วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 หลังจากสื่อโซเชียล ออกมาพูดถึงคดีอุบัติเหตุบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เมื่อ 9 ปีก่อน ที่ปัจจุบัน ญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุดังกล่าวยังไม่มีใครได้รับเงินเยียวยาตามคำพิพากษาศาลแพ่ง
ล่าสุด นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนทราบว่า คดีนี้ มีการฟ้องร้องในชั้นศาลจบกระบวนการแล้ว โดยเฉพาะคดีแพ่ง ที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษาสั่งให้ จำเลย ชดเงินให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ประมาณ 26.8 ล้านบาท ซึ่งศาลได้พิพากษาไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา
รองปลัดกระทวงยุติธรรม กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้ว จำเลย ต้องชดใช้เงินภายใน 30 วัน แต่หากเลยเวลาแล้วไม่ชดใช้เงิน ให้ ผู้เสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บในคดี สามารถฟ้องขอให้ศาลขอหมายบังคับคดี เพื่อจะได้มีอำนาจเข้าไปสืบทรัพย์ จำเลย จากนั้น ศาล จึงจะนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นต่อกรมบังคับคดี เพื่ออายัดทรัพย์สินต่างๆ ที่พบ เข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ หรือนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาด
ทั้งนี้ กระบวนการต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ทนายความ เข้าไปช่วยดำเนินการ หากผู้เสียหาย หรือผู้บาดเจ็บในคดี ไม่สะดวก หรือมีปัญหาการจ้างทนายความ ก็สามารถร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการให้ได้ ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเพื่อหวังไม่ให้ถูกยึดทรัพย์ไปนั้น ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ และการชดใช้เงินให้กับโจทก์ ในคดีนี้ ศาลได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้ต้องหา ชดใช้ค่าเสียหายนอกจากคนที่นำรถไปขับแล้ว / เจ้าของรถ / พ่อ แม่ ของผู้ต้องหา ต้องร่วมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ตามที่ศาลแพ่งระบุไว้
“คดีนี้ มีกฎหมายระบุชัดว่า มีผลบังคับคดีเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่คำพิพากษาศาลแพ่งถึงที่สุด คือ เมื่ประมาณ 2 เดือนก่อน ขอยืนยันว่า ในระหว่างนี้ ในทุกขั้นตอนการบังคับคดี ทั้ง 2 ฝ่าย ยังสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ และกระทรวงยุติธรรม พร้อมเป็นตัวกลาง ในการช่วยเหลือไกล่เกลี่ย ซึ่งเรื่องนี้ ควรคำนึงถึงการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เหมาะสม กับความเสียหายที่เกิดขึ้นของครอบครัวผู้เสียชีวิต ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาด้วย” นายธวัชชัย กล่าว
ด้าน นายวรัญญู เกตุชู หรือ ติน ซึ่งเป็น 1ในผู้รอดชีวิต จากอุบัติเหต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เมื่อ 9 ปีก่อน เปิดเผย ภายหลังจากกระแสโซเชี่ยลกลับมาพูดถึงคดีอีกครั้งว่า หลังคู่กรณี ไม่รับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหาย ตนเห็นใจฝั่งคู่กรณีมาโดยตลอดและเข้าใจว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้วก็ต้องมีการแสดงความรับผิดชอบ หรือแสดงความจริงใจ ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ผ่านมา ตนในฐานะผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีโอกาสพบกับ ผู้ขับขี่รถเพียงแค่ครั้งเดียว คือ ตอนที่ผู้ขับขี่ไปเยี่ยมตนที่โรงพยาบาลเท่านั้น ครั้งนั้น ตนได้รับเงินหลักหมื่นบาท หลังจากนั้นไม่เคยได้รับเงินเยียวยาใดๆ จากคู่กรณี
กระทั่งเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 9 ปี คล้ายกับว่า คู่กรณีประวิงเวลามาโดยตลอด แม้กระทั่งเวลาที่ศาลนัด ไปขึ้นศาล ระหว่างที่คดียังอยู่ในการพิจารณาที่ผ่าน ผู้กระทำผิด หรือแม้แต่ทนายความก็ไม่ปรากฎตัวในชั้นศาล ตรงข้ามกับตนและญาติผู้เสียชีวิตที่ต้องเดินทางไกลจากต่างจังหวัดเพื่อมาขึ้นศาล ตลอดระยะเวลาที่ต่อสู้ในคดีนี้ ก็ไม่ได้เรียกร้องเงินส่วนใดเกินเลย มีเพียงค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียโอกาสของมารดาเท่านั้น ยอมรับว่า เงินชดใช้ที่ศาลพิพากษา เทียบไม่ได้กับเงินที่ต้องจ่ายไป แต่ตนก็ยินยอม เพราะอยากให้เรื่องนี้จบลง
โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์
เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
