เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์เศษ ฟุตบอลไทยลีก 2020 ก็จะกลับมาลงฟาดแข้งกันอีกครั้ง โดยจะเริ่มจากฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ ระหว่าง สิงห์เชียงราย แชมป์ไทยลีก กับ การท่าเรือ เอฟซี แชมป์เอฟเอ คัพ ที่จะลงเตะกันวันที่ 2 ก.พ.นี้ นี่คือสัญญานที่บอกว่า ฟุตบอลไทย ฤดูกาลใหม่กำลังจะมาแล้ว
ฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2020 ในปีนี้ เป็นการโคจรมาพบกันของ "กว่างโซ้งมหาภัย" สิงห์ เชียงราย แชมป์ไทยลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พบกับ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี แชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยเกมในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะเล่นกันที่เอสซีจี สเตเดี้ยม ในเวลา 19.00 น.
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองทีมก็เพิ่งจะแถลงความพร้อมกันไป ต่างฝ่าต่างมั่นใจว่าจะประเดิมคว้าแชมป์รายการนี้เพื่อเป็นการเปิดศักราชใหม่ ก่อนไปชิงชัยกันในไทยลีก 2020
พูดถึงความพร้อมของทั้งสองทีม ในฤดูกาลใหม่นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงทีมค่อนข้างเยอะ ทางฝั่งของแชมป์ไทยลีก เรื่องนักเตะอาจจะไม่ได้เสริมทัพเยอะ หรือปล่อยนักเตะออกไปจากทีมมากนัก แกนหลักยังคงอยู่ทั้ง ศิวกรณ์ เตียตระกูล, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, บรินเนอร์ เอ็นริเก้ และ บิลล์ โรซิมาร์ ส่วนที่ย้ายออกไปและเป็นดาวดังของทีมก็มีแค่ วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ ที่ไปยู่กับพีที ประจวบ
แต่การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของกว่างโซ้ง ก็คือเฮดโค้ช ที่เลือกใช้บริการกุนซือจากแดนปลาดิบ อย่าง ทากิ มาซามิ ซึ่งต้องรอดูฝีมือว่าจะรักษามาตรฐานของแชมป์ไทยลีก 2019 ไว้ได้หรือไม่
ส่วนผู้ท้าชิงอย่างสิงห์เจ้าท่า เรื่องของทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ยังคงเป็น "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ กับ "โค้ชอู๊ด" สราวุฒิ ตรีพันธ์ ที่ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องตัวผู้เล่นที่แม้ส่วนใหญ่จะเป็นแกนหลักชุดเดิมๆ อย่าง ธนบูรณ์, โก ซุล กิ, ปกรณ์, บดินทร์, ซัวเรซ อะไรพวกนี้ แต่นักเตะที่ได้มาใหม่ก็เยอะเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการได้ เฮแบร์ตี้ กับ อดิศักดิ์ ไกรษร เข้ามา ถือว่าน่าติดตาม
ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้เห็นฟอร์มการท่าเรือ ในแมตช์ทางการของรอบคัดเลือก เอเอฟซี ชปล.แล้ว เรื่องทรงบอลยังน่ากลัวเหมือนเดิม แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ และต้องปรับอีกพอสมควร โดยเฉพาะจังหวะของตี้ กับเพื่อนๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองทีมก็ได้ลองทีมกันมาบ้างแล้วในศึกปรีซีซั่น ของเครื่องดื่มยี่ห้อนึง ซึ่งมันก็ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ทั้งคู่จะได้มาลองเชิงกันก่อนในรอบรองชนะเลิศของศึกปรีซีซั่นดังกล่าว ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองทีมจะจัดตัวแบบเอาจริงแค่ไหน เพราะต้องมาเจอกันอีกในวันที่ 2 ก.พ.นี้ แต่ก็คงเต็มที่ทั้งสองเกมแน่นอน นอกจากศักดิ์ศรีแล้ว มันก็มีเรื่องของเงินรางวัลเข้ามาล่อตาล่อใจด้วย
แฟนๆ ทั้งสองทีมก็ตามลุ้นตามเชียร์ก็แล้วกันว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้ก่อนเปิดฤดูกาล 2020
หลังจบฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ ชปค.2020 และก่อนที่ฟุตบอลไทยลีก จะเปิดฤดูกาล อีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนในวงการกำลังใจจดใจจ่อนั่นก็คือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.พ.นี้
ซึ่งจากสถานการณ์ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าจะเหลือผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกสมาคมครั้งนี้แค่ 2 คน หนึ่งคือ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เจ้าของตำแหน่ง
อีกหนึ่งคือ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ส่งเข้าประกวด ซึ่งก็ขนทีมงานที่เคยร่วมงานกับ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี มาอยู่ในทีมสภากรรมการกันหลายคน
นั่นอาจเป็นการแสดงให้เห็นว่า "บังยี" น่าจะยกธงขาวแล้ว หลังถูกถอดถอนชื่อผู้สมัคร เนื่องจากคุณสมบัติไม่พร้อม แม้จะมีการเรียกร้องให้ กกท.เข้ามาช่วย แต่ดูแล้วคงช่วยอะไรไม่ได้
การเลือกตั้งก็คงจะเหลือแค่ 2 คนดังกล่าว ซึ่งหลายฝ่ายก็มองว่าเจ้าของตำแหน่งเดิมก็มีภาษีสูงกว่า และน่าจะเข้าวินแบบนอนมาแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องการเมืองแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ รอติดตามกันเอาเองละกันครับว่าจะเป็นอย่างไร ใครจะได้นั่งเก้าอี้นายก ส.บอล เป็นคนต่อไป
จากนั้นเมื่อเราได้นายกสมาคมคนใหม่ อีก 2 วัน ฟุตบอลไทยลีก 2020 ก็จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีโปรแกรมนัดเปิดสนามดังนี้
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563
20.00 น. สมุทรปราการ ซิตี้ พบ สิงห์ เชียงราย สนามสมุทรปราการ สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
17.45 น. ทรู แบงค็อก พบ พีที ประจวบ สนามทรู สเตเดี้ยม
18.00 น. สุพรรณบุรี เอฟซี พบ สุโขทัย เอฟซี สนามสุพรรณบุรี สเตเดี้ยม
19.00 น. บีจี ปทุม พบ เอสซีจี เมืองทอง สนามลีโอ สเตเดี้ยม
20.00 น. การท่าเรือ เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า สนามแพท สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563
18.00 น. โปลิศ เทโร เอฟซี พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สนามบุณยะจินดา
18.00 น. ราชบุรี มิตรผล พบ ตราด เอฟซี สนามมิตรผล สเตเดี้ยม
19.00 น. ชลบุรี เอฟซี พบ ระยอง เอฟซี สนามชลบุรี สเตเดี้ยม
รอติดตามฟุตบอลไทย ฉบับปี 2020 กันนะครับ รับรองมันส์สะเด่าแน่นอน สวัสดีครับ
