โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

รวมแหล่งแก้หนี้

Money2Know

เผยแพร่ 20 พ.ค. 2562 เวลา 00.59 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
รวมแหล่งแก้หนี้

การพบกันครั้งล่าสุดระหว่างตัวเองในฐานะกรรมการ กับลูกหนี้ในฐานะผู้เข้าแข่งขัน ในรายการทีเด็ดลูกหนี้นั้น ต้องบอกว่า เป็นเรื่องน่าหนักใจมาก ที่หนักใจเพราะรู้สึกราวกับว่า แม้เราจะพยายามเท่าไหร่ แต่จำนวนผู้เดือดร้อนจากการเป็นหนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ขณะที่ปริมาณหนี้ของแต่ละคนทำท่าว่าจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

ที่มากกว่านั้น คือ เราพบว่าปัญหาของลูกหนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน แต่แหล่งเงินกู้กลับมีความหลากหลายมากขึ้น สะท้อนปัญหาเดิม คือ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ทำให้ต้องเป็นหนี้ แต่การแก้ไขนั้นยากขึ้น เพราะแต่ละคนมีทั้งกู้ซ้ำจากแหล่งเดิม และกู้เพิ่มจากแหล่งใหม่

การแก้หนี้เก่าด้วยการก่อหนี้ใหม่ ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับลูกหนี้ เพราะมันต่อลมหายใจได้ทีละเฮือก แต่ถ้าไม่ระวังให้ดี บางทีนอกจากหนี้ใหม่จะไม่อาจต่อลมหายใจให้ได้แล้ว ยังอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่พรากความหวังไปจากเราก็ได้ โดยเฉพาะถ้า หนี้ใหม่มีเงื่อนไขที่โหดร้ายกว่าหนี้เก่า

วันก่อนเห็นข่าวในโทรทัศน์ที่ตำรวจแถลงจับกุมแก๊งหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยโหด เป็นชายหนุ่มสองคนที่ปล่อยเงินกู้วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 3 แสนบาท โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน !!! (หรือร้อยละ 25 ต่อเดือน) จริงๆ เคยมีลูกหนี้ที่มาออกรายการ บอกว่า กู้มาร้อยละ 30 ต่อเดือน กู้ 10,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 3,000 บาท หรือวันละ 100 บาทแบบต้นไม่ลด ถ้ากู้ 50,000 บาท ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 500 บาท

น่าหนักใจตรงที่คนกู้ส่วนใหญ่เป็นคนเช้ากินค่ำ มีทั้งที่เป็นมนุษย์เงินเดือน และค้าขายส่วนตัว คนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน รอสิ้นเดือนเงินเดือนออกก็ใช้หนี้หมด ส่วนคนที่ค้าขายส่วนตัว ทำมาหาได้เท่าไหร่ ต้องกันส่วนหนึ่งไว้ลงทุนสำหรับวันต่อไป ที่เหลือก็ต้องใช้หนี้ จะเอาอะไรไปเหลือใช้เหลือเก็บ บางคนแค่นี้ก็ลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าเจอเรื่องต้องใช้เงินเพิ่ม ก็ต้องดิ้นรนกู้เพิ่มหนักขึ้นไปอีก

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานรัฐไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย ต่างพยายามหาเครื่องมือแก้หนี้มานำเสนอกับประชาชน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะประชาชนคนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่ มักจะไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก ไม่ชอบขั้นตอนเยอะแยะ ไม่ชอบการเตรียมเอกสารมากมาย ไม่ชอบการยื่นเรื่อง สู้กู้นอกระบบไม่ได้ มีแค่บัตรประชาชนใบเดียว บางคนชอบความสบายขนาดเซ็นชื่อแสดงความยินยอมบนเอกสารเปล่า เงินต้นเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ก็ไม่สน ขอแค่ “เฮีย” หรือ “เจ๊” ส่งเงินสดมาให้ก็พอ

แบบนี้ใช้ไม่ได้ค่ะ ! อยากบรรเทาความเดือดร้อนของตัวเอง ก็ต้องยอมลำบากบ้าง อย่าคิดแต่จะง่ายเข้าว่า เพราะเวลาเกิดปัญหาขึ้นมา มันแก้ยากหมด

ลองดูว่า เคสเราเข้าข่ายไหน แล้วลองใช้ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือใช้บริการจากที่นั่นค่ะ

แก้หนี้นอกระบบให้ติดต่อสอบถามไปที่ผู้ได้ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโก้ ไฟแนนซ์) ลองเข้าไปดูรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตรายจังหวัดได้ที่นี่เลย https://1359.go.th/picodoc/comp.php

พิโก้ ไฟแนนซ์ จะปล่อยกู้ให้กับประชาชนทั่วไป จะเป็นการกู้เพื่อกินใช้ หรือกรณีฉุกเฉินก็ได้ วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี (หรือร้อยละ 3 ต่อเดือน)

ถ้าเป็นพิโก้ พลัส สามารถให้กู้ได้สูงสุด 100,000 บาท ดอกเบี้ยจะแบ่งเป็น 2 สัญญา โดย 50,000 บาทแรกคิดดอกเบี้ยร้อยละ 36 ต่อปี ส่วนสัญญาที่สอง ส่วนที่เกินจาก 50,000 บาทแรก คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี โดยลูกหนี้ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถกู้ยืมได้

แก้หนี้บัตรเครดิตหรือบัตรเงินสดให้ติดต่อสอบถามไปที่คลินิกแก้หนี้ ดูข้อมูลที่เว็บไซต์ https://www.debtclinicbysam.com/ หรือติดต่อคอลล์เซ็นเตอร์ โทร 02-610-2266

คลินิกแก้หนี้ จะแก้ไขปัญหาหนี้เสีย (คือไม่ได้ชำระหนี้หรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำ) บัตรเครดิต บัตรกด เงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป เป็นระยะติดต่อกันมากกว่า 90 วัน โดยลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมโครงการได้ต้องป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี มียอดหนี้เงินต้นค้างชำระ รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท ไม่ถูกดำเนินคดี หรือ ถูกดำเนินคดีอยู่แต่ต้องยังไม่มีคำพิพากษา

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับ คือ ไม่ถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย แก้ไขหนี้หลายรายได้ครบ จบในที่เดียว ทำสัญญาแก้หนี้เพียงฉบับเดียว ผ่อนสบายๆ ตามตารางชำระหนี้ ผ่อนได้ยาวๆ ไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยขั้นต่ำร้อยละ 4-7 ต่อปี

แก้ปัญหาหนี้สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีสำหรับคนค้าขายที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว แล้วมีปัญหาต้องไปกู้นอกระบบ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ ลองปรึกษาขอกู้จากสถาบันการเงินในระบบ อาทิ ธนาคารออมสิน ดูนะคะ ส่วนใหญ่ธนาคารจะไม่ให้กู้ในทันทีค่ะ จะรอให้เราทำบัญชีหมุนเวียน 6 เดือน อันนี้ถ้าจำเป็นต้องทำก็ต้องทำ และถ้าติดปัญหาว่า แบงก์ต้องการหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือให้หาคนค้ำประกัน แนะนำให้ปรึกษาบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือ บสย.

ย้ำว่า บสย.ไม่ได้ปล่อยสินเชื่อหรือปล่อยกู้ให้เรานะคะ แต่ถ้าแบงก์อนุมัติเงินกู้ให้ แต่ต้องการคนค้ำประกัน ทาง บสย.จะทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อให้ เพิ่มความเป็นไปได้ในการกู้แบงก์ให้มากขึ้นค่ะ

สำหรับลูกหนี้แล้ว ต้องนึกไว้เสมอว่า เมื่อปัญหา (หนี้) เกิดขึ้นแล้ว ต้องหาทางแก้ค่ะ และการแก้ปัญหา ล้วนต้องออกแรงทั้งนั้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0