เชื่อว่าสาวๆหลายคนคงเคยได้ยินว่ามียาชนิดหนึ่งที่สามารถรักษาสิวได้และยาที่ว่าก็คือ Accutane ซึ่งแม้ว่าจะได้ผลกับคนส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีผลข้างเคียงค่อนข้างน่ากลัวและร้ายแรง แต่ยังมียาอีกชนิดที่คุณสามารถรับประทานได้และมีข้อถกเถียงทางการแพทย์น้อยกว่า ใช่แล้วคุณน่าจะเดาถูก ยาคุมกำเนิดนั่นเอง ยาคุมกำเนิดสามารถทำให้ผิวพรรณของคุณเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้เนื่องจากฤทธิ์ยาจะไปควบคุมฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับหญิงสาวในวัยกำลังเจริญเติบโตหรือร่างกายยังมีพัฒนาการจากในช่วงแรกอยู่ (นี่คือคุณสมบัติอีกอย่างที่นอกเหนือจากการคุมกำเนิด)
ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนแบบเดียวกันกับที่ร่างกายของคนเราสร้างขึ้นมาได้แก่เอสโตรเจนกับโปรเจสตินซึ่งต่างกันแค่ที่ปริมาณเท่านั้น ดังนั้นมันจึงสามารถควบคุมการตกไข่ของร่างกายได้ ผลที่ตามมาคือระดับเทสโทสเตอโรนในร่างกายของคุณก็จะลดลงเช่นเดียวกับการเกิดสิว เทสโทสเตอโรนคือฮอร์โมนเพศชายที่มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันออกมา จากนั้นน้ำมันก็จะทำให้แบคทีเรียขยายพันธุ์และส่งผลทำให้เกิดสิว ดังนั้นเมื่อเทสโทสเตอโรนลดลง สิวก็จะลดลงตามไปด้วย
จากประสบการณ์สิบปีของผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งพบว่าปัญหาผิวหนังของผู้หญิงร้อยละ 90 จะดีขึ้นเรื่อยๆหรือหายเป็นปลิดทิ้งภายในเวลาหกเดือนนับจากที่เริ่มรับประทานยาคุมกำเนิด อย่างไรก็ตามส่วนที่ยากคือบางครั้งก็เกิดอาการสิวลุกลามก่อนที่จะดีขึ้นแต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น บางครั้งอาการสิวเห่อในช่วงแรกอาจเกิดจากโปรเจสตินในยามีฤทธิ์เทสโทสเตอโรนเทียมซึ่งทำให้สิวลุกลาม ทางที่ดีคุณควรรอสัก 1-2 เดือนก่อนที่จะตัดสินใจว่ายาคุมกำเนิดนั้นดีหรือไม่ดีกันแน่ แต่ถ้าผ่านไปหลังจากนั้นแล้วผิวของคุณยังมีปัญหาอยู่ก็ควรปรึกษาแพทย์ ที่สำคัญผู้หญิงแต่ละคนจะมีปฏิกิริยากับยาแตกต่างกัน ขณะที่ระยะเวลา 90 วันคือมาตรฐานโดยทั่วไปสำหรับการปรับฮอร์โมน
แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือสิวที่เกิดจากฮอร์โมนหรือเป็นเพราะ “ฉันนอนหลับไปทั้งเครื่องสำอางตั้งแต่เมื่อคืน”? โดยปกติสิวฮอร์โมนมักจะมีขนาดใหญ่เป็นตุ่มหนองหรือซีสต์และส่วนใหญ่จะขึ้นบริเวณรอบคางหรือขากรรไกร และท้ายที่สุดอย่าลืมว่านี่คือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เวทมนตร์ใดๆทั้งสิ้น แม้ว่ายาคุมกำเนิดจะช่วยลดสิวได้แต่ก็สู้การล้างหน้าและการปรนนิบัติดูแลผิวเฉพาะจุดไม่ได้ โดยทั่วไปสิวจะเกิดขึ้นในช่วงที่เป็นประจำเดือนหรือก่อนที่ประจำเดือนจะมาหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเนื่องจากรับประทานยาคุมกำเนิด ดังนั้นคุณควรระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันในช่วงเวลาเหล่านี้ อย่างไรก็ตามคุณสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆได้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาใช้อยู่หรือแพทย์ที่พวกเขาเข้าไปขอคำปรึกษา แม้ว่ายาคุมกำเนิดจะไม่ใช่ปาฏิหารย์แต่ก็คุ้มค่าแก่การลอง ทางที่ดีควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด
