วันที่ 11 พ.ย. 62 ความคืบหน้ากรณีนายจำเนียร แก้วโต อายุ 59 ปี พร้อมด้วยนายณัฐพงษ์ แก้วโต อายุ 23 ปี ลูกชาย เข้าแจ้งความหลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์นำโดยนายเบิร์ด เข้ามาทำร้ายร่างกายหลายครั้ง หลังลูกชายยืมเงินไปจำนวน 2,500 บาท เพื่อใช้ประกันตัวในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่ได้คืนเงิน เหตุเกิดที่ซอยเพชรหึงษ์ 25 ม.7 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
โดยนายจำเนียร แก้วโต ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายตนถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นลูกชายได้ยืมเงินนายเบิร์ดซึ่งเป็นเพื่อน จำนวน 2,500 บาท เพื่อมาประกันตัวต่อสู้คดี แต่สุดท้ายลูกชายต้องโทษติดคุกไปเป็นเวลา 3 เดือน และเพิ่งออกจากเรือนจำมาช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ส.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. นายเบิร์ดยกพวกมาราว 6-7 คน เพื่อมาทวงถามหนี้ ซึ่งลูกชายตนบอกไปว่าเพิ่งออกมาจากคุก ยังไม่มีเงินจ่าย ต้องรอได้ทำงานก่อน จากนั้นกลุ่มนายเบิร์ดได้ทำร้ายลูกชายตน โดยใช้ไม้ตีที่แขน รวมถึงพยายามใช้ไม้ตีศีรษะตน แต่ตนใช้แขนบังไว้จึงโดนไม้ตีที่แขนเช่นเดียวกัน หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.พระประแดง ตำรวจได้เรียกตัวคนก่อเหตุมาทำบันทึกก่อนปล่อยตัวไป
แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ตนอยู่บ้านคนเดียว มีเพื่อนลูกชายมาเคาะประตู เมื่อเปิดออกไปพบนายเบิร์ดกับพวกอีก 2 คน โดยอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นตำรวจบังคับให้ตนขึ้นรถเก๋ง และกดศีรษะตนไว้ไม่ให้มองทาง พร้อมใช้ปืนจี้ ใช้ไม้ตีที่กลางศีรษะและกระแทกที่คาง พร้อมตบหน้าตน ก่อนนำตนไปทิ้งไว้ที่ย่านราษฏร์บูรณะ ซึ่งตนต้องนั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้านเอง
นายจำเนียรเชื่อว่าปมเหตุเป็นเรื่องเงินที่ยืมไปเหมือนเช่นเคย ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าลูกชายยังไม่ได้คืนเงิน เพราะลูกชายไม่เคยเล่าให้ฟัง โดยลูกชายบอกว่ายังไม่มีเงิน ส่วนตนเองก็ไม่มีเงินเช่นกัน การกระทำของกลุ่มคนร้าย ตนมองว่าเป็นการทำที่เกินกว่าเหตุ จึงเข้าแจ้งความและขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านนายบัญชา (นามสมมติ) ลุงของนายธวัชชัย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายณัฐพงษ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนทราบว่านายธวัชชัยถูกทำร้ายร่างกายจากกลุ่มของนายเบิร์ดหลายครั้ง เนื่องจากอีกฝ่ายเห็นว่าหลานชายของตนเป็นเพื่อนสนิทของนายณัฐพงษ์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการยืมเงินแล้วไม่ยอมคืน หลานเคยถูกซ้อมจนใบหน้าปูดบวม ต้องรักษานานนับเดือน จนล่าสุดคือวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นายเบิร์ดและพวกอีก 2 คน ถือปืนมาขู่ให้หลานชายตนขึ้นรถ ก่อนพาตัวไปหานายณัฐพงษ์ที่บ้าน แต่พบเพียงนายจำเนียร ผู้เป็นพ่อ โดยกลุ่มนายเบิร์ดขอให้หลานชายตนทำร้ายพ่อนายณัฐพงษ์ แต่หลายชายตนไม่ยอมทำตาม จึงถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนที่นายจำเนียรถูกบังคับขึ้นรถนั้น ตนไม่ทราบเพราะหลานชายไม่ได้พูดถึง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าหลานชายของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่ยืมมา แต่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวเพราะเป็นเพื่อนของนายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นลูกหนี้ โดยหลังเกิดเหตุหลานชายไม่ได้เข้าแจ้งความ เพราะอยากให้จบเรื่อง เนื่องจากกลุ่มนายเบิร์ดมีนิสัยอันธพาลไม่เกรงกลัวใคร ส่วนนายณัฐพงษ์นั้นตนก็ยอมรับว่าทำไม่ถูกที่ไม่ยอมคืนเงินอีกฝ่าย แต่เท่าที่สังเกตเจ้าตัวก็นิสัยดี มีสัมมาคารวะ ไม่ได้ชอบหาเรื่องคนอื่นตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ขณะที่ น.ส.ยุ้ย แฟนของน้องชายนายเบิร์ด ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 เดือน นายณัฐพงษ์โทรศัพท์มาขอยืมเงินไปประกันตัวเอง หลังถูกจับในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตนได้ไปยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาให้ โดยนายจำเนียร พ่อนายณัฐพงษ์ เป็นคนมารับเงินไปจำนวน 5,000 บาท จนได้รับการประกันตัวออกมา อีกฝ่ายก็ไม่ยอมคืนเงินทำนิ่งเฉยมาตลอด จนวันที่ 11 ส.ค. นายเบิร์ด พร้อมด้วยแฟนของตน และเพื่อนได้ไปทวงเงินอีกฝ่ายที่บ้าน ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดแต่มีการแจ้งความและจบคดีไปแล้ว
ส่วนกรณีวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อนายณัฐพงษ์ อ้างว่าถูกนายเบิร์ดใช้ปืนจี้ พร้อมใช้ไม่ตีศีรษะนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่อง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะรุนแรงตามที่พ่อของอีกฝ่ายกล่างอ้าง
https://youtu.be/behBDsPiGzo