จับพรานป่า พร้อมซากหมูป่าและอาวุธปืนที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ทับซ้อนพื้นที่ป่าสงวน เจ้าหน้าที่แจ้งหลายข้อหาหนัก
นายจิณณะ สามศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย นำเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ออกลาดตระเวนหลังสืบทราบว่ามีกลุ่มนายพรานป่า ลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าที่บริเวณป่าฝั่งซ้ายลำห้วยหลวง ทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านแก้งเรือง ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ภายในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูเมย ป่าเขาสวนตาล และพลานไหแตก
ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 2 ครั้ง ระยะห่างประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ พบกลุ่มพรานป่าเป็นชาย 2 คนกำลังช่วยกันแบกหามซากหมูป่า 1 ตัว และอีกคนเป็นผู้หญิงสะพายปืนแก็ป ไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อกลุ่มพรานป่าเห็นเจ้าหน้าที่จึงทิ้งซากหมูป่าวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวได้ 2 คนเป็นสามี-ภรรยา
จากการสอบสวน ทราบชื่อคือ นายอุดม ขันทอง อายุ 35 ปี และนางนวลจันทร์ พิลารัตน์ อายุ 32 ปี จับกุมพร้อมของกลางซากหมูป่า น้ำหนักรวม 70 กก. จำนวน 1 ซาก และอุปกรณ์การกระทำผิด อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กระเป๋าเป้สีเทา จำนวน 2 ใบ บ่วงเชือกไนล่อนขนาดความยาว 1.80 ซ.ม. จำนวน 5 เส้น และมีดปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ล่าหรือนำสัตว์ออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ๆ และนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใด ๆ เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ, ร่วมกันเก็บหานำออกไปกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นหรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาจะหลวย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.