โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มีงาบหัวคิว "บิณฑ์" แฉฉ้อฉล ผู้นำชุมชน!

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 21 ก.ย 2562 เวลา 17.39 น. • เผยแพร่ 21 ก.ย 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

แจกแล้ว32ล้าน ‘อุบลฯ’ ยังวิกฤติ ฝนถล่มหนักอีก

น้ำท่วมอุบลฯยังไม่พ้นวิกฤติ หลังเจอฝนถล่มซ้ำ 2 วันติดส่งผลให้แม่น้ำมูลระบายได้ช้า ชาวบ้านครวญสงสัยต้องนอนศูนย์อพยพต่ออีกเป็นเดือน ขณะที่ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยผู้ประสบภัย “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” แจกต่อรายวันอีก 1,000 ครอบครัว เห็นหญิงพิการนั่งซาเล้งมารับข้าวกล่องใจปํ้าควักเงินส่วนตัวแจกสดทันที 2 หมื่น เผยตั้งแต่วันแรกใช้เงินไปแล้ว 32 ล้าน ส่วนยอดบริจาคทะลุ 400 ล้านแล้ว แฉผู้นำชุมชนหักหัวคิวผู้เดือดร้อน สลดวัยรุ่นควบกระบะฝ่าสายฝนนํ้านองผิวถนนเสียหลักชนป้ายจราจรตกคลอง 2 ศพ ชาวกาฬสินธุ์ร้องฝายกั้นน้ำลำพะยัง ยุค “บิ๊กตู่” สร้างไม่ถึงปีร้าวถึง 2 แห่ง

น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ยังหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเอ่อท่วมสูง โดยเฉพาะฝั่ง อ.เมืองอุบลราชธานี และเขต อ.วารินชำราบ เจ้าหน้าที่ระดมเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำโขงที่ อ.โขงเจียม ล่าสุดเกิดฝนตกลงมาซ้ำ ทำให้น้ำไหลช้า ขณะที่ธาร น้ำใจยังคงหลั่งไหลไปช่วยผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

ฝนถล่มอีก-น้ำมูลยังไม่พ้นวิกฤติ

สถานการณ์น้ำท่วมเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่สถานีวัดระดับน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เทศบาลนครอุบลราชธานี อยู่ที่ 114.97 ม.รทก. อัตราการไหล 4,000.00 ลบ.ม./ วินาที ลดลงจากวันที่ 20 ก.ย.เล็กน้อย ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี นานประมาณ 1 ชม. ส่งผลให้น้ำที่เริ่มลดลงไหลช้ากว่า จากการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าระดับน้ำแม่น้ำมูลลดลงเพียง 1 ซม.เท่านั้น ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในเขตชุมชน สองฝั่งแม่น้ำทั้งเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบอยู่ในระดับสูง ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพต่อไป

อุตุฯแจงฝนตก-หนาวมาเยือน

นายปรเมศร์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ฝนที่ตกมาในช่วงนี้เกิดจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย.บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบนจะแผ่ลงมา ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีปริมาณฝนจะลดลงและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

“บิณฑ์” แบ่งทีมงานแจกเงินต่อ

ส่วนความเคลื่อนไหวของ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นักแสดงชื่อดังที่นำทีมลงพื้นที่แจกเงินให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ครอบครัวละ 5,000 บาท ล่าสุดช่วงบ่าย “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” แบ่งทีมงานแยกกันไปแจกเงินรวม 1,000 ครอบครัว จุดแรกที่ศูนย์อพยพบ้านคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี มี “เอกพัน บรรลือฤทธิ์” น้องชายฝาแฝด พร้อมทีมมูลนิธิร่วมกตัญญูลงพื้นที่แจกเงินชาวบ้านรวม 317 ครัวเรือน นายประดิษฐ์ สุริโย ประธานกรรมการชุมชนคูเดื่อเป็นผู้รวบรวมรายชื่อผู้ประสบภัยทั้งหมด และมี 4 ครอบครัวที่ยังไม่มีเลขที่บ้านเป็นบ้านงอกเงยและได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการหมู่บ้านจัดส่งชื่อให้มีสิทธิ์รับเงินบริจาคนี้ด้วย ทำให้ไม่มีปัญหาตกหล่น ทั้งนี้ ผู้นำชุมชนมอบพระเครื่องพระศรีอริยเมตไตรยแบบวางไว้หน้ารถยนต์ให้เป็นที่ระลึกตอบแทนเป็นสินน้ำใจด้วย

ควักส่วนตัว 2 หมื่นให้หญิงพิการ

ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมงานไปแจกชาวบ้านที่ร้านวัสดุก่อสร้างโฮบฮับ สาขาบ้านทัพไท มีประชาชนที่ประสบอุทกภัยจุดอพยพบ้านทัพไทย ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี มารอรับเงินช่วยเหลือและปรบมือต้อนรับด้วยความดีใจ โดยนายองอาจ ตั้งมิตรประชา ประธานกรรมการบริหารบริษัทโฮบฮับจำกัด สาขาทัพไท ได้มอบเหล็กไหลโบราณจากหลวงพ่อวัดหนองไผ่นก ของสะสมส่วนตัวเพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย จุดนี้บิณฑ์ได้พบกับนางคูณ พรงาม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 บ้านบุ่งหวาย ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราย ที่พิการถูกตัดขาขวาจากโรคเบาหวานนั่งรถซาเล้งที่ลูกชายขี่พาเข้ามารับแจกข้าวกล่องเพื่อนำกลับไปกินที่บ้านที่ถูกน้ำท่วมหนัก บิณฑ์เข้าไปสอบถามและหาเสื้อผ้าให้ใส่ เนื่องจากเห็นว่านางคูณ นั่งตากฝนเปียกโชกไปทั้งตัว พร้อมกับมอบเงินส่วนตัวให้นางคูณและครอบครัว 2 หมื่นบาท เพื่อเอาไปใช้รักษาตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากแจกเงินในจุดนี้แล้วทีมงานได้ไปแจกเงินต่อที่ชุมชนบ้านท่าบ่อ อ.เมืองอุบลราชธานี

ยอดทะลุ 400 ล้าน-แฉมีหักหัวคิว

บิณฑ์ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันยอดเงินบริจาคทะลุ 400 ล้านบาทแล้ว เป็นเงินจากพี่น้องทุกคนร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มีเงินของตนเพียง 1.7 ล้านบาท เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีผู้บริจาคจะทำให้โปร่งใสที่สุด อย่างไรก็ตาม เพิ่งทราบข้อมูลว่ามีการหักหัวคิวจากผู้นำชุมชน แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง หากมีจริงก็ขอประณามว่าเลวมาก ขอให้ชาวบ้านมาแจ้งตรงกับตนได้เลยจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ส่วนเงินทั้งหมดถึงตอนนี้เบิกแจกไปแล้ว 32 ล้านบาท และอยากให้เพื่อนศิลปินดารามาร่วมกันแจกเงินให้ชาวอุบลฯ ไม่ต้องแบ่งค่ายแบ่งสังกัดจะได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ คาดว่า 10 วันน่าจะได้ครบทุกพื้นที่ และภายในสิ้นปีน่าจะแจกหมดทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ส่วนเรื่องคดีความที่มีคนปลอมบัญชีบริจาคตอนนี้ถอนแจ้งความแล้ว เพราะน้องเป็นเยาวชนอายุเพียง 14 ปี จึงว่ากล่าวตักเตือนตำหนิไป แต่ถ้ามีอีกไม่ยกโทษให้แล้ว

“บุ๋ม” นำจิตอาสาให้กำลังใจถึงที่

วันเดียวกัน “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” อดีตนางสาวไทย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ นำเจ้าหน้าที่จิตอาสาของมูลนิธิฯไปมอบถุงยังชีพและยารักษาโรคน้ำกัดเท้าให้นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยศูนย์พักพิงชุมชนวัดบูรพา 2 (เชิงสะพาน 100 ปีสมเด็จพระศรีนครินทร์) เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เสร็จแล้วไปที่ศูนย์พักพิงทุ่งคำน้ำแซบ ฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบ จุดอพยพชุมชนท่ากอไผ่และวัดเสนาวงศ์ เทศบาลเมืองวารินชำราบ “บุ๋ม-ปนัดดา” เผยว่า มาเป็นอาสาสมัครลงพื้นที่อย่างจริงจัง ตลอดระยะเวลา 20 กว่าวันได้ส่งเงินส่งทีมมาช่วยเหลือตั้งแต่แรกมีน้องๆคอยรายงานสถานการณ์ตลอด นอกจากการช่วยเหลือคนแล้วจะช่วยเหลือสัตว์ด้วยวันนี้อยากมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ทหาร ใครหลายๆคนที่ลงพื้นที่ตั้งแต่แรกและไม่เคยออกกล้องไม่มีใครเคยเชิดชูเขา บุ๋มขอเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมและคอยให้กำลังใจพวกเขา

ห่วงสุขภาพจิต-อยู่ที่พักพิงนาน

ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่า ต้องขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจและข้าราชการพลเรือนทุกฝ่ายที่ช่วยกันทำงาน รัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องสุขภาพจิตใจของผู้ประสบภัยที่พักอยู่ในจุดพักพิงเป็นเวลานาน สำหรับสิ่งของบริจาคให้จังหวัดประสานท้องถิ่นเพื่อจัดสรรลงไปสู่ประชาชนที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาควบคู่กันไปในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว โดยให้ทุกตำบลจัดตั้งศูนย์ประเมินสถานการณ์สำรวจความเสียหายและความต้องการผู้ประสบอุทกภัยและรายงานให้อำเภอจังหวัดทราบทุกวัน เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง

ขอบคุณทหารมานอนเป็นเพื่อน

ส่วนที่จุดอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม วัดกุดคูณ เทศบาลนครอุบลราชธานี พล.ต.อรรถ สิงหัษฐิต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 มอบอาหารและน้ำดื่มให้กับชาวบ้านและกำลังพลทหารที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นเวรยามดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ประสบอุทกภัยในช่วงค่ำ พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ของประชาชนที่จุดอพยพที่ต้องอยู่อย่างลำบาก หลังจากช่วงนี้มีฝนตกช่วงกลางคืนติดต่อกันถึง 2 วัน นางสมพร ถาวรกุล อายุ 53 ปี เผยว่า ตั้งแต่น้ำท่วมบ้านมีทหารมาช่วยเหลือตั้งแต่การอพยพทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง ช่วยสร้างเพิงที่พัก นำอาหารแจกให้กินอิ่มทั้งสามมื้อ และรู้สึกอุ่นใจที่ทหารมานอนเป็นเพื่อน หากมีเหตุฉุกเฉินก็คอยให้ความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้สิ่งที่อยากได้คือที่นอนมุ้งและผ้าห่ม เพราะมีไม่พอกับผู้อพยพ อีกทั้งตอนนี้ฝนตกช่วงดึกอากาศจะหนาวเย็น จึงอยากขอผู้ใจบุญนำผ้าห่มมาให้ เนื่องจากคาดว่าจะต้องอยู่จุดอพยพอีกเป็นเดือนแน่นอน เนื่องจากน้ำลดช้าเฉลี่ยวันละ 10 ซม. แต่ตอนน้ำมากขึ้นวันละเป็นเมตร

เน้น ตร.ดูแลชีวิต–ทรัพย์สิน ปชช.

ส่วน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” มี พ.ต.อ.ธรรมจักร คงมลคล รอง ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี นำตำรวจและประชาชน 200 คนร่วมกิจกรรมก่อนลงพื้นที่ ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณศูนย์ที่พักพิงชั่วคราวหรือจุดอพยพถนนรอบเทศบาลเมืองวารินชำราบหน้าสถานีรถไฟอุบลราชธานี จากนั้น ลงเรือไปเยี่ยมชาวบ้านบริเวณบ้านกุดระงม หมู่ 3 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ ที่ถูกน้ำท่วม 1.5-2 เมตร พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า เน้นย้ำให้ตำรวจในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนใน ช่วงน้ำท่วมและน้ำลดคอยสอดส่องดูแลตรวจสอบบ้านเรือนที่ไม่มีเจ้าของบ้านอยู่ ให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดสืบสวนออกหาข่าวแก๊งมิจฉาชีพที่อาจจะก่อเหตุในช่วงนี้

นำอาหารให้สุนัขติดบนหลังคา

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ นำอาหารสุนัขและแมวขึ้นเรือออกไปให้ชุมชนต่างๆในพื้นที่ อ.วารินชำราบ และ อ.เมืองอุบลราชธานี หลังพบว่ามีสัตว์ติดอยู่ในบ้านเป็นจำนวนมากและกำลังขาดแคลนอาหาร นายเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผว่า ขณะนี้พบว่ายังมีหลายพื้นที่ใน อ.วารินชำราบ และ อ.เมืองอุบลราชธานี ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนอยู่ในระดับสูง ทำให้สุนัขและแมวยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านและตามบนหลังคาและมีอาหารไม่เพียงพอ จึงนำอาหารเม็ดและแบบกระป๋องพร้อมน้ำสะอาดใส่เรือให้สุนัขและแมว เพราะหากสัตว์เลี้ยงอดอาหารอาจทำให้เจ็บป่วยได้ รวมทั้งตรวจสุขภาพแต่ละตัวว่ายังมีสุขภาพแข็งแรงหรือไม่ ถ้าพบตัวไหนมีอาการเจ็บป่วยก็จะแจ้งให้ทีมสัตวแพทย์ในพื้นที่ทราบและเข้ามาตรวจสุขภาพหาแนวทางการรักษาต่อไป

8 ส.ส.กทม.พปชร.ไปช่วยยกทีม

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่โรงเรียนบ้านกุดระงม ต.บ้านบุ่งไหม อ.วารินชำราบ พบชาวบ้านกว่า 1,000 คน อพยพหนีน้ำท่วม ร.อ.ธรรมนัส และ น.ส.มนัญญา ลงเรือไปมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยบ้านปากกุดหวาน ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ เช่นเดียวกับนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.เขตมีนบุรี นำทีม ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 8 คนลงเรือไปมอบเครื่อง อุปโภคบริโภคและอาหารสดให้ประชาชนที่หนีน้ำอยู่ตามบ้านเรือนและตามศูนย์อพยพต่างๆ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

สลดกระบะฝ่าฝนตกคลอง 2 ศพ

ด้าน ร.ต.อ.พรชัย แจ่มเชื้อ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเวลา 00.30 น.วันที่ 21 ก.ย. เกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกคลอง เยื้องปั๊ม ปตท.ส.เขมราฐ ถนนสายอุบลราชธานี-ตระการพืชผล ต.ไร่น้อย ตรวจสอบพบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บย 3075 กาฬสินธุ์ พลิกตะแคงจมอยู่ในน้ำ ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 4 คน จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ และมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อนายวัชรพงค์ น้อยยุภา 24 ปี คนขับ และนายธนโชติ การตระภาพ อายุ 18 ปี สอบสวนนายวรกานต์ คะ-ตะวงศ์ 17 ปี ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ช่วงค่ำร่วมกับเพื่อนรวม 6 คน ออกจากบ้านใน อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี เพื่อมาหาข้าวกินข้างห้างบิ๊กซี สาขา อุบลราชธานี ขากลับมีฝนตกน้ำท่วมผิวถนนรถเสียหลักชนป้ายจราจรพลิกคว่ำตกคลองดังกล่าว

ร้อง “ฝายบิ๊กตู่” สร้างได้ไม่ถึงปีพัง

ที่ จ.กาฬสินธุ์ สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหายต่างๆ ล่าสุดพบฝายกั้นน้ำลำพะยัง บ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เกิดทรุดตัวพังทลายหลายจุด ทำให้ชาวบ้านผวากลัวว่าฝายกั้นน้ำอาจแตก ทั้งที่เพิ่งสร้างได้ไม่ถึงปี สอบถามชาวบ้านทราบว่าฝายแห่งนี้สร้างโดยสำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับนโยบายจากรัฐบาลเมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาตรวจราชการพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงให้สร้างฝายกั้นน้ำลำน้ำยังเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งจนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “ฝายบิ๊กตู่” แต่ผ่านมาไม่ถึงปีพบโครงสร้างฝายและผนังปูนเกิดแตกร้าว ก่อนหน้านี้ช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาฝายกั้นลำน้ำยังบ้านจอมทอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ ที่อยู่ห่างไป 2 กม. และเพิ่งก่อสร้างในช่วงเดียวกันเกิดทรุดตัวแตกร้าวเช่นเดียวกัน คาดว่าน่าจะเกิดปัญหาการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช. ปปท. และ สตง.มาตรวจสอบโดยด่วน

“ประภัตร” ชง 3 โครงการหลังน้ำลด

ที่หอประชุมเทศบาลตำบลยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปมอบถุงยังชีพ 1,000 ชุดให้กับผู้ประสบอุทกภัย จากนั้นไปดูจุดขุดเจาะถนนเพื่อเร่งระบายน้ำที่ยังท่วมนาข้าวพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ เสร็จแล้วไปตรวจน้ำท่วมที่บ้านหัวสะพาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ และมอบถุงยังชีพอีก 1,000 ชุด นายประภัตรเผยว่า มาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม หลังจากนี้จะทำอย่างไรที่จะให้ชาวบ้านมีรายได้หลังน้ำลดภายใน 120 วัน เช่นจัดทำ 3 โครงการคือส่งเสริมปลูกถั่วเขียว ประกันราคาที่ 30 บาท ใช้เวลา 70 วันก็ได้ขายแล้ว สองปลูกข้าวโพด 1 ล้านตัน 1 ล้านไร่ ได้ไร่ละ 1 ตัน โดยมีผู้รับซื้ออยู่แล้ว และโครงการโคขุน 1 ล้านตัว ชาวอีสานมีประสบการณ์เลี้ยงโคอยู่แล้ว โค 1 ล้านตัว โดยรัฐบาลมีเงินกู้ให้รายละสองแสนบาท รัฐบาลช่วยในเรื่องของดอกเบี้ยส่วนหนึ่ง

เร่งช่วยเหลือเกษตรกร 10 อำเภอ

ด้านนายสว่าง กาลพัฒน์ เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ประสบภัยจำนวน 11 อำเภอ 73 ตำบล 556 หมู่บ้าน เกษตรกรเดือดร้อน 19,527 ครัวเรือน พื้นที่ประสบภัย 149,305 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 119,454 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 80 ของพื้นที่ประสบภัย พื้นที่เสียหายส่วนใหญ่เป็นนาข้าวคิดเป็นร้อย 97 ส่วนที่เหลือร้อยละ 3 เป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง (1,864 ไร่), ยางพารา (356 ไร่), อ้อยโรงงาน (10 ไร่), ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (4 ไร่) และพืชอื่นๆ (186 ไร่) ทั้งนี้คณะกรรมการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดศรีสะเกษได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลืออุทกภัยแล้ว 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ยางชุมน้อย, กันทรารมย์, เบญจลักษ์, โนนคูณ, กันทรลักษ์, ราษีไศล, ศิลาลาด, น้ำเกลี้ยง, บึงบูรพ์ และเมืองศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีอำเภอที่มีพื้นที่ประสบภัย แต่ยังไม่ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือคือ อ.ขุนหาญ หลังจากนี้จะมีการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

น้ำลดปลาลอยตายเกลื่อนหนอง

เช้าวันเดียวกัน นายสิริศักดิ์ สะดวก อายุ 40 ปี ผู้ประสานงานเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน ลงพื้นที่ตรวจสอบหนองน้ำเลิงห้วยดางเดียวที่อยู่ติดกับลำน้ำชีพื้นที่กว่า 50 ไร่ บริเวณบ้านอีโก่ม ต.เทอดไทย อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งจากชาวบ้านพบปลาลอยตาย เกลื่อน สอบถามนายสมใจ จันทะบาล อายุ 70 ปี เผยว่า สังเกตเห็นปลาลอยอยู่ผิวน้ำเหมือนกับขาดออกซิเจนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งเช้าวันนี้พบปลาลอยตายจำนวนมาก มีทั้งปลาเกล็ดพวกปลาตะเพียน ปลาสร้อย และปลาเนื้ออ่อนพวกปลาสวายและปลาอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่กุ้งหอย สำหรับพื้นที่บริเวณนี้เพิ่งถูกน้ำท่วมหนัก ทำให้นาข้าวเสียหายทั้งหมด หลังน้ำลดพบปลาลอยตายเกลื่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดลงมาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากน้ำเน่าเสีย ชาวบ้านเลยพากันเก็บปลาไปทำปลาร้า

ฝนถล่มน้ำท่วมระยอง–อ่างทอง

ที่ จ.ระยอง เกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บ้านค่าย ได้รับผลกระทบน้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนนสายหนองมะปริง ต.ตาขัน ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. สวนผลไม้ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ส่วน อ.เมืองระยอง น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่เคยท่วมซ้ำซากเช่นศูนย์การค้า ถนนจันทอุดม แยกซูซูกิ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครระยองติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำ ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 5 อ่าง คืออ่างเก็บน้ำประแส อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำคลองระโอก ล่าสุดยังรับปริมาณน้ำได้อีกมาก ปัจจุบันมีน้ำไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ จ.อ่างทอง สายวันเดียวกันเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เมืองอ่างทอง นานกว่า 3 ชม. ทำให้น้ำระบายไม่ทันท่วมขังถนนหลายจุด รถสัญจรลำบาก

ห้ามลงเล่นน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ทำให้บริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อ.ศรีสวัสดิ์ และน้ำตกผาตาด ที่อยู่ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ ศร.4 (ผาตาด) อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากป่าต้นน้ำรุนแรงมาก น้ำกลายเป็นสีแดงขุ่นทั้ง 2 แห่ง จึงฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินไปเที่ยวน้ำตกได้ตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯคอยดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา

ผบ.ทบ.ให้บูรณาการหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังคงร่วมกับทุกภาคส่วนดูแลประชาชนที่ประสบอุทกภัย หลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่การฟื้นฟู พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กำชับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 2 และ 3 สนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ตามแนวทางที่นายกฯห่วงใยและมอบหมายให้ทุกส่วนราชการร่วมฟื้นฟูเยียวยาประชาชนอย่างดีที่สุด ผบ.ทบ.สั่งการเพิ่มเติมให้มณฑลทหารบกเป็นหน่วยหลักบูรณาการประสานกับจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการฟื้นฟูหลังน้ำลด อาทิ จัดชุดทำความสะอาดพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน จัดชุดแพทย์บริการด้านการแพทย์และให้ความรู้ในเรื่องโรคภัย

เตรียมเครื่องมือหนุนงานช่าง

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ล่าสุดศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์สนับสนุนงานช่างเพื่อฟื้นฟูบูรณะพื้นที่สาธารณะ อาทิ เครื่องมือหนักของทหารช่าง รถโกยตัก สะพานเครื่องหนุนมั่น (Modular Fast Bridge MFB) รถบรรทุกขนาดใหญ่ ชุดทหารช่างก่อสร้างรวมทั้งการเตรียมกำลังพลชุดช่าง เข้าสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการร่วมกิจกรรม (big cleaning) ทำความสะอาดฟื้นฟูสถานที่ต่างๆหลังน้ำลด ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของกลับเข้าที่พักอาศัย การดำเนินการด้านเวชกรรมป้องกัน และการใช้จุลินทรีย์ (EM ball) เพื่อบำบัดน้ำ ดูแลสุขาภิบาลป้องกันการแพร่กระจาย

นายกฯสั่ง กทม.ระบายน้ำท่วม

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยพี่น้องชาว กทม. สั่งการ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ให้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบนผิวการจราจร โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านเรือนที่พักประชาชนให้รวดเร็ว หลังมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ กทม. ขณะนี้ กทม.ประสานงานทุกส่วนราชการติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำรอระบาย ตรวจสอบการระบายน้ำประตูน้ำท่อระบายน้ำ เร่งอำนวยความสะดวกการจราจรประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจมีปัญหา และนายกฯสั่งให้รายงานสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ให้ทราบทุกวัน แม้ช่วงอยู่ระหว่างไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาวันที่ 21-27 ก.ย.

“สิระ” ฉะ“สุทิน”โพสต์ใส่ร้าย“บิ๊กตู่”

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหานายกฯสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานีว่า เป็นพฤติกรรมนักการเมืองน้ำเน่า เอาเรื่องน้ำท่วมมาสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้ตัวเอง อ้างพรรคเพื่อไทยไป จ.อุบลราชธานี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่เดือดร้อน แต่นายกฯไป จ.อุบลฯนำความเดือดร้อนไปให้ พร้อมติดแฮชแท็กเทวดาไปอุบลฯ โพสต์ภาพรื้อเต็นท์ประชาชนริมถนนออก และข้อความนายกฯมาเอาเต็นท์เราไป ทั้งที่ได้ชี้แจงแล้วว่าเส้นทางดังกล่าว ไม่ใช่เส้นทางที่นายกฯผ่าน ส่วนที่รื้อเต็นท์เป็นการบริหารจัดการภายในของจังหวัดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่นายสุทินกลับนำข้อมูลเท็จที่ชี้แจงไปแล้วกลับมาโพสต์ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อกล่าวหานายกฯแบบไร้ความรับผิดชอบทางการเมือง ต้องทบทวนตัวเองใหม่ เลิกใช้สถานการณ์น้ำท่วม สร้างข่าวขยะทางการเมือง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0