ตำรวจภูธรภาค 2 นำ 4 หมายจับบุกรวบ จอมโจรที่ก่อคดีมาโชกโชน ทั้งใช้ปืนยิงคู่กรณีตกทะเล และปล้นรถขนเงินอีก 2 ครั้ง หลังรอดตัวมานานกว่า 6 ปี
เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หลังรับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีคนหนึ่งว่า นายเจริญ เทพวงศ์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญระดับประเทศที่ตำรวจต้องการจับกุมมากที่สุดคนหนึ่ง หนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
นายเจริญ คนนี้หลบหนีหมายจับทั้งคดีใช้อาวุธปืนฆ่าผู้อื่น และร่วมกันปล้นรถขนเงินธนาคารต่างๆ รวม 4 หมายจับ โดยหนีคดีหายหน้าไปนานกว่า 6 ปี แต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจนำกำลังปิดล้อมบ้านพักและจับกุมตัวได้ในที่สุด
สำหรับ 4 หมายจับของนายเจริญ นั้นประกอบไปด้วย หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากกรณีที่นายเจริญ ใช้ปืนมีทะเบียน ซึ่งเป็นชื่อของตัวเอง ยิงคู่กรณีจนตกทะเลเสียชีวิต ที่สะพานใหม่ชลมาร์ควิถี 84 พรรษา เลียบชายทะเลตอน 2 ก่อนนำปืนไปฝากลูกน้องของตนเองไว้
หมายจับที่ 2 ศาลจังหวัดบางปะกง (ฉะเชิงเทรา) ข้อหาร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รถขนเงินของธนาคารกรุงไทย สาขาบางวัว ได้เงินไป 4.6 ล้านบาท ซึ่งเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้ว และให้การซัดทอดว่านายเจริญ เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยแบ่งเงินให้คนละ 1 ล้านบาท
หมายจับที่ 3 ศาลจังหวัดชลบุรี ข้อหาร่วมกับพวกอีก 4 คน ปล้นรถขนเงินบริษัทแซมโก้ จำกัด ได้เงินไป 6.8 ล้านบาท ซึ่งในเวลาต่อมาพวกทั้ง 4 คนก็ถูกจับติดคุกไปหมดแล้ว และทั้งหมดก็ให้การว่า นายเจริญ เป็นคนชักชวนและวางแผนปล้น ก่อนจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ส่วนหมายจับที่ 4 เป็นข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง
โดยนายเจริญ ยอมรับสารภาพว่า ตัวเองครอบครองอาวุธปืนมีทะเบียนทั้งหมด 20 กว่ากระบอก แต่ปัจจุบันขายหมดแล้ว เพื่อนำเงินมาใช้ในการหลบหนีการจับกุมของตำรวจ ซึ่งทั้ง 4 หมายจับ มีเพียงหมายจับเดียวที่นายเจริญให้การปฏิเสธ คือหมายจับที่ 3 ซึ่งนายเจริญให้การว่า “ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง” แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
