ฟิตเปรี๊ยะ! เบเบ้ ปลื้มปริ่ม กล้ามเนื้อทุกมัดเป็นของมีค่า ผู้หญิงออกกำลังกายมีเสน่ห์ (คลิป)

ฟิตเปรี๊ยะ! เบเบ้ ปลื้มปริ่ม กล้ามเนื้อทุกมัดเป็นของมีค่า ผู้หญิงออกกำลังกายมีเสน่ห์

ฟิตเปรี๊ยะ ด้วยความตัวเล็กกระทัดรัด  หน้าตาน่ารัก ประกอบกับความสามารถด้านการร้อง การเต้น และการแสดง “ธันย์ชนก ฤทธินาคา” หรือรู้จักกันดีในนาม “เบเบ้” เน็ตไอดอลที่ถ่ายแบบนิตยสารวัยรุ่น แล้วเข้าสู่งวงการบันเทิง ขึ้นแท่นเป็นศิลปินนักร้องนักแสดง

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอสร้างความฮือฮาด้วยบทบาทอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง แล้วหักอกหนุ่มๆ ทั่วประเทศ ด้วยการสละโลด เข้าประตูวิวาห์กับนักธุรกิจนามสกุลดัง “บูม-สุธีร์ บวรวณิชย์”

ยิ่งกว่านั้น ข่าวความเคลื่อนไหวของเธอไม่เคยเลือนหาย ทั้งที่วัยล่วงเลย 30 ไปหลายปีพอสมควร ศิลปินสาวหน้าเด็กคนนี้กลับแซ่บขึ้น เป๊ะทั้งหนังหน้าและรูปร่าง ลำพังหุ่นที่ไม่อ้วนอยู่แล้ว กลายเป็นกระชับได้ทรวดทรงขึ้น แถมกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัดๆ สวยอินเตอร์ กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลสายฟิตเนส หรือผู้นำด้านการออกกำลังกายตัวแม่

เตรียมแต่งงาน จูงใจเข้าฟิตเนส

“แรกๆ โยคะร้อน เค้าว่าดี ก็ไปลอง โยคะฟลาย เค้าว่าดี ก็ไปลอง อ่ะ ตอนนี้เค้าฮิตต่อยมวย ก็ไปลอง แทรมโพลีน (trampoline) ก็ไปลอง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ มากกว่า คือ เวลาว่าง เราจะหากิจกรรม อยากหาอะไรทำ เราก็ไปเข้าคลาส ไปโน่นไปนี่ ก็คือ เป็นคนที่ชอบขยับตัวตลอดเวลา แค่ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องการออกกำลังกายจริงจัง

จุดที่เริ่มให้เราเริ่มเข้ายิม จ้างเทรนเนอร์เลยก็คือ แต่งงานค่ะ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว จูงมือกับแฟนไปจ้างเทรนเนอร์ และก็ไปออกกำลังกายด้วยกัน

เนื่องจากว่าเตรียมตัวที่จะไปเข้าพิธีแต่งงาน เรามีเวลาแค่ 6 เดือน

6 เดือนนั้นมาทุกวันเลย เช้าตื่นมาอย่างแรก ต้องมายิม เสร็จเที่ยงปุ๊บก็ไปใช้ชีวิตอะไรของเรา ก็จะมาเรื่อยๆ พอ 6 เดือนปุ๊บ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ถ้าเราทำต่อเนื่องทุกๆ วันมา 6 เดือน ยังไงมันก็ต้องเปลี่ยนนิสัย มันก็เลยทำให้เราติดค่ะ”

ติดเข้ายิมทุกวัน

“ทีนี้พอเราเริ่มออกทุกๆ วัน มันก็เริ่มเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเรา จนเราเริ่มรู้สึก ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเรารักตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าเราพอใจในตัวเองมากขึ้น และก็อยากจะปรับปรุงตัวเองค่ะ ชีวิตต่างๆ ก็เปลี่ยนไปจากการออกกำลังกายในช่วงนั้น

ทุกวันนี้ก็ติดออกกำลังกายวัน สมมุติมีงานสัก 9 โมง จะตื่นมาวิ่งก่อน ตื่นตี 5 ตื่น 6 โมงเช้า เพื่อจะมาวิ่ง ประมาณ 30-45 นาที แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน หรือทำงานเช้าถึงบ่าย ตอนเย็นก็กลับมาออกกำลังกายได้

แต่ถ้าวันไหนงานเยอะตั้งแต่เช้า-ตีห้าจนถึงกลางคืน อันนั้นก็ไม่ออก เพราะคิดว่าเราใช้พลังงานไปเยอะกับการทำงานแล้ว”

ไปเที่ยวคือ เปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกาย

“ใช่ เบเพิ่งไปบาหลีมา ก็ไปเที่ยวออกกำลังกายเหมือนกัน หนูรู้สึกว่าการพักผ่อนของเราคือ การได้ทำอะไรในสิ่งที่เราเอนจอยกับมัน ที่เรามีความสุข ไม่ใช่ว่าพักผ่อนต้องนอนอยู่เฉยๆ แบบกินป๊อบคอร์น ดูหนัง บางคนอาจรู้สึกว่าอันนั้นคือ การพักผ่อน แต่ของเบ อยากทำอะไรก็ได้ที่มันมีความสุข ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ไม่ต้องคิดเรื่องงาน คิดเรื่องคนนั้นคนนี้ ได้ทำสิ่งที่เรารัก**

ที่บาหลี มีชาวต่างชาติมาจากฟิลปปินส์ มาจากสิงคโปร์ ฯลฯ เราก็ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน ยูว์ออกกำลังกายตั้งแต่เมื่อไร เป็นการได้ฝึกทักษะเข้าหาคนด้วย และได้เพื่อนใหม่”

อบรมสำเร็จเป็นเทรนเนอร์ เพื่อตอบคำถามผู้ติดตามในโซเชียล

“ที่เบไปเรียนเอาใบ PT (Personal Trainer) นี้ เพราะเบคิดว่าเบทำเพจ ทำไอจี ทำเฟสบุ๊ค ยูทูป์ ซึ่งคนที่ฟอลโลว์เราเค้าล้วนอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายทั้งนั้นเลย ตอนแรกคือ เราก็ตอบไม่ถูก เราไม่รู้จะตอบยังไง ถ้าเกิดคนถาม แบบควรจะออกกำลังกายวันละกี่นาทีคะ ออกยังไงบ้าง เราได้แค่แบบ เราออกแบบนี้ เราก็ได้บอกแค่นี้ แต่ทีนี้พอเราไปศึกษา ได้ไปเรียน ลงคอร์สอะไรจริงจังแล้ว มันทำให้เราสามารถให้คำปรึกษากับเค้าได้

ไม่ได้ตั้งใจว่าเราอยากมาเทรนตัวต่อตัว ใคร แต่คือแค่อยากจะมีคลังความรู้ในสมองของเรา เพื่อที่ว่าเราจะให้ข้อมูลกับคนที่ต้องการ อยากรู้จากเราได้”

*ภูมิใจเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายออกกำลังกาย *

“การออกกำลังกายช่วยเรื่องสมาธิ ช่วยเรื่องความคิด วินัย ก็คือถ้าเรามีวินัยปุ๊บ มันก็ทำให้เราจัดการหลายๆ เรื่องได้อย่างง่ายขึ้น

*อย่างหนึ่งเลยที่รู้สึกดีคือ ‘ทัศนคติ’ มันทำให้เรารู้สึกพอใจในตัวเองมากขึ้น ถ้าอย่างแต่ก่อน เวลาที่เราเข้าวงการใหม่ๆ แค่มีความรู้สึกว่า เราอยากจะแบบยังไงก็ได้ให้ผอม หน้าเล็ก ขาวที่สุด ต้องไม่มีเนื้อ ไม่มีไขมันอะไรเลย หน้าจอจะได้พอดี เราคิดอย่างนั้น มันทำให้เราเคยถึงขั้นอดอาหาร ไม่กินข้าวอะไรเลย เพราะว่าทำไมหน้าบวมจังเลย กล้อง รู้สึกไม่พอใจ หรือว่ากลัวแดด ไม่กล้าตากแดดเลย เพราะว่าอยากจะต้องขาวที่สุด ดูดีที่สุด*

พอเราเริ่มออกกำลังกาย ทำให้มีทัศนคติใหม่ว่าเราก็ดูดีในแบบของเราเอง ไม่เห็นต้องขาว ไม่เห็นต้องขายาวอะไรขนาดนั้น ไม่เห็นต้องหุ่นเป็นนาฬิกาทราย ไม่เห็นต้องเอวคอดเหมือนสาวละติน หรือนางแบบ

มันทำให้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกอย่างที่เราค่อยๆ ฝึก แล้วมันเกิดขึ้นมา มันเป็นของมีค่าของเรา เป็นสิ่งที่เราทะนุถนอม เป็นสิ่งที่เราปั้นมากับตัวของเราเอง กับความตั้งใจกับความปวดมากๆ กับเหงื่อ กับเวลาที่เราทุ่มเทไป มันทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น และก็ทำให้เรามองคนอื่นจากภายในของเขา ไม่ได้มองแค่ภายนอก คนนี้จมูกสวย คนนี้ขาวดีจังเลย ทำให้รู้สึกว่า ยิ่งผู้หญิงที่ออกกำลังกาย เรารู้สึกว่าเค้าสวย เค้ามีความทุ่มเท เค้ารักตัวเอง เค้าดูแลตัวเองเป็น มันมีเสน่ห์”

ขอบคุณ Smash Gym เอื้อเฟื้อสถานที่