โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ม็อบฮ่องกงจับคนเห็นต่างเผาทั้งเป็น เพียงเพราะพูด “เราทุกคนต่างเป็นชาวจีน” **ดีเอสไอ สรุปคดี "บิลลี่" ออกหมายจับ "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" กับพวก 8 ข้อหาหนัก

Manager Online

เผยแพร่ 11 พ.ย. 2562 เวลา 22.01 น. • MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ม็อบฮ่องกงจับคนเห็นต่างเผาทั้งเป็น เพียงเพราะพูด“เราทุกคนต่างเป็นชาวจีน”สะท้อนมาไทย ใกล้วัน "อยู่ไม่เป็น" กับ "ฮ่องเต้ซินโดรมดิ้นครั้งสุดท้าย" เสื้อสัญลักษณ์ บังเอิญหรือตั้งใจ? อิงกระแส "คนชังชาติ"

คลิปที่เผยแพร่เหตุการณ์สลดใจถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อม็อบฮ่องกงมาถึงจุดพีกอีกครั้ง !!

ชายคนหนึ่งถูกจุดไฟเผาทั้งเป็น ในเขตหม่าอันซัน (Ma On Shan)หลังจากปะทะคารมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในฮ่องกง โดยเขาพูดกับกลุ่มผู้ประท้วงว่า… “เราทุกคนต่างเป็นชาวจีน”…

ภาพจากคลิปวิดีโอ ชายผู้นี้คาดว่าจะถูกสาดด้วยน้ำมัน และจุดไฟเผาทั้งเป็น ก่อนที่เขาจะถูกไฟลุกท่วมทั้งตัว และวิ่งหนีด้วยความตกใจ ซึ่งต่อมาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ฮ่องกงปั่นป่วนอย่างยิ่ง ม็อบกระจายไปทั่วเมือง ก่อนหน้านี้ ชายที่มี "ความเห็นต่าง" จากม็อบจะถูกเผา ช่วงเช้าก็มีเหตุผู้ประท้วงถูกยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่หน้าท้อง เส้นทางสัญจรหลักๆ ในหลายเขตถูกปิดกั้น และบริการเอ็มทีอาร์ ถูกระงับ เพราะผู้ประท้วงโยนวัตถุลงบนรางรถไฟสายตะวันออก มีการจุดไฟที่สถานีรถไฟไควฟง และบุกทำลายสถานีรถไฟอื่นๆ หลายแห่ง…

ตัดภาพมาที่เมืองไทย ใกล้วันที่แคมเปญ "อยู่ไม่เป็น" ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งว่ากันว่า เป็นมุกเรียกแขก ปลุกระดมมวลชนเพื่อมาต่อรองกดดันการพิจารณาคดีของ "พ่อฟ้า" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ในหัวข้อ "ฮ่องเต้ซินโดรมดิ้นครั้งสุดท้าย" ระบุว่า "เป็นที่แน่นอนว่า อยู่.ไม่.เป็น. ก็คือการจัดระดมมวลชน เพื่อต่อรองผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่ขึ้นศาลฯ คดีถือหุ้นสื่อ แต่ตอบได้คำเดียวว่า จำ.ไม่.ได้.

การนัดรวมพล จึงเป็นการ"ดิ้นครั้งสุดท้าย" เพื่อประโยชน์ส่วนตน แต่มาอ้างเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แม้ในพรรคตนเองก็ยังมีปัญหา ดังนั้น ควรคิดเปลี่ยนแปลงพรรคตนเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ

สิ่งที่ต้องช่วยกันระมัดระวัง คือการใช้ความรุนแรง เพราะ "เสื้อยืดสีสัญลักษณ์" เป็นสิ่งที่ "อยู่.ไม่.เป็น" เอากระแสมาจาก "ม็อบชังชาติ" ของฮ่องกง มาสร้างกระแสร่วม หวังให้ฝรั่งเข้ามาช่วย ดังนั้นผู้มีอำนาจหน้าที่ ต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากชายชุดดำในอดีต #อยู่ไม่เป็นก็ไม่ต้องอยู่ #ตอกย้ำฮ่องเต้ซินโดรม" หมอวรงค์ ว่า…

คำว่า "ฮ่องเต้ซินโดรม" ที่หมอวรงค์กล่าวถึง คำนี้มีที่มาจาก กรณี "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บรรยายพิเศษเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง" ช่วงหนึ่งได้กล่าวตั้งคำถามว่า สังคมจะเชื่อนักธุรกิจ ที่ชีวิตเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ชีวิตไม่เคยลำบากเหมือน "ฮ่องเต้ซินโดรม" นั้นหรือ…

ส่วน คำว่า "ฮ่องเต้ซินโดรม" (Little Emperor Syndrome)ว่ากันว่า มาจากพฤติกรรมของการเลี้ยงดูลูกในประเทศจีน ที่มีนโยบายลูกคนเดียว จำกัดให้มีบุตรบ้านละ 1 คน ส่งผลให้เด็กนั้นได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ และครอบครัวอย่างตามอกตามใจมากเกินไป พ่อแม่หาทุกอย่างมาให้ลูกเพื่อทดแทนในสิ่งที่ตัวเองสูญเสียไป มีผลข้างเคียงให้เด็กกลายเป็นคนที่ "เอาแต่ใจ" ไม่สามารถรับมือกับความผิดหวัง ไม่มีความอดทนและไม่มีระเบียบวินัย

รวมพลคนอยู่ไม่เป็น 16 พ.ย.นี้ น่าสนใจว่า นอกจากจะเป็นการดิ้นหนีตายครั้งสุดท้ายของ"ธนาธร" ดังว่า ยังจะเป็นจุดเริ่มของกลุ่ม "คนชังชาติ" อิงกระแสม็อบฮ่องกง เพราะ อยู่ไม่เป็นหรือไม่… คนอยู่เป็นโปรดติดตาม .

** ดีเอสไอ สรุปคดี "บิลลี่" ออกหมายจับ "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวกใน 8 ข้อหาหนัก เจ้าตัวยืนยันไม่หนี พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

งวดเข้ามาทุกขณะแล้ว สำหรับ "คดีบิลลี่" พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่ต่อสู้กรณีถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เผาบ้าน เผายุ้งข้าว เพื่อไล่ที่ ได้สูญหายไป เมื่อ 5 ปีก่อน … ซึ่งต่อมามีเบาะแสว่า "ถูกฆาตกรรม" อย่างโหดเหี้ยม ก่อนนำศพไปใส่ถังน้ำมัน 200 ลิตร เผาทำลายหลักฐาน

แล้วนำไปทิ้งน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน… เมื่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทำการเก็บกู้ขึ้นมาได้ ก็พบเศษกระดูกกว่า 20 ชิ้น จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับแม่ของบิลลี่ จึงเหลือเพียงผลตรวจ "ดีเอ็นเอ" เพื่อยืนยันให้เกิดความชัดเจนเท่านั้น

จากเดิมที่เป็น"คดีคนหาย" จึงกลายมาเป็น "คดีฆาตกรรม" !!

หลังจาก "พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร" รองอธิบดี ดีเอสไอ ที่เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ ได้ออกมาแถลงข่าวถึงหลักฐานที่พบ ทาง "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) 9 อุบลราชธานี ในฐานะ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่เป็นคนควบคุมตัว "บิลลี่" ก่อนหายตัวไป ก็ออกมาให้ข่าวยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป หรือการฆาตกรรม "บิลลี่"…

"ขอให้ทุกคนคิดเอาเองแบบพื้นๆ เลยว่า หากตัวเองได้กระทำผิดร้ายแรงแบบนั้นจริงๆ การเอาศพไปทิ้งไว้ในพื้นที่แบบนั้น ซึ่งเป็นที่ที่อยู่ใกล้ตัว แล้วใครจะกล้าทำ ต่อให้ยิ่งใหญ่จากไหน ก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้…"

ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย.57 ซึ่งเป็นวันที่ "บิลลี่" หายตัวไปนั้น เขาขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านไปยังตัวอำเภอแก่งกระจาน เพื่อเตรียมข้อมูลยื่นถวายฎีกา เรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ผลักดันให้ออกจากป่า … ระหว่างทาง "บิลลี่" ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เรียกตรวจค้น และพบน้ำผึ้งป่า จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมวิทยุแจ้งให้ "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในขณะนั้นรับทราบ และเดินทางมาสอบสวน "บิลลี่" ด้วยตัวเอง…

"ชัยวัฒน์" บอกว่าเมื่อมาพบกับ"บิลลี่" ซึ่งขณะนั้นฝนตกพอดี จึงให้เจ้าหน้าที่นำตัว "บิลลี่" พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลาง ขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ ขับไปยังที่ทำการอุทยานฯ … ระหว่างทาง"บิลลี่" ขอร้องให้ปล่อยตัว โดยอ้างว่าซื้อน้ำผึ้งป่ามาจากชาวบ้านแค่ 5 ขวด เป็นความผิดเล็กน้อย แต่เห็นว่า บิลลี่ มีกระเป๋าใบใหญ่ คาดว่ามีน้ำผึ้งอีกจำนวนมาก จึงจอดรถเพื่อลงมาค้นสัมภาระอีกรอบ เมื่อไม่พบน้ำผึ้งอีก จึงว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ … แล้ว "บิลลี่" ก็หายตัวไปตั้งแต่วันนั้น…

จากวันที่พบกระดูกและถัง 200 ลิตรในเขื่อนแก่งกระจานจน ถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 3 เดือน ที่ "ดีเอสไอ"ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนไปขออนุมัติศาลอาญา ออก "หมายจับ" ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกอีก 3 คน คือ "บุญแทน บุษราคำ- ธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ และ กฤษณพงษ์ จิตต์เทศ" ใน 8 ข้อหาหนัก… ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง , ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น , ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี , ร่วมกันเบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต , ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ และ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่…

เมื่อศาลอนุมัติหมายจับ (11พ.ย.) ทางดีเอสไอ ก็ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อจับกุม "ชัยวัฒน์ " แต่ไม่พบตัว จึงมีกระแสข่าวในเบื้องต้นว่า เขาได้หลบหนีไปแล้ว …

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้นเอง ก็พบว่า "ชัยวัฒน์" พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้มารอต้อนรับ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการลงพื้นที่คู่ขนานกับ คณะของนายกรัฐมนตรี ที่ไปพบปะประชาชน ชาวราชบุรี และ จะประชุมครม.สัญจร ที่ จ.กาญจนบุรี ในวันนี้ (12พ.ย.)… โดย"ชัยวัฒน์" ยังคงมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมบอกว่า ได้รับทราบการออกหมายจับแล้ว และก็ไม่ได้คิดหนีไปไหน… ความจริงน่าจะออกแค่ "หมายเรียก" ก็พอ เพราะตัวเขาก็มีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่เมื่อออกหมายจับแล้ว ก็ยินดีให้ความร่วมมือ และทำตามกระบวนการยุติธรรม… ขอเพียงอย่าสร้างกระแส มีหลักฐานชัดเจนแค่ไหน ก็ให้ว่าไปตามนั้น ไม่อยากให้มีอะไรที่เป็นเท็จ หรือถูกสร้างขึ้นมา…

ถึงวันนี้ "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" กับพวก ก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามที่"ดีเอสไอ"ได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้แล้ว ส่วนผลการดำเนินคดีจะเป็นอย่างไร อีกไม่นานคงได้ข้อยุติ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0