การล่าสัตว์ ในยุคปัจจุบันมีข้อกำหนดทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ส่งผลให้เผ่าต่างๆหรือบางประเทศที่ล่าสัตว์ใหญ่ หรือสัตว์สงวนของบางประเทศ ต้องเลิกการล่าสัตว์เหล่านั้นไป และมีการอนุรักษ์มากขึ้น แต่ก็เข้าใจได้อย่างหนึ่งว่า หลายที่ที่ยังคงมีการล่าสัตว์ใหญ่ เป็นวิถีชีวิตที่สืบสานมาอย่างยาวนาน จากรุ่นสู่รุ่นจนปัจจุบัน เช่นเดียวกับมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ล่าสุดมีการค้นพบว่า มีหลุมดักช้างแมมมอธ เพื่อให้คนยุคนั้นนำมาทำเป็นอาหารและข้าวของเครื่องใช้
ที่กรีนแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยังคงมีชาวเอสกิโม ยังคงใช้ชีวิตไปกับการล่าแมวน้ำ, หมีขาว และวาฬ แม้ว่าหลายฝ่ายทั่วโลกในตอนนี้อาจไม่สนับสนุนมากนัก แต่นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าเลยว่านั่นเป็นวิถีชีวิตของพวกเขามาตั้งแต่ก่อนเก่าจริงๆ และหากพูดถึงวิถีชีวิตการล่าสัตว์เพื่อประกอบเป็นอาหารเลี้ยงชีพและทำเป็นเครื่องใช้สอยนั้นไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นมาในยุคของเรา แต่มีการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น คือ หลุมดักช้างแมมมอธ ที่มนุษย์ยุคโบราณล่ามาเพื่อเป็นอาหาร ถูกค้นพบหลุมดักนี้ทางตอนเหนือของแม็กซิโก เมืองตุลตีเป็ก พบว่าหลุมนี้มีอายุนานมากกว่า 15,000 ปี จากนั้นได้พบฟอสซิลกระดูกที่ยังคงเหลือซากให้เห็นราว 800 ชิ้น นักมานุษวิทยาคาดว่านี่คือซากกระดูกของแมมมอธกว่า 14 ตัว
หลุมดักช้างแมมมอธนี้มีความลึกของหลุมกว่า 1 เมตร 70 เซน กว้าง 25 เมตร และแมมมอธเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดหนึ่งที่มีการพบว่ากลัวไฟ จึงทำให้วิธีการล่าของมนุษย์โบราณนั้น นำคบเพลิง และท่อนไม้เป็นอาวุธสังหาร ต้อนให้แมมมอธกลัวเพื่อไปตกหลุมกับดัก ก่อนการค้นพบมีการคาดเดาว่าในอดีตก่อนเก่านั้นมนุษย์ยุคโบราณคงทำได้เพียงไล่ต้อนแมมอธเพื่อให้มันตกใจวิ่งตกเหวไปเอง หรือรอให้มันติดโคลนดูดจากนั้นก็รอให้มันตายไปเอง นี่เป็นการคาดเดาด้วยความที่ไม่มีข้อมูลยืนยันโดยตรงว่ามนุษย์ยุคนั้นจะมีวิธีการและกับดักเฉพาะ เพื่อการล่าแมมมอธ และนี่เป็นการขุดค้นพบหลุมกับดักเพียง 2 หลุมเท่านั้น เพราะบริเวณที่ถูกพบนั้นคาดว่ามีแมมมอธอยู่กว่า 6 โขลงด้วยกัน หากมีการขุดเพิ่มอีก เป็นไปได้ว่าจะพบหลุมมากขึ้น
ความฉงนของการค้นพบครั้งนี้
1.มีการระบุไว้ว่ามีเรื่องแปลกน่าคิดตามอยู่ คือการค้นพบซากแมมมอธเหล่านี้ ทุกตัวจะไม่มีร่องรอยของชิ้นส่วนกระดูกสะบักซ้ายและเรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรู้ได้ว่าเป็นเพราะอะไร
2.นอกเหนือจากแมมมอธแล้ว ในพื้นที่ใกล้เคียงกันยังพบกระดูกชิ้นส่วนของม้าและอูฐโบราณ ที่สูญพันธุ์ไปนานแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/news/world-latin-america-50330717
