โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ฟิตได้ แต่ต้องหรูด้วย : 5 อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาแพงที่สุดในโลก

Main Stand

อัพเดต 04 เม.ย. 2563 เวลา 18.10 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 17.00 น. • เพรียวพันธ์​ แสน​ลาวัณย์​

สำหรับในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านเพราะสถานการณ์ COVID-19 นี้ ใครที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านก็ถือว่าโชคดี และเป็นโอกาสดีที่จะได้นำมันมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าราคาเสียที หลังจากปล่อยให้แปรสภาพไปเป็นราวตากผ้าหรือทิ้งร้างจนฝุ่นจับมาเป็นเวลานาน เนื่องจากราคาของอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ใช่เล่นๆ 

 

อย่างไรก็ตามสำหรับบางคนอุปกรณ์ออกกำลังกายธรรมดาที่ว่าราคาสูงแล้วนั้นยังดูเหมือนว่าจะแพงไม่พอ มันต้องหรูหรายิ่งกว่านั้น ทำให้เราจึงมีโอกาสได้เห็นอุปกรณ์ออกกำลังกายราคาสูงลิบออกมาวางจำหน่ายอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ดังนั้นในครั้งนี้ Main Stand จึงจะมาพูดถึง 5 อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาแพงที่สุดในโลก แต่ละชิ้นจะเป็นอะไร และมีราคาแพงแค่ไหน ติดตามได้ที่นี่

 

5. Quick Gym Range of Motion (ROM) Machine

ราคา: 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.5 แสนบาท

Photo : www.midweek.com

ถึงแม้หน้าตาจะดูธรรมดา แต่ด้วยสรรพคุณแสนพิเศษของมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทำให้ Quick Gym Range of Motion (ROM) Machine เครื่องนี้มีราคาสูงเกือบครึ่งล้านบาท เนื่องจากทีมผู้สร้างได้ใช้เวลาหลายปีเพื่อทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้เกิดขึ้นได้จริง โดยความพิเศษของมันก็คือการที่ออกกำลังกายด้วยเครื่องนี้เพียง 4 นาที ระบบของร่างกายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการเต้นของหัวใจ การทำงานของกล้ามเนื้อ การเผาผลาญไขมันจะเหมือนกับการออกกำลังกายคาร์ดิโอแบบฟูลคอร์สเลยทีเดียว

นอกจากนั้นในเรื่องของการตลาดผู้ผลิต Quick Gym Range of Motion (ROM) Machine ก็ยังทุ่มทุนในการดึงนักแสดงชื่อดังอย่าง ทอม ครูส (Tom Cruise) และพิธีกรรายการ Late Show แห่งยุคอย่าง จิมมี่ คิมเมล (Jimmy Kimmel) มาเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย

 

4. Hypoxi Trainers

ราคา: 52,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท

Photo : absolutely.london

Hypoxi Trainers คืออุปกรณ์ออกกำลังกายที่พัฒนาและออกแบบโดย ด็อกเตอร์ เอ็กเกอร์ นอร์เบิร์ต (Egger Norbert) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสรีระมนุษย์จากประเทศเยอรมัน โดยตัวเครื่องนั้นจะมีลักษณะคล้ายอุโมงค์เล็กๆ ให้ผู้ใช้สามารถทิ้งตัวนอนลงไปข้างในได้ จากนั้นเครื่อง Hypoxi Trainers ก็จะทำการสแกนและวิเคราะห์โครงสร้างร่างกาย ชั้นไขมัน โดยละเอียด ก่อนที่จะปล่อยลมพร้อมการสั่นในระดับที่เหมาะสมที่สุดออกมาเพื่อทำให้กล้ามเนื้อมีความกระชับขึ้น รวมถึงการสลายชั้นไขมัน

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนั้นทำให้การออกกำลังกายด้วย Hypoxi Trainers เพียง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ จะมีผลเท่ากับการออกกำลังกายในโรงยิม 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 1-2 ชั่วโมงเป็นระยะเวลาครึ่งปีเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ถึงแม้ราคาของ Hypoxi Trainers จะสูงลิบ แต่มันก็ยังขายดีแบบเทน้ำเทท่า โดยในปัจจุบันมีเครื่อง Hypoxi Trainers กระจายอยู่ตามฟิตเนสระดับพรีเมี่ยมกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

 

3. VibroGym Diamond

ราคา: 69,190 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2 ล้านบาท

Photo : wellatl.com

สำหรับเจ้าเครื่องออกกำลังกายหน้าตาคุ้นเคยแต่ส่องประกายระยิบระยับเครื่องนี้ แท้จริงแล้วมันก็ไม่ต่างกับเครื่องสั่นสลายไขมันโดยทั่วไป โดยวิธีใช้ก็แสนเรียบง่ายที่ทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว นั่นคือแค่ไปยืนบนแท่น เกาะไว้ให้มั่น แล้วก็เปิดสวิช เท่านี้ก็เรียบร้อย 

ความพิเศษอย่างเดียวของมันในแง่การใช้งานคือการที่ VibroGym ออกแบบเทคโนโลยีการสั่นรูปแบบใหม่มาทำให้มันได้ผลเร็วกว่าเครื่องทั่วไปประมาณ 60% แต่สิ่งที่ทำให้ VibroGym Diamond มีราคาสูงเกือบ 2 ล้านบาทก็เพราะการประดับตกแต่งของมัน ที่ทั้งตัวเครื่องเปล่งประกายด้วยคริสตัลจาก Swarovski กว่า 65,000 ชิ้น เท่านั้นยังไม่พอยังมีการเพิ่มไวโบรยิมหินสีผักตบชวาเข้าไปอีก 600 ชิ้น 

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าในแง่ของการเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายมันอาจจะธรรมดา แต่ VibroGym Diamond นั้นเลอค่าสำหรับการเป็นของตกแต่งบ้านเสียมากกว่า

 

2. Hock Gold lofts 18-carat Golden Dumbbells

ราคา: 108,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท

Photo : lux-exchange.com

ดัมเบลที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะในส่วนของด้ามจับนั้นผลิตจากไม้สักชั้นดีที่หายากสุดๆ และในส่วนของตัวถ่วงน้ำหนักก็ส่องสว่างด้วยทองคำแท้น้ำหนัก 18 กะรัต ผ่านขั้นตอนกรรมวิธีการทำอย่างประณีตจนออกมาแวววาวหรูหราเกินใคร โดยดัมเบลทองคำชิ้นนี้เป็นผลงานการผลิตของ Hock บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ชื่อดังจากประเทศเยอรมัน

 

1. Punching Bag 

ราคา: 175,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5.3 ล้านบาท 

Photo : www.sportbuzzbusiness.fr

แค่เห็นภายนอกก็คงพอจะรู้แล้วว่ากระสอบทรายกระสอบนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นกระสอบทรายที่แบรนด์แฟชั่นสุดหรูอย่าง Louis Vuitton รังสรรค์ขึ้นมา แถมยังเป็นฝีมือการออกแบบของสุดยอดดีไซนเนอร์ในตำนานผู้ล่วงลับอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) อีกด้วย ดังนั้นในเรื่องของคุณภาพวัสดุที่นำมาผลิตย่อมไม่ต้องพูดถึง ทุกรายละเอียดเกิดจากการถักเย็บและหนังคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม 

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กระสอบทรายธรรมดาๆ ใบนี้พร้อมชุดถุงมือชกมวย และที่วางเสื่อ จะมีราคาเทียบเท่ารถสปอร์ต 2 ประตูจากค่าย Mercedes-Benz และ BMW

และนี่ก็คือ 5 อันดับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีราคาแพงที่สุดในโลก มาถึงตรงนี้เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าสุดท้ายเรามีเงินซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จริงๆ มันจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจมากขึ้นในการลุกไปออกกำลังกายหรือเปล่า แต่ตอนนี้ขอตัวไปวิดพื้นกระโดดตบตัวเปล่าก่อนก็แล้วกัน

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.therichest.com/most-expensive/the-most-expensive-fitness-equipment-in-the-world/
https://successstory.com/spendit/most-expensive-fitness-equipments
https://www.mostfamouslist.com/top-10-most-expensive-fitness-equipments-in-the-world/
https://www.uberpanache.com/the-most-outrageously-expensive-fitness-equipments-in-the-world-fbacb2e3

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0