มันมากับความอ้วน ! “5 โรคร้าย” ที่คนอ้วนต้องระวัง!
ความอวบอ้วนนี่ของแถมมันเยอะจริงๆนอกจากจะหาเสื้อผ้ายากกว่าคนทั่วไปขาเบียดแล้ว ก็ยังจะมีโรคที่เป็นอุปสรรคชีวิตตามมาอีกด้วยทั้งนี้ในบทความเราจะไม่กล่าวถึงโรคที่คุณน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วอย่างเบาหวานความดันแต่จะเตือนภัยถึงโรคที่คุณอาจคาดไม่ถึงที่มาพร้อมความอ้วนและกวนใจคุณอย่างแน่นอน
ระบบทางเดินหายใจเปลี่ยนไปแน่ๆ
การอ้วนลงพุงนั้นเท่ากับว่าเรามีไขมันหน้าท้องสะสมมาก จะทำให้การทำงานของปอดลดลง อัตราการหายใจลดลง ซึ่งถ้าเป็นไปนาน ๆ จะส่งผลต่อเนื่องให้ทางเดินหายใจหดแคบลง ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจตามมา
อีกอันตรายที่มากับทางเดินหายใจที่ตีบตัน คือเมื่อเรามีน้ำหนักตัวเกิน ไขมันสะสมในผนังลำคอมากขึ้น เมื่อผนังลำคอหนาช่องว่างในลำคอก็หดสั้นลงไปอีก ช่องลำคอจึงแคบลง เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ นำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่การนอนกรนธรรมดาแต่อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
เพิ่มความเสี่ยงกรดไหลย้อน
เพราะหนุ่มสาวสายหมีมีไขมันในท้องช่องหนา ความดันในช่องท้องและความดันในกระเพาะอาหารก็จะสูงขึ้น เป็นสาเหตุให้กรดและอาหารที่กำลังย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหารได้ง่าย จึงมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนได้มากกว่าคนที่น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
นอกจากนี้สายหมีบางคนอาจจะชอบกินอาหารมื้อดึกแล้วนอนทันที นั่นก็เป็นสาเหตุให้เกิดกรดไหลย้อนได้เช่นเดียวกัน
ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานแย่ลง
ข้อนี้จะพบมากกว่าในผู้หญิง สาเหตุมาจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่คอยพยุงท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะหย่อนยานไม่แข็งแรง อาจเกิดจากความผิดปกติอย่างอื่นก็ได้ แต่ก็พบมากในคนที่น้ำหนักตัวเยอะด้วยเช่นกัน
อาการที่เกิดขึ้นก็จะครอบคลุมตั้งแต่การอั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ และถ้าหนัก ๆ เข้าเมื่อไอ จาม จะเกิดอาการปัสสาวะเล็ด เพราะอวัยวะที่พยุงท่อปัสสาวะทำงานได้ไม่ดีนั่นเอง
ขาดสมดุลฮอร์โมน
ข้อนี้พบได้ทั้ง 2 เพศ ในฝ่ายชายก็จะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเร็ว หงุดหงิดง่าย ขณะที่ฝ่ายหญิง ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ปกตินั้นประจำเดือนอาจจะมาไม่ปกติ บางคนมีอาการประจำเดือนหายไปเลย หลาย ๆ เดือน ส่งผลให้ปัญหาเวลาอยากจะมีบุตรได้
สาเหตุก็เพราะในร่างกายของสายหมีนั้น ผิวหนังสามารถเปลี่ยนเซลล์ไขมันไปเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน(ฮอร์โมนเพศหญิงได้) ทำให้ปริมาณฮอร์โมนผิดอัตราส่วนจากเดิมที่ร่างกายมี ซึ่งจะกระทบกับการหลั่งฮอร์โมนอื่น ๆ ทำให้ระบบฮอร์โมนทำงานไม่ปกติ
กระทบการทำงานของสมอง
เพราะหลอดเลือดของเรานั้นทำหน้าที่สำคัญในการลำเลียงเลือดไปเลี้ยงสมอง ดังนั้นเมื่อมีภาวะน้ำหนักเกิน หลอดเลือดจะมีพื้นที่เล็กลง การส่งเลือดไปเลี้ยงสมองก็จะน้อยลง ติดขัดมากขึ้น ผลที่ตามมาคือความไม่กระปรี้กระเปร่าและขาดสมาธิ ในบางรายถ้าเป็นมาก ๆ อารมณ์อาจฉุนเฉียว นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ยืนยันว่า ยิ่งอ้วนลงพุงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อเลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงเซลล์สมองไม่สะดวก สมองก็ขาดออกซิเจน เมื่อไม่มีทั้งออกซิเจนและเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์จำนวนมากอย่างเพียงพอ เซลล์สมองก็จะเสื่อมและตาย มีโอกาสเป็นอัลไซเมอร์ได้ในท้ายที่สุด
ในเมื่อความอ้วนกับปัญหาสุขภาพนั้นมาพ่วงกันเป็นแพคเกจแบบนี้ คงเป็นหน้าที่ของคุณแล้วล่ะ ว่าจะใจแข็งพอที่จะค่อย ๆ จัดการตัวเองให้ตัดขาดจากสาเหตุความอ้วนได้ไหม
จะเลือกความสุขชั่วครู่ชั่วคราวที่ได้กิน ที่ได้นอนดูทีวีไม่ออกกำลังกายเลย หรือจะเลือกความสุขที่ร่างกายแข็งแรงได้อยู่กับคนที่รักไปนาน ๆ อย่าลืมว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐเสมอ