้รองพื้นยึดเกาะกับผิวได้ยาวนานตลอดวัน แม้ในวันที่เราเจอกับความร้อน ความชื้น หรือแม้แต่มลภาวะฝุ่นควันต่างๆ อีกด้วย
และช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานตลอดวัน ด้วยอณูแป้งทรงกลม ก็จะช่วยปรับผิวของเราให้ดูเรียบเนียนกลมกลืนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมให้กับรองพื้นนี้เลยคือเขามีมากกว่า 30 เฉดสี!! ที่เรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมหลากสีผิว ตั้งแต่โทนผิวสีอ่อนไปจนผิวสีเข้ม ทั้งอันเดอร์โทนชมพู โทนเหลือง และโทนกลาง เป็นความหลากหลายของสีผิวที่ถูกพัฒนาเฉดสีมาเป็นอย่างดี
ขอบอกเพิ่มเติมว่าการตั้งชื่อเฉดสีของเขาไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ แต่มีที่มาจากการตั้งชื่อด้วย Professional Makeup Naming System ระบบในการตั้งชื่อเฉดสีรองพื้นที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ โดยแต่ละสีของรองพื้นจะถูกไล่เฉดสีตั้งแต่เฉด Fair ไปจนถึง Dark เพื่อความง่าย และแม่นยำในการเลือกสีรองพื้นที่เหมาะกับโทนผิวที่สุด

ดูเฉดสีรองพื้น Matte Glow Foundation ให้เข้ากับผิวเรา

สำหรับการเลือกรองพื้นจะประกอบด้วย 2 ลำดับ คือความเข้มของโทนผิว และอันเดอร์โทนของผิวเรา

• เลือกเฉดความเข้ม-อ่อนของโทนผิว 

  รองพื้น Matte Glow Foundation จะมีความเข้มสีที่ไล่ตั้งแต่
  Fair > Light > Medium > Deep > Dark 
  โดยจะมีตัวเลขของเฉดสี ตั้งแต่ 10 – 140 เป็นตัวกำกับ
  

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมเราเจอบางคนที่แต่งหน้าแล้วเรารู้สึกว่าทำไมรองพื้นดูไม่เข้ากับสีผิวจังเลย? นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้เลือกอันเดอร์โทนผิวที่เข้ากับตัวเอง ทำให้ได้ฟินิชผิวที่ดูโดดจากผิวปกติ

• อันเดอร์โทนผิว

  อันเดอร์โทนคือการวัดสีสกินโทนภายใต้ผิวของเรา หรือจริงๆ คือเฉดสีที่แท้จริงของผิวที่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกับความเข้มอ่อนของผิว
  อันเดอร์โทนผิวของคนเราจะมีตั้งแต่โทนเหลือง โทนชมพู และโทนกลาง ในคนไทยส่วนมากมักจะมีอันเดอร์โทนเหลือง ซึ่งขั้นเริ่มต้นเราอาจจะวัดได้จากเส้นเลือดของเรา

• ผิวอันเดอร์โทนชมพู 
  คือผิวที่มีโทนสีชมพูอ่อน ไวต่อแสงแดด และเกิดรอยแดงได้ง่ายหลังจากสัมผัสกับแสงแดด

• ผิวอันเดอร์โทนกลาง 
  ผิวโทนสีกลาง ระหว่างโทนชมพู และโทนเหลือง

• ผิวอันเดอร์โทนเหลือง 
  ผิวที่มีโทนสีทองหรือสีมะกอก ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้ง่ายหลังจากสัมผัสกับแสงแดด

อ่านต่อ กดเลย
รีวิวจากคอมมูนิตี้จีบัน 
สอบถามข้อสงสัย คุย LINE@ กับ Jeban.com