มินามิโนะ เล่นตรงไหนเข้ากับระบบ ”หงส์”?

แม้ยังไม่แถลงอย่างเป็นทางการและโอกาสล่มแบบ นาบิล เฟคีร์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีแต่ถ้าฟ้าไม่ถล่มดินไม่ทลาย ดีลสุดถูก 7.2 ล้านปอนด์ของ ทากูมิ มินามิโนะ น่าจะลงเอยไม่พลาดจากนี้โดยล่าสุดมีการยืนยันอย่างเป็นทางการของทวีตเตอร์ ซัวซ์บวร์ก มาเรียบร้อยแล้ว
หลายทีมจากบุนเดสลีกาซึ่งมักเป็นที่หากินของนักเตะจาก เกาหลี และ ญี่ปุ่น ให้ความสนใจ มินามิโนะ กันมากแต่ ลิเวอร์พูล ได้เปรียบตรงที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งทั้ง นาบิล เกอิต้า และ ซาดิโอ มาเน่ ก็เคยเป็นเด็กเก่าของแชมป์ลีก ออสเตรีย เช่นกัน
ซึ่งการที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ประจักษ์สายตากับฟอร์มของดาวเตะสารพัดประโยชน์ชาว ญี่ปุ่น ต่อหน้าต่อตาทั้ง 2 เกม รวมถึงข้อมูลจากแมวมองที่ส่งมาให้จึงไม่มีทางเลยที่ดีลนี้จะไม่เกิดขึ้น
แถมการที่ ยูฟ่า เปลี่ยนกฏ คัพไท ที่นักเตะลงเล่นในรายการบอลยุโรปกับทีมไหนแล้วสามารถเล่นให้ทีมใหม่ในรอบ น็อกเอาท์ได้เลยก็ยิ่งเป็นสารเร่งความอยากได้บวกกับมูลค่าในตลาดที่ถูกประเมินไว้ 20 ล้านปอนด์แต่ได้มาแค่ 7.2 ล้านปอนด์ จึงเป็นอะไรที่เพอร์เฟคเข้าไปอีก
แต่กระนั้นเดอะ ค็อป คงไม่สนใจแล้วว่าจะย้ายมาตอนไหนแต่คำถามคือจะให้เล่นตำแหน่งไหนถึงจะเข้ากับระบบ คล็อปป์ ที่ว่ากันว่าคนมาใหม่ต้องเรียนรู้นานพอสมควรกว่าจะปรับตัวได้
1. เล่นตรงไหน?
ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น เรามาเช็กก่อนว่า เพลย์เมคเกอร์ชาวญี่ปุ่นวัย 24 ปีเล่นสไตล์ไหน?
เคมีของ มินามิโนะ เข้ากับ “หงส์แดง” เป็นอย่างยิ่งเพราะเมื่อรับบทแดนกลาง หรือริมเส้น แกยุกยิกไล่บอล เพรสซิ่งกัดไม่ปล่อยแถมยามมีบอลแล้วโดนรุมจะเอาตัวรอดเก่ง ตีนไวหมุนตัวพลิกตัวยิ่งกว่าชิมแปนซี
เรียกว่าทั้ง 2 นัดที่ ลิเวอร์พูล เจอ ซัลซ์บวร์ก แข้งตัวรุกผู้นี้ป่วนจน เดอะ ค็อป ต้องค้นประวัติกันเลยทีเดียว
ด้วยความฟิตที่เกิน 100 ขยัน และมีเซนส์การจ่ายบอลทำให้ มินามิโนะ ถ้าปรับตัวได้อาจทำให้ นาบิล เกอิต้า หรือ อเล็กซ์ออกเลด เชมเบอร์เลน ต้องนั่งยาว และแน่นอน อดัล ลัลลาน่า คงต้องโบกมือลาทันทีที่จบฤดูกาลนี้
นอกจากแดนกลางแล้ว การเก็บบอลดีและตาไวทำให้ดาวเตะจาก โอซาก้า น่าจะเหมาะกับตำแหน่ง false 9 ของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง JK อาจมีทางเลือกทั้งพักแข้งแซมบ้า หรือสลับหน้ากลางกันแล้วแต่สะดวก
ในขณะเดียวกันการมาของ มินามิโนะ อาจทำให้ “หงส์แดง” มีการโรเตชั่น 3 แนวรุกถี่มากขึ้นกว่าเดิม
ภายใต้การทำทีมของ มาร์โก โรส อดีตบอส ซัลซ์บวร์ก เล่นในระบบ 4-4-2 แต่ตอนนี้ เจสซี่ มาร์ช เน้นไปที่ 4-2-2-2 ซึ่งตำแหน่งของ มินามิโนะ จะยืนตรงกลางคอยรับบอลจากกองหลังและเปลี่ยนเป็นรุกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเจาะตรงกลางและแทงให้ตัวรุกที่วิ่งพล่านหาช่อง ซึ่งแนวทางแบบนี้มันคือ “หงส์แดง” อีกสาขาหนึ่งก็ไม่ปาน

2. จะได้ลงตัวจริงเลยไหม?
จากประสบการณ์ และ ที่เราเห็นๆกันมา คล็อปป์ มักไม่ค่อยซื้อนักเตะระหว่างซีซั่น ยกเว้นตัวเทพจริงๆอย่างเช่น เวอร์กิล ฟานไดจค์ เพราะระบบที่บอส เยอรมัน แกวางไว้ค่อนข้างซับซ้อนต้องใช้เวลานัดแนะทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมทำให้ ปรีซีซั่น จึงเป็นอะไรที่เหมาะที่สุดสำหรับนักเตะหน้าใหม่
อย่างไรก็ตามด้วยค่าฉีกสัญญา และ หลายทีมรุมทึ้งทำให้ JK และทีมงานต้องรีบขยับดังนั้นตอบได้เลยว่า มินามิโนะ นั่งสำรองไปก่อน และภาวนาให้ทีมนำขาดไวๆ เราจึงจะได้เห็นแข้งแดนอุทิศอุทัยลงมาโชว์ลีลา ซึ่งหากส่อแววปรับตัวได้ไวก็อาจทำให้ JK เริ่มไว้ใจส่งลงตัวจริงในเกมบอลถ้วยซึ่งไม่รู้ถึงตอนนั้นรายการ เอฟเอ คัพ จะยังได้ไปต่อหรือไม่
แต่ด้วยการที่ดาวเตะผู้นี้เล่นได้ทั้งกลาง ริมเส้น และหน้า ก็ยิ่งเป็นแต้มต่อได้ลงสนามนับจากนี้จนจบฤดูกาลไม่น้อยแน่ๆ

3. เส้นทางก่อนมา ซัลซ์บวร์ก
มินามิโนะ เกิดที่โอซาก้า ประเทศ ญี่ปุ่น โดยเริ่มค้าแข้งกับ เซเรโซ่ โอซาก้า โดยเริ่มเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ประเดิมลงเล่นนัดแรกในปี 2012 ด้วยวัยเพียง 17 ปี
หลังจากนั้นปี 2015 กลางฤดูกาลก็ย้ายไป ซัลซ์บวร์ก ด้วยค่าตัว 720,000 ปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวปรับตัวได้อย่างรวดเร็วโดยยิงประตูตัวเลข 2 หลักใน 4 ฤดูกาลที่ย้ายมาค้าแข้งที่ ออสเตรีย เลยทีเดียว
4. ผลงานเด่น?
อย่างที่เกริ่นไว้ ผลงานยิงประตูโดดเด่นมาก โดยนับตั้งแต่ย้ายมา ซัลซ์บวร์ก แกยิงไปแล้ว 64 ประตูจากการลงสนาม 199 นัด และทำได้อีก 44 แอสซิสต์ ซึ่งที่สุดของแจ้เป็นซีซั่น 2016/17 และ 2018/19 ที่ทำได้ 14 ประตูทุกรายการ แต่ซีซั่นนี้ยังไม่จบกดไปแล้ว 8 จาก 20 เกม (แอสซิตส์ 8)
“หงส์แดง” อาจรับอนิสงฆ์การทำประตูตรงนี้ของ มินามิโนะ ที่มีค่าเฉลี่ยหาโอกาสยิงในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก 2.8 ครั้งต่อเกม และตัวเลขเดียวกันกับการเลี้ยงผ่านคู่แข่งต่อเกม
ด้วยวัยเพียง 24 ปี การลงเล่นในระดับสโมสรไปแล้ว 284 เกม และติดทีมชาติ ญี่ปุ่น 22 เกม (11 ประตู) ถือว่าโชกโชนไม่น้อยเลยทีเดียว

5.
ซัลซ์บวร์ก คิดอย่างไรกับ มินามิโนะ?
แน่นอนเพลย์เมคเกอร์จอมพลิ้วผู้นี้เป็นสมบัติล้ำค่าของแชมป์ลีก ออสเตรีย โดย คริสตอฟ ฟรอยด์ ผู้อำนวยการสโมสรได้กล่าวเอาไว้สั้นๆว่า
“เขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น และมีบุคคลิกที่เด่นโดด”
“สโมสรใหญ่ๆหลายๆทีมต่างเฝ้าจับตามองเขากันเป็นแถว และหากผมเป็นคนจากสโมสรนั้นๆผมไม่ลังเลเลยที่จะจับเขาเซ็นสัญญา”
“ทากูมิ พร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้นในเดือน มกราคมนี้”