โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ฟันแล้ว! สธ. แบน “ไขมันทรานส์” เด็ดขาด

new18

อัพเดต 15 ก.ค. 2561 เวลา 11.18 น. • เผยแพร่ 15 ก.ค. 2561 เวลา 11.15 น. • new18
ฟันแล้ว! สธ. แบน “ไขมันทรานส์” เด็ดขาด
กระทรวงสาธารณสุข ประกาศห้ามผลิต-นำเข้า-จำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ ด้วยมีกรดไขมันทรานส์ทำลายสุขภาพ

ภาพ  Jonathan Vasata / Shutterstock.com
กระทรวงสาธารณสุข ประกาศห้ามผลิต-นำเข้า-จำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ ด้วยมีกรดไขมันทรานส์ทำลายสุขภาพ

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยระบุว่า ปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน และอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ภาพ paprica home / Shutterstock.com
ทั้งนี้ อาหารที่มีกรดไขมันทรานส์อยู่มาก เช่น กลุ่มอาหารฟาสต์ฟูดที่ใช้เป็นน้ำมันสำหรับทอดไก่ มันฝรั่ง โดนัท หรือการนำมาใช้ในการประกอบกิจการเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียมและวิปปิ้งครีม ดังนั้น อุตสาหกรรมอาหารจึงนิยมใช้ผสมในอาหารและขนม

ภาพ Room's Studio / Shutterstock.com
ไขมันทรานส์จัดเป็นไขมันชนิดที่อันตรายสูงสุดต่อสุขภาพ โดยเป็นสาเหตุของโรคมากมาย อาทิ โรคอ้วนลงพุง และยังเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง ตลอดจนไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้มากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานอาหารไขมันทรานส์ เสี่ยงต่อการเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม ทำให้นิ่วในถุงน้ำดีอักเสบ นอกจากนั้นยังอาจทำให้ผู้หญิงอยู่ในภาวะมีบุตรได้ยากขึ้นอีกด้วย 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0