โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รวมเกมที่เหล่านักบู๊จากเอเชียเป็นตัวละครเอก

GamingDose

เผยแพร่ 22 ส.ค. 2562 เวลา 04.49 น. • GamingDose - ข่าวเกม รีวิวเกม บทความเกมจากเกมเมอร์ตัวจริง
รวมเกมที่เหล่านักบู๊จากเอเชียเป็นตัวละครเอก

ปัจจุบันนี้สื่อบันเทิงอย่างวิดีโอเกมก็มีการนำเอาดารานักแสดงชื่อดังเข้ามามีส่วนร่วมในเกมต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่มีทุนสร้างมหาศาล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เห็นกันได้ทั่วไปในยุคนี้ แต่ในสมัยก่อนนั้นการนำนักแสดงมาใส่ไว้เป็นตัวเอกในเกมนั้นมีให้เห็นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะดาราจากทางเอเชีย แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีเกมอยู่จำนวนหนึ่งที่ยกให้นักแสดงขาบู๊เหล่านี้เป็นตัวละครเอกอยู่ด้วย วันนี้เรามาดูกันว่ามีเกมอะไรบ้างที่เคยนำนักแสดงสายบู๊ของเอเชียไปเป็นตัวเอกบ้าง

Jackie Chan Stuntmaster

เริ่มกันที่เกมแรกอย่าง Jackie Chan Stuntmaster ที่เราเพิ่งพูดถึงไปเมื่อวันก่อน กับผลงานการพัฒนาของ Radical Entertainment ผู้ที่มีผลงานสุดระห่ำอย่าง Prototype ในเวลาต่อมา ซึ่งในเกมนี้พวกเขาเชิญตัวเฉินหลงหรือ Jackie Chan มาร่วมให้เสียงและทำ Motion Capture ท่าต่อสู้และการเคลื่อนไหวในเกมอย่างละเอียด แม้ด้วยเทคโนโลยีของเครื่อง PlayStation ในยุคนั้นจะไม่สูงมากนัก แต่ก็ถ่ายทอดออกมาได้ประทับใจไม่น้อย

Jackie Chan Stuntmaster ถือเป็นเกมที่หยิบเอาเอกลักษณ์ของเฉินหลงมาใช้ได้ครบถ้วน ทั้งการต่อสู้กับศัตรูกลุ่มใหญ่ ฉากกระโดดหรือวิ่งเสี่ยงตายแบบไม่มีหยุด และมุกคำพูดติดตลกที่เป็นเอกลักษณ์ในหนังเฉินหลงเกือบทุกเรื่อง แม้ความยากจะอยู่ในระดับสูงและมียอดขายที่ไม่ได้มากมายนัก แต่ก็เป็นเกมที่เกมเมอร์ชาวไทยยุค 90 ต่างชื่นชอบและหยิบมาเล่นกันอยู่เสมอ

ส่วนใครอยากรู้จักเกมนี้แบบเต็ม ๆ ก็สามารถไปอ่านกันได้ ที่นี่

Jet Li: Rise of Honor

อีกหนึ่งเกมที่ผู้เขียนไม่คิดว่าจะมีออกมา และยังเป็นผลงานเกมของทาง Sony โดยตรงอีกด้วย กับการนำ Let Li หรือหลี่เหลียนเจี๋ย นักแสดงที่ชาวไทยรู้จักกันดีจากภาพยนตร์เรื่องไอ้หนุ่มซินตึ๋งและหวงเฟยหง ก่อนที่จะตามรอยนักแสดงคนอื่น ๆ ไปสู่แวดวงฮอลีวู้ดต่อไป

Rise of Honor เป็นเรื่องราวของ Kit Yun ตำรวจนอกเครื่องแบบจากฮ่องกงที่ปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดของแก๊งนอกกฎหมายที่เป็นเพื่อนของพ่อ จนนายจ้างของเขาได้ถูกฆ่าเพราะคิดจะออกจากวงการเพราะกุมความลับบางอย่างเอาไว้ และเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องเดินทางไปหาลูกสาวของนายจ้างที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กในอเมริกาที่ตกเป็นเป้าหมายอีกหนึ่งคน พร้อมกับส่งของที่ได้รับมาจากพ่อให้กับเธออีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของเกมก็คือระบบการเล่น ในเกมนี้เราจะต้องใช้แกนอนาล็อกขวาในการออกท่าโจมตีตามทิศทางแต่ละทิศแทน เป็นระบบที่น่าสนใจและใช้ได้จริงในสถานการณ์ที่ถูกรุมจากหลายทิศทาง แต่น่าเสียดายที่ระบบการเล่นอื่น ๆ นั้นดูธรรมดาและไม่น่าดึงดูดเท่าใดนัก แถมเนื้อเรื่องของเกมเองก็ค่อนข้างธรรมดาไม่ต่างจากหนังฮ่องกงที่เห็นกันอยู่ทั่วไปนัก ทำให้มันเป็นเกมที่ถ้าเล่นจบแล้วก็จบเลย ไม่มีอะไรน่าดึงดูให้เล่นอีก แม้จะเป็นเกมธรรมดา ๆ แต่การที่ได้ตัว Jet Li มาเล่นก็พอช่วยให้ตัวเกมดูมีความน่าสนใจขึ้นมาบ้าง

Stranglehold

หากเอ่ยชื่อโจวเหวินฟะ ทุกคนต้องนึกถึงเขาในฐานะของนักแสดงบทบู๊ที่มาพร้อมการดวนปืนอันสะใจจำนวนมหาศาล หรือเซียนพนันที่ชนะทุกคนได้ด้วยเทคนิคอันแพรวพราว ซึ่งผลงานที่หลายคนจำได้อย่าง Hard Boiled(ทะลักจุดแตก, 2535) ก็ถือเป็นหนังที่แฟน ๆ รู้จักกันดี และเกม Stranglehold ที่ว่าก็ดันเป็นภาคต่อของหนังเรื่องนี้เสียด้วย

เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นการเล่าต่อจากภาพยนตร์ Hard Boiled ในเวลาหลายปีให้หลัง Tequila นายตำรวจเลือดร้อนที่ต้องกลับมาจัดการกับเหล่าร้ายที่คุกคามครอบครัวของเขาอีกครั้ง ผ่านการสืบคดีที่ยิงกันหูดับตับไหม้ในสไตล์หนังฮ่องกง พร้อมกับฉากคัตซีนพอเป็นพิธี และยิงกันต่อไปอย่างดุเดือดจนจบเกม

Stranglehold เป็นเกมที่ได้ตัวผู้กำกับภาพยนตร์ดังอย่าง John Woo มาช่วยดูแลการผลิต ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นเอกลักษณ์ที่อยู่ในภาพยนตร์ของเขาออกมาอย่างมากมาย ทั้งฉากดวลปืนคู่แบบสโลว์โมชั่นที่ยิงกันเละเทะ นกพิราบประกอบฉาก และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกว่าเป็นเกมที่มีความเป็น John Woo แบบสุด ๆ เท่าที่เรานึกออกในตอนนี้เลย

แต่อาจเป็นเพราะหลายอย่างในเกมนั้นเราเคยเห็นมาก่อนแล้ว ความรู้สึกในการเล่น Stranglehold จึงไม่ว้าวนักเพราะมีเกมที่ทำได้ดีกว่ามาก่อนอย่าง Max Payne ทั้งสองภาค และยังมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกว่าด้วย ทำให้น่าเสียดายที่เกมนี้ไปไม่ถึงดวงดาวเพราะยังขาดหมัดเด็ดที่สร้างความแตกต่างให้กับเกมจนเป็นที่จดจำ แต่นอกเหนือจากนั้นมันก็เป็นเกมที่เล่นได้สนุกและฆ่าเวลาได้ดีพอสมควรเกมหนึ่ง

Tom Yum Goong The Game

เกมสุดท้ายเป็นผลงานของไทยกับเกมจากภาพยนตร์บู๊ชื่อดังอย่างต้มยำกุ้ง ที่ส่งให้ Tony Jaa หรือจา พนม กลายเป็นดาราดังระดับโลกได้ในที่สุด ซึ่งในเวอร์ชั่นเกมนี้ก็ได้ทีมงาน Game No Limit ที่เป็นทีมงานชาวไทยมาช่วยรังสรรค์ผลงาน ให้การตามหาช้างของตัวเอกเป็นไปอย่างสนุกสนาน

แน่นอนว่ากระแสของเกมได้ตัวหนังช่วยโปรโมทไปได้พอสมควร จนกลายเป็นเกมที่หลายคนเลือกซื้อหาไปเล่นกันอย่างมากมายในช่วงที่หนังออกฉาย และตัวเกมเองก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ได้ แม้จะไม่อาจเทียบเท่ากับเกมจากทีมพัฒนาจากต่างประเทศก็ตาม

ทั้งหมดนี้คือเกมที่ได้ตัวเอกเป็นดารานักบู๊จากเอเชียที่ผู้เขียนพอจะนึกออก ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะยังมีอีกมากแต่ไม่ได้ถูกพูดถึง ซึ่งถ้าใครจำกันได้ก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0