เคยเจอมั้ยครับ เวลาที่มีคนถามเราว่า เพื่อนสนิทหรือแฟนเรานิสัยเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างเราสามารถตอบได้อย่างคล่องแคล่ว (ไม่ได้ตอบต่อหน้าแฟนนะครับ เพราะอาจเสียชีวิตได้)
แต่ในทางกลับกันถ้ามีคนถามเราว่า เราเป็นคนอย่างไร มีนิสัยอะไรที่ดีหรือไม่ดีบ้าง มีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร เราอาจจะใช้เวลาคิดนานกว่าและตอบได้อย่างไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ และมีหลายๆ คนตอบว่าไม่รู้สิว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร ต้องให้คนใกล้ตัวบอกจะดีกว่า
แปลกนะครับเราอยู่กับตัวเองมาตั้งแต่เกิดแต่กลับกลายเป็นว่าคนอื่นรู้จักเราดีมากกว่าเรารู้จักตัวเอง อาจเป็นเพราะธรรมชาติสร้างตามนุษย์ให้มองออกไปด้านนอก เลยทำให้เรามองเห็นเรื่องคนอื่นชัดเจนมากกว่าเรื่องของตัวเอง เราอาจจะใช้เวลาคิดนานกว่าและตอบได้อย่างไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ และมีหลายๆ คนตอบว่าไม่รู้สิว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร ต้องให้คนใกล้ตัวบอกจะดีกว่า
โลกโซเชียลในยุคปัจจุบันยิ่งสนับสนุนให้เรามองแต่ชีวิตคนอื่น โดยที่ไม่ค่อยได้มองย้อนเข้ามาภายในจิตใจของตัวเราเอง ผมก็เป็นครับ ว่างๆก็ไถหน้าจอโทรศัพท์เพลินๆ ไปอินสตาแกรมบ้าง เฟซบุ๊กบ้าง แต่ถ้าอยากให้การมองภายนอกเกิดประโยชน์ก็น่าจะตรวจตราความรู้สึกภายในควบคู่ไปด้วย
เช่น เกิดเห็นชีวิตใครในโลกโซเชียลที่เรารู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเรามีการสังเกตความรู้สึกภายในควบคู่ไปด้วย เราจะเห็นว่าจริงๆ แล้ว ใจเรา เบาหรือหนัก ขุ่นหรือใส นั่นคือเราได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจภายในและเรียนรู้ตัวเอง เห็นนิสัยของเราว่าเป็นคน หงุดหงิดง่าย ขี้กังวล หรือ เป็นคนชอบเปรียบเทียบ ขี้อิจฉา เห็นสาเหตุที่ทำให้ใจไม่เบาสบาย
พอฝึกสำรวจจิตใจตัวเองบ่อยครั้งเข้า เราจะรู้ทันความรู้สึกเร็วขึ้น การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกตัวเองก็จะดีขึ้น
ถ้าการรับรู้ภายนอกเป็นการหาข้อมูลใส่ตัวเพื่อเพิ่มความรู้ เพิ่ม IQ (ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา) การรับรู้ภายใน ก็เป็นการพัฒนา EQ (ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น และจัดการอารมณ์ต่างๆได้) ที่จะทำให้คุณทุกข์น้อยลง มีความสุขมากขึ้น
ตอนนี้ภายในของเรามี เชื้อของความ โกรธ เกลียด โลภ หลง อยู่มากน้อยแค่ไหน
ถ้าคุณผู้อ่านไม่อยากปล่อยทิ้งไว้จนป่วยใจ
หมั่นตรวจภายในกันเถอะครับ
